ASTVผู้จัดการรายวัน-ทอท.สรุปทางออกปัญหาสัญญาจ้างยามกลุ่มล็อกซเล่ย์ หลังหมดทางปรับลดอายุสัญญาจาก 10 ปีเหลือ 5 ปี ตามมติบอร์ดชุด ”สพรั่ง”ได้ เหตุสัญญาไม่เปิดช่อง สรุปทำได้แค่ปรับวิธีการจ่ายเงินค่าจ้างใหม่ เพื่อให้เป็นธรรมกับทอท.มากขึ้น เผยสัญญากำหนดจ่ายค่าจ้างคงที่ทุกเดือนตลอด 10 ปี รอนโยบาย ”ปิยะพันธ์”ก่อนเดินหน้า “เสรีรัตน์”คุมเข้มพนักงาน Outsource พบทำผิดคู่สัญญาต้องร่วมรับผิดชอบด้วย
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ทอท. กำลังรอนโยบายจากคณะกรรมการทอท. ที่มีนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต เป็นประธานว่าจะมีนโยบายในการดำเนินการอย่างไร ในสัญญาที่บริษัท เอเชีย ซิเคียวริตี้ เมเนจเม้นท์ จำกัด (ASM) ซึ่งอยู่ในกลุ่มล็อกซเล่ย์-ไอ ซี ที เอส คอนซอร์เตียม ซึ่งทอท.ว่าจ้างให้เป็นผู้ให้บริการงานรักษาความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยล่าสุดมี 2 แนวทาง คือ ปรับลดอายุสัญญาลง หรือปรับเปลี่ยนการจ่ายค่าจ้างที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับทอท.มากขึ้นตลอดอายุสัญญา 10 ปี
ส่วนนโยบายของประธานบอร์ดทอท. ที่ต้องการให้หน่วยงานภายนอกเข้ามาตรวจสอบผลการทำงานของล็อกซ์เล่ย์ ร่วมกับคณะกรรมการตรวจการจ้างของทอท. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นนั้น ถือเป็นแนวทางที่ดีและเชื่อว่าการมีคนกลางเข้ามาร่วมตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของกลุ่มล็อกซ์เล่ย์ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานด้านรักษาความปลอดภัยของสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้นแน่นอน ซึ่งหน่วยงานภายนอกอาจจะเป็นกรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) หรือ Transportation Security Administration (TSA) เป็นต้น
ก่อนหน้านี้ นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานบอร์ดทอท. เคยกล่าวว่า จะต้องมีการพิจารณาในด้านประสิทธิภาพการทำงานของ กลุ่มล็อกซเล่ย์-ไอ ซี ที เอส คอนซอร์เตียม และจะพิจารณาว่าจ้างหน่วยงานอิสระภายนอกเข้ามาเป็นคณะกรรมการประเมินผลการทำงานของกลุ่มล็อกซเล่ย์แทนเจ้าหน้าที่ทอท. เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการเอื้อประโยชน์และเพิ่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากที่สุด
สำหรับกรณี มติคณะกรรมการทอท.ชุดที่มีพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นประธานที่ให้ลดระยะเวลาสัญญาจ้างกลุ่มล็อกซเล่ย์ จาก 10 ปีเหลือ 5 ปี และตั้งคณะทำงานมีนายอุทิศ ธรรมวาทิน เป็นประธานนั้น แหล่งข่าวจากทอท.กล่าวว่า คณะทำงานได้สรุปแนวทางที่เหมาะสมและทำให้ทอท.ได้ประโยชน์แล้ว โดยในส่วนของการปรับลดอายุสัญญาลงจาก 10 ปีเหลือ 5 ปี นั้น ไม่สามารถทำได้ ยกเว้นการยกเลิกสัญญากรณีที่ ล็อกซเล่ย์ผิดสัญญา จึงเสนอให้พิจารณาปรับเปลี่ยนวิธีการจ่ายค่าจ้างใหม่เพื่อให้เป็นธรรมกับทอท.มากขึ้น โดยขณะนี้ข้อมูลทั้งหมดอยู่ที่ฝ่ายกฎหมายของทอท.
