ASTVผู้จัดการรายวัน - ศาลจังหวัดปทุมธานี ยกฟ้อง “สนธิ” กับพวก หมิ่น “ทักษิณ” ประณามแก้ไขรัฐธรรมนูญ ศาลชี้ ผู้รับมอบอำนาจไม่มีอำนาจดำเนินคดีฟ้องแทน เหตุหลักฐานลายมือชื่อมอบอำนาจน่าสงสัย อีกทั้งผู้ฟ้องไม่มีพยานเบิกความยืนยัน พิพากษาให้ยกฟ้อง
วานนี้ (18 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดปทุมธานี ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ 1234/2551 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้นายพิชา ป้อมค่าย เป็นโจทก์ฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข พลตรีจำลอง ศรีเมือง นายสุริยะใส กตะศิลา บริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด เป็นจำเลยที่ 1- 8 ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
คำฟ้องระบุว่า เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2551 เวลากลางวัน จำเลยทั้ง 8 ได้ร่วมกันโฆษณาด้วยเอกสารและคำแถลงเรื่องการคัดค้านและประณามการแก้ไข้รัฐธรรรมนูญ เพื่อลบล้างความผิดของตนเองและพวกพ้อง ผ่านการถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชังจากประชาชนทั่วไป
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า คดีนี้มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยประเด็นแรก โจทก์เป็นผู้ลงลายมือชื่อมอบอำนาจให้ นายพิชา ป้อมค่าย เป็นผู้ดำเนินคดีแทนจริงหรือไม่ ปัญหานี้โจทก์ไม่ได้มาเบิกความเป็นทนาย เพื่อยืนยันว่าโจทก์เป็นผู้ลงลายมือชื่อมอบอำนาจให้นายพิชา ป้อมค่าย ดำเนินคดีแทน โจทก์คงมีนายพิชา ป้อมค่าย ผู้รับมอบอำนาจ เป็นพยานปากเดียว เบิกความว่า พยานเป็นผู้รับมอบอำนาจของโจทก์ ตามสำเนาหนังสือมอบอำนาจ เอกสารหมาย จ.1 แต่นายพิชา ป้อมค่าย เบิกความตอบทนายจำเลยทั้งแปดว่าเอกสารหมาย จ.1 ทำในและลงลายมือชื่อที่อาคารชินวัตร ถนนวิภาวดีรังสิต แต่จะทำที่บริษัทอะไร ชั้นอะไร จำไม่ได้ ทำให้น่าสงสัยว่า โจทก์ลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวจริงหรือไม่ นอกจากนี้ โจทก์ไม่มีบุคคลที่รู้เห็นการลงลายมือชื่อของโจทก์ในหนังสือมอบอำนาจมาเป็นพยานเบิกความสนับสนุน ประกอบกับเอกสารหมาย จ.1 เป็นสำเนาไม่ใช่ต้นฉบับ
ทั้งนี้ นายพิชา ป้อมค่าย ตอบค้านว่า หนังสือมอบอำนาจทำต้นฉบับไว้ 2 ฉบับ มีข้อความตรงกับกับเอกสารหมาย จ.1 ต้นฉบับอีกฉบับหนึ่งนั้นพยานเป็นผู้เก็บไว้ไม่ได้ส่งเป็นพยานต่อศาล จึงยิ่งเป็นพยานหลักฐานสนับสนุนให้น่าสงสัยยิ่งขึ้นว่า โจทก์เป็นผู้ลงลายมือชื่อมอบอำนาจในเอกสารหมาย จ.1 จริงหรือไม่ พยานหลักฐานของโจทก์ในชั้นนี้ จึงรับฟังไม่ได้ว่า โจทก์เป็นผู้ลงลายมือชื่อมอบอำนาจให้นายพิชา ป้อมค่าย ดำเนินคดีแทนตามเอกสารหมาย จ.1 นายพิชา ป้อมค่าย จึงไม่มีอำนาจดำเนินคดีแทนโจทก์ ส่วนประเด็นเรื่องคดีโจทก์มีมูลหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย เพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไป พิพากษายกฟ้อง
วานนี้ (18 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดปทุมธานี ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ 1234/2551 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้นายพิชา ป้อมค่าย เป็นโจทก์ฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข พลตรีจำลอง ศรีเมือง นายสุริยะใส กตะศิลา บริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด เป็นจำเลยที่ 1- 8 ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
คำฟ้องระบุว่า เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2551 เวลากลางวัน จำเลยทั้ง 8 ได้ร่วมกันโฆษณาด้วยเอกสารและคำแถลงเรื่องการคัดค้านและประณามการแก้ไข้รัฐธรรรมนูญ เพื่อลบล้างความผิดของตนเองและพวกพ้อง ผ่านการถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี ทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชังจากประชาชนทั่วไป
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า คดีนี้มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยประเด็นแรก โจทก์เป็นผู้ลงลายมือชื่อมอบอำนาจให้ นายพิชา ป้อมค่าย เป็นผู้ดำเนินคดีแทนจริงหรือไม่ ปัญหานี้โจทก์ไม่ได้มาเบิกความเป็นทนาย เพื่อยืนยันว่าโจทก์เป็นผู้ลงลายมือชื่อมอบอำนาจให้นายพิชา ป้อมค่าย ดำเนินคดีแทน โจทก์คงมีนายพิชา ป้อมค่าย ผู้รับมอบอำนาจ เป็นพยานปากเดียว เบิกความว่า พยานเป็นผู้รับมอบอำนาจของโจทก์ ตามสำเนาหนังสือมอบอำนาจ เอกสารหมาย จ.1 แต่นายพิชา ป้อมค่าย เบิกความตอบทนายจำเลยทั้งแปดว่าเอกสารหมาย จ.1 ทำในและลงลายมือชื่อที่อาคารชินวัตร ถนนวิภาวดีรังสิต แต่จะทำที่บริษัทอะไร ชั้นอะไร จำไม่ได้ ทำให้น่าสงสัยว่า โจทก์ลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวจริงหรือไม่ นอกจากนี้ โจทก์ไม่มีบุคคลที่รู้เห็นการลงลายมือชื่อของโจทก์ในหนังสือมอบอำนาจมาเป็นพยานเบิกความสนับสนุน ประกอบกับเอกสารหมาย จ.1 เป็นสำเนาไม่ใช่ต้นฉบับ
ทั้งนี้ นายพิชา ป้อมค่าย ตอบค้านว่า หนังสือมอบอำนาจทำต้นฉบับไว้ 2 ฉบับ มีข้อความตรงกับกับเอกสารหมาย จ.1 ต้นฉบับอีกฉบับหนึ่งนั้นพยานเป็นผู้เก็บไว้ไม่ได้ส่งเป็นพยานต่อศาล จึงยิ่งเป็นพยานหลักฐานสนับสนุนให้น่าสงสัยยิ่งขึ้นว่า โจทก์เป็นผู้ลงลายมือชื่อมอบอำนาจในเอกสารหมาย จ.1 จริงหรือไม่ พยานหลักฐานของโจทก์ในชั้นนี้ จึงรับฟังไม่ได้ว่า โจทก์เป็นผู้ลงลายมือชื่อมอบอำนาจให้นายพิชา ป้อมค่าย ดำเนินคดีแทนตามเอกสารหมาย จ.1 นายพิชา ป้อมค่าย จึงไม่มีอำนาจดำเนินคดีแทนโจทก์ ส่วนประเด็นเรื่องคดีโจทก์มีมูลหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย เพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไป พิพากษายกฟ้อง