ชาวอินโดนีเซียจำนวนมากต่างรู้สึกหายใจหายคอได้คล่องขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อพวกเครือข่ายโทรทัศน์ในท้องถิ่นพากันประกาศว่า เจ้าหน้าที่สามารถเด็ดชีพ นูร์ดิน โมฮัมหมัด ท็อป ผู้ก่อการร้ายซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในอินโดนีเซีย
จากรายงานข่าวที่ทีวีหลายๆ ช่องพากันออกอากาศถ่ายทอดกันสดๆ เลยนั้น ในช่วงต้นๆ มีการระบุว่า ท็อปได้ถูกฆ่าตายระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมบ้านชนบทหลังหนึ่งซึ่งเข้าใจกันว่าเป็นที่ซ่อนตัวของเขาในจังหวัดชวากลาง แล้วเกิดการต่อสู้กันอยู่เป็นเวลา 16 ชั่วโมง รายงานข่าวเหล่านี้บางชิ้นมีข้อความกำกับเอาไว้ด้วยว่า ตำรวจอินโดนีเซียซึ่งเป็นผู้ดำเนินการสืบสวน, ติดตามและเข้าล้อมผู้ต้องสงสัยรายนี้เอาไว้นั้น ยังไม่ได้มีการแถลงยืนยันออกมาอย่างเป็นทางการว่า ท็อปถูกจับกุมหรือถูกฆ่าตาย
กระนั้นก็ตาม สื่อมวลชนระหว่างประเทศก็เลือกที่จะกระจายข่าวเรื่องท็อปถูกสังหารออกไปอย่างกว้างขวาง แล้วยังถูกนำมาขยายผลกันต่อภายในอินโดนีเซียอีกด้วย ปัญหามีอยู่เพียงประการเดียว นั่นก็คือ ท่าทีแบบไม่ยืนยันให้มั่นเหมาะของฝ่ายตำรวจ กลับกลายเป็นการเดินหมากทางการประชาสัมพันธ์ที่ถูกต้องเหมาะสมไปเสียฉิบ
ท็อปนั้นความจริงแล้วเกิดและเติบโตในมาเลเซีย แต่ปฏิบัติการก่อการร้ายที่เป็นข่าวโด่งดังของเขาส่วนใหญ่เกิดขึ้นในอินโดนีเซีย เขาถูกกล่าวหาว่าเป็นมือทำระเบิดตัวฉกาจและมือหาเงินตัวหลักให้แก่กลุ่มญะมาอะห์ อิสลามิยะห์ (เจไอ) กลุ่มก่อการร้ายที่มีความเกี่ยวพันกับอัลกออิดะห์ ก่อนที่เขาจะแยกออกมาตั้งกลุ่มของเขาเองซึ่งนิยมใช้ความรุนแรงมากกว่ากลุ่มเจไอเดิมเสียด้วยซ้ำ ท็อปกลายเป็นหนึ่งในอาชญากรซึ่งเป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในเอเชีย แต่เขาก็ดูเหมือนจะมีเครือข่ายผู้ที่นับถือศรัทธาเขาภายในอินโดนีเซีย และมีอำนาจในการเกลี้ยกล่อมจูงใจคนได้อย่างแปลกประหลาด โดยทำให้ผู้คนไม่เพียงยอมช่วยเหลือซ่อนตัวเขาจากผู้ไล่ล่าเท่านั้น แต่ยังเข้าร่วมในการโจมตีแบบฆ่าตัวตายอันเอิกเกริกเกรียวกราวกับเขาอีกด้วย
การที่ท็อปยังคงสามารถเคลื่อนไหวไปทั่วประเทศอินโดนีเซียโดยไม่ได้ถูกเล่นงานลงโทษอะไร พร้อมกันนั้นก็สามารถที่จะหาวัสดุต่างๆ สำหรับการทำระเบิด, หาสถานที่, ยานพาหนะ, ที่พำนักพักพิง, การเงิน, และสมาชิกใหม่ๆ ทั้งที่ถูกขึ้นบัญชีเป็น "บุคคลที่ต้องการตัวมากที่สุด" ในทุกๆ บัญชีในเอเชียและต่างแดน เหล่านี้ทำให้เกิดความรับรู้เข้าใจขึ้นมาว่า แรงสนับสนุนอุดมการณ์แห่งการใช้ความรุนแรงของเขานั้น มีรากฐานอันลึกซึ้งยิ่งนัก ทุกๆ ขณะที่เขายังคงรอดพ้นเงื้อมมือของทางการ ย่อมเป็นการตอกย้ำเพิ่มน้ำหนักให้แก่ความสงสัยดังกล่าวนี้