ทั้งนี้ คณะทำงานเห็นว่า ควรเปลี่ยนแปลงในส่วนจ้างรายเดือนใหม่ ซึ่งกำหนดจ่ายค่าจ้างอัตราคงที่ทุกเดือนตลอดอายุสัญญา 10 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับค่าของเงินที่เปลี่ยนไปในอนาคต เนื่องจากสัญญามีอายุนานถึง 10 ปี โดยค่าจ้างรวมตลอดอายุสัญญา 10 ปี ประมาณ 5,419.55 ล้านบาท
นายเสรีรัตน์กล่าวว่า ที่ผ่านมาทอท.ได้เข้มงวดการทำงานของบริษัทที่ให้บริการ ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมากขึ้น โดยเฉพาะบริษัท Outsource ทั้งที่ทำสัญญากับทอท.โดยตรงซึ่งมีพนักงานรวมกว่า 6,000 คนและเป็นพนักงาน Outsource ในส่วนของบริษัทคู่สัญญากับทอท. ซึ่งส่วนนี้มีพนักงานกว่า 10,000 คน โดยทอท.ได้แจ้งให้บริษัทคู่สัญญาทราบถึงนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้นแล้ว จากบทลงโทษเดิมของบริษัทต่างๆ ที่หากพบพนักงานทำผิดจะถูกไล่ออกทันทีแล้วนั้นผู้ควบคุมพนักงานที่ทำผิด (ซูปเปอร์ไวเซอร์) จะต้องรับผิดชอบด้วย เช่น ถูกยึดบัตรเข้าออกพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการควบคุมต่อเป็นลำดับชั้นจากเดิมที่พนักงานที่ทำผิดจะรับโทษฝ่ายเดียว
“ลงโทษคนที่ทำผิด ด้วยการไล่ออก คนใหม่เข้ามาก็ทำผิดอีกได้ แต่คนที่คุมพนักงาน Outsource ของบริษัทต่างๆ จะต้องร่วมรับผิดชอบด้วย จะได้ช่วยกลั่นกรองคนที่เข้ามาทำงานและควบคุมดูแลพนักงานต่างๆ ด้วย “นายเสรีรัตน์กล่าว
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ทอท. กำลังรอนโยบายจากคณะกรรมการทอท. ที่มีนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต เป็นประธานว่าจะมีนโยบายในการดำเนินการอย่างไร ในสัญญาที่บริษัท เอเชีย ซิเคียวริตี้ เมเนจเม้นท์ จำกัด (ASM) ซึ่งอยู่ในกลุ่มล็อกซเล่ย์-ไอ ซี ที เอส คอนซอร์เตียม ซึ่งทอท.ว่าจ้างให้เป็นผู้ให้บริการงานรักษาความปลอดภัย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยล่าสุดมี 2 แนวทาง คือ ปรับลดอายุสัญญาลง หรือปรับเปลี่ยนการจ่ายค่าจ้างที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับทอท.มากขึ้นตลอดอายุสัญญา 10 ปี
ส่วนนโยบายของประธานบอร์ดทอท. ที่ต้องการให้หน่วยงานภายนอกเข้ามาตรวจสอบผลการทำงานของล็อกซ์เล่ย์ ร่วมกับคณะกรรมการตรวจการจ้างของทอท. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นนั้น ถือเป็นแนวทางที่ดีและเชื่อว่าการมีคนกลางเข้ามาร่วมตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของกลุ่มล็อกซ์เล่ย์ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานด้านรักษาความปลอดภัยของสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้นแน่นอน ซึ่งหน่วยงานภายนอกอาจจะเป็นกรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) หรือ Transportation Security Administration (TSA) เป็นต้น
ก่อนหน้านี้ นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานบอร์ดทอท. เคยกล่าวว่า จะต้องมีการพิจารณาในด้านประสิทธิภาพการทำงานของ กลุ่มล็อกซเล่ย์-ไอ ซี ที เอส คอนซอร์เตียม และจะพิจารณาว่าจ้างหน่วยงานอิสระภายนอกเข้ามาเป็นคณะกรรมการประเมินผลการทำงานของกลุ่มล็อกซเล่ย์แทนเจ้าหน้าที่ทอท. เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการเอื้อประโยชน์และเพิ่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากที่สุด
สำหรับกรณี มติคณะกรรมการทอท.ชุดที่มีพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นประธานที่ให้ลดระยะเวลาสัญญาจ้างกลุ่มล็อกซเล่ย์ จาก 10 ปีเหลือ 5 ปี และตั้งคณะทำงานมีนายอุทิศ ธรรมวาทิน เป็นประธานนั้น แหล่งข่าวจากทอท.กล่าวว่า คณะทำงานได้สรุปแนวทางที่เหมาะสมและทำให้ทอท.ได้ประโยชน์แล้ว โดยในส่วนของการปรับลดอายุสัญญาลงจาก 10 ปีเหลือ 5 ปี นั้น ไม่สามารถทำได้ ยกเว้นการยกเลิกสัญญากรณีที่ ล็อกซเล่ย์ผิดสัญญา จึงเสนอให้พิจารณาปรับเปลี่ยนวิธีการจ่ายค่าจ้างใหม่เพื่อให้เป็นธรรมกับทอท.มากขึ้น โดยขณะนี้ข้อมูลทั้งหมดอยู่ที่ฝ่ายกฎหมายของทอท.
ทั้งนี้ คณะทำงานเห็นว่า ควรเปลี่ยนแปลงในส่วนจ้างรายเดือนใหม่ ซึ่งกำหนดจ่ายค่าจ้างอัตราคงที่ทุกเดือนตลอดอายุสัญญา 10 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับค่าของเงินที่เปลี่ยนไปในอนาคต เนื่องจากสัญญามีอายุนานถึง 10 ปี โดยค่าจ้างรวมตลอดอายุสัญญา 10 ปี ประมาณ 5,419.55 ล้านบาท
นายเสรีรัตน์กล่าวว่า ที่ผ่านมาทอท.ได้เข้มงวดการทำงานของบริษัทที่ให้บริการ ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมากขึ้น โดยเฉพาะบริษัท Outsource ทั้งที่ทำสัญญากับทอท.โดยตรงซึ่งมีพนักงานรวมกว่า 6,000 คนและเป็นพนักงาน Outsource ในส่วนของบริษัทคู่สัญญากับทอท. ซึ่งส่วนนี้มีพนักงานกว่า 10,000 คน โดยทอท.ได้แจ้งให้บริษัทคู่สัญญาทราบถึงนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้นแล้ว จากบทลงโทษเดิมของบริษัทต่างๆ ที่หากพบพนักงานทำผิดจะถูกไล่ออกทันทีแล้วนั้นผู้ควบคุมพนักงานที่ทำผิด (ซูปเปอร์ไวเซอร์) จะต้องรับผิดชอบด้วย เช่น ถูกยึดบัตรเข้าออกพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการควบคุมต่อเป็นลำดับชั้นจากเดิมที่พนักงานที่ทำผิดจะรับโทษฝ่ายเดียว
“ลงโทษคนที่ทำผิด ด้วยการไล่ออก คนใหม่เข้ามาก็ทำผิดอีกได้ แต่คนที่คุมพนักงาน Outsource ของบริษัทต่างๆ จะต้องร่วมรับผิดชอบด้วย จะได้ช่วยกลั่นกรองคนที่เข้ามาทำงานและควบคุมดูแลพนักงานต่างๆ ด้วย “นายเสรีรัตน์กล่าว