ขณะเดียวกัน พวกสื่อมวลชนท้องถิ่นก็มีงานภาคสนามทำกันอย่างเต็มไม้เต็มมือทีเดียว เครือข่ายและสถานีโทรทัศน์ทุกๆ แห่งในอินโดนีเซียที่มีเครื่องมืออุปกรณ์ในการออกอากาศระบบทางไกล ต่างพากันตัดสินใจถ่ายทอดการไล่ล่าและการต่อสู้คราวนี้กันแบบสดๆ และการรายงานข่าวเหตุการณ์คราวนี้ ทำท่าจะกลายเป็นเรื่องระดับตำนานสำหรับสื่อมวลชนอินโดนีเซีย มันได้เร่งรัดให้พวกบริษัททีวีที่เป็นคู่แข่งกันต้องต่อสู้ช่วงชิงกันเสนอข่าวให้ได้ก่อนคนอื่นๆ ถึงขั้นทำให้มีการรายงานข่าวลือและประเด็นน่าสงสัยทุกๆ อย่างเหมือนกับว่าเป็นข้อเท็จจริงที่มีหลักฐานรองรับหนักแน่น
พวกตำรวจได้ประณามกล่าวโทษสื่อมวลชนว่าเป็นต้นเหตุของความสับสนวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้นมา พวกเขาอ้างว่าการรายงานข่าวกระทำกันในลักษณะที่ก้าวร้าวอย่างเกินเลยไปมาก เป็นการละเมิดและแทรกแซงการปฏิบัติการของตำรวจ ทั้งนี้มีการชี้นิ้วออกมาด้วยว่า การที่พวกนักข่าวเข้าไปอยู่ใกล้กับจุดปฏิบัติการของตำรวจ ตลอดจนการถ่ายทอดสดออกอากาศเหตุการณ์คราวนี้นี่แหละ ทำให้การประจันหน้าระหว่างคนร้ายกับตำรวจต้องยืดเยื้อออกไป และทำให้พวกผู้ก่อการร้ายที่ถูกปิดล้อมอยู่ ได้รับข่าวกรองอันทรงคุณค่าเกี่ยวกับยุทธวิธีและยุทธศาสตร์ของตำรวจ
การรายงานข่าวการปิดล้อมและยิงต่อสู้กันคราวนี้ ยังทำท่าจะเพิ่มอันตรายในอีกด้านหนึ่ง นั่นคือมันจะเป็นการตอกย้ำความตึงเครียดที่มีกันอยู่แล้วระหว่างตำรวจกับสื่อมวลชน ในตอนแรกทีเดียวตำรวจได้รับการยกย่องเชิดชูจากสื่อ สืบเนื่องจากความสำเร็จในการเล่นงานผู้ก่อการร้ายที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุด แต่แล้วต่อมาสื่อก็กลับหันมากล่าวประณามติเตียนตำรวจว่าเป็นพวกอยากดังที่หิวกระหายชื่อเสียงและเกียรติประวัติซึ่งตัวเองไม่สมควรที่จะได้รับ
ทางฝ่ายตำรวจได้ตอบโต้กลับว่า จุดยืนอย่างเป็นทางการของพวกเขาตั้งแต่เริ่มต้นเลยก็คือ ไม่ได้มีการยืนยันเลยว่าสามารถจับกุมหรือสังหารท็อปได้แล้ว และรายงานข่าวต่างๆ ที่อ้างว่าตำรวจพูดยืนยันเช่นนี้ก็ล้วนเป็นการคาดเดาเอาเองและเป็นข่าวลือทั้งนั้น กระนั้นก็ตาม พวกนักข่าวระบุว่าการที่พวกเขารายงานเรื่องท็อปเสียชีวิต ก็เนื่องมาจากข้อมูลที่ได้รับจากแหล่งข่าวต่างๆ ภายในฝ่ายตำรวจที่ขอร้องไม่ให้ระบุชื่อเสียงเรียงนามออกมานั่นเอง
(เก็บความและตัดทอนจากเรื่อง The hunt goes on for terror mastermind โดย Patrick Guntensperger นักหนังสือพิมพ์และผู้ฝึกอบรมวิชาการหนังสือพิมพ์ เขาพำนักอยู่ในกรุงจาการ์ตา)
จากรายงานข่าวที่ทีวีหลายๆ ช่องพากันออกอากาศถ่ายทอดกันสดๆ เลยนั้น ในช่วงต้นๆ มีการระบุว่า ท็อปได้ถูกฆ่าตายระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมบ้านชนบทหลังหนึ่งซึ่งเข้าใจกันว่าเป็นที่ซ่อนตัวของเขาในจังหวัดชวากลาง แล้วเกิดการต่อสู้กันอยู่เป็นเวลา 16 ชั่วโมง รายงานข่าวเหล่านี้บางชิ้นมีข้อความกำกับเอาไว้ด้วยว่า ตำรวจอินโดนีเซียซึ่งเป็นผู้ดำเนินการสืบสวน, ติดตามและเข้าล้อมผู้ต้องสงสัยรายนี้เอาไว้นั้น ยังไม่ได้มีการแถลงยืนยันออกมาอย่างเป็นทางการว่า ท็อปถูกจับกุมหรือถูกฆ่าตาย
กระนั้นก็ตาม สื่อมวลชนระหว่างประเทศก็เลือกที่จะกระจายข่าวเรื่องท็อปถูกสังหารออกไปอย่างกว้างขวาง แล้วยังถูกนำมาขยายผลกันต่อภายในอินโดนีเซียอีกด้วย ปัญหามีอยู่เพียงประการเดียว นั่นก็คือ ท่าทีแบบไม่ยืนยันให้มั่นเหมาะของฝ่ายตำรวจ กลับกลายเป็นการเดินหมากทางการประชาสัมพันธ์ที่ถูกต้องเหมาะสมไปเสียฉิบ
ท็อปนั้นความจริงแล้วเกิดและเติบโตในมาเลเซีย แต่ปฏิบัติการก่อการร้ายที่เป็นข่าวโด่งดังของเขาส่วนใหญ่เกิดขึ้นในอินโดนีเซีย เขาถูกกล่าวหาว่าเป็นมือทำระเบิดตัวฉกาจและมือหาเงินตัวหลักให้แก่กลุ่มญะมาอะห์ อิสลามิยะห์ (เจไอ) กลุ่มก่อการร้ายที่มีความเกี่ยวพันกับอัลกออิดะห์ ก่อนที่เขาจะแยกออกมาตั้งกลุ่มของเขาเองซึ่งนิยมใช้ความรุนแรงมากกว่ากลุ่มเจไอเดิมเสียด้วยซ้ำ ท็อปกลายเป็นหนึ่งในอาชญากรซึ่งเป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในเอเชีย แต่เขาก็ดูเหมือนจะมีเครือข่ายผู้ที่นับถือศรัทธาเขาภายในอินโดนีเซีย และมีอำนาจในการเกลี้ยกล่อมจูงใจคนได้อย่างแปลกประหลาด โดยทำให้ผู้คนไม่เพียงยอมช่วยเหลือซ่อนตัวเขาจากผู้ไล่ล่าเท่านั้น แต่ยังเข้าร่วมในการโจมตีแบบฆ่าตัวตายอันเอิกเกริกเกรียวกราวกับเขาอีกด้วย
การที่ท็อปยังคงสามารถเคลื่อนไหวไปทั่วประเทศอินโดนีเซียโดยไม่ได้ถูกเล่นงานลงโทษอะไร พร้อมกันนั้นก็สามารถที่จะหาวัสดุต่างๆ สำหรับการทำระเบิด, หาสถานที่, ยานพาหนะ, ที่พำนักพักพิง, การเงิน, และสมาชิกใหม่ๆ ทั้งที่ถูกขึ้นบัญชีเป็น "บุคคลที่ต้องการตัวมากที่สุด" ในทุกๆ บัญชีในเอเชียและต่างแดน เหล่านี้ทำให้เกิดความรับรู้เข้าใจขึ้นมาว่า แรงสนับสนุนอุดมการณ์แห่งการใช้ความรุนแรงของเขานั้น มีรากฐานอันลึกซึ้งยิ่งนัก ทุกๆ ขณะที่เขายังคงรอดพ้นเงื้อมมือของทางการ ย่อมเป็นการตอกย้ำเพิ่มน้ำหนักให้แก่ความสงสัยดังกล่าวนี้
ขณะเดียวกัน พวกสื่อมวลชนท้องถิ่นก็มีงานภาคสนามทำกันอย่างเต็มไม้เต็มมือทีเดียว เครือข่ายและสถานีโทรทัศน์ทุกๆ แห่งในอินโดนีเซียที่มีเครื่องมืออุปกรณ์ในการออกอากาศระบบทางไกล ต่างพากันตัดสินใจถ่ายทอดการไล่ล่าและการต่อสู้คราวนี้กันแบบสดๆ และการรายงานข่าวเหตุการณ์คราวนี้ ทำท่าจะกลายเป็นเรื่องระดับตำนานสำหรับสื่อมวลชนอินโดนีเซีย มันได้เร่งรัดให้พวกบริษัททีวีที่เป็นคู่แข่งกันต้องต่อสู้ช่วงชิงกันเสนอข่าวให้ได้ก่อนคนอื่นๆ ถึงขั้นทำให้มีการรายงานข่าวลือและประเด็นน่าสงสัยทุกๆ อย่างเหมือนกับว่าเป็นข้อเท็จจริงที่มีหลักฐานรองรับหนักแน่น
พวกตำรวจได้ประณามกล่าวโทษสื่อมวลชนว่าเป็นต้นเหตุของความสับสนวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้นมา พวกเขาอ้างว่าการรายงานข่าวกระทำกันในลักษณะที่ก้าวร้าวอย่างเกินเลยไปมาก เป็นการละเมิดและแทรกแซงการปฏิบัติการของตำรวจ ทั้งนี้มีการชี้นิ้วออกมาด้วยว่า การที่พวกนักข่าวเข้าไปอยู่ใกล้กับจุดปฏิบัติการของตำรวจ ตลอดจนการถ่ายทอดสดออกอากาศเหตุการณ์คราวนี้นี่แหละ ทำให้การประจันหน้าระหว่างคนร้ายกับตำรวจต้องยืดเยื้อออกไป และทำให้พวกผู้ก่อการร้ายที่ถูกปิดล้อมอยู่ ได้รับข่าวกรองอันทรงคุณค่าเกี่ยวกับยุทธวิธีและยุทธศาสตร์ของตำรวจ
การรายงานข่าวการปิดล้อมและยิงต่อสู้กันคราวนี้ ยังทำท่าจะเพิ่มอันตรายในอีกด้านหนึ่ง นั่นคือมันจะเป็นการตอกย้ำความตึงเครียดที่มีกันอยู่แล้วระหว่างตำรวจกับสื่อมวลชน ในตอนแรกทีเดียวตำรวจได้รับการยกย่องเชิดชูจากสื่อ สืบเนื่องจากความสำเร็จในการเล่นงานผู้ก่อการร้ายที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุด แต่แล้วต่อมาสื่อก็กลับหันมากล่าวประณามติเตียนตำรวจว่าเป็นพวกอยากดังที่หิวกระหายชื่อเสียงและเกียรติประวัติซึ่งตัวเองไม่สมควรที่จะได้รับ
ทางฝ่ายตำรวจได้ตอบโต้กลับว่า จุดยืนอย่างเป็นทางการของพวกเขาตั้งแต่เริ่มต้นเลยก็คือ ไม่ได้มีการยืนยันเลยว่าสามารถจับกุมหรือสังหารท็อปได้แล้ว และรายงานข่าวต่างๆ ที่อ้างว่าตำรวจพูดยืนยันเช่นนี้ก็ล้วนเป็นการคาดเดาเอาเองและเป็นข่าวลือทั้งนั้น กระนั้นก็ตาม พวกนักข่าวระบุว่าการที่พวกเขารายงานเรื่องท็อปเสียชีวิต ก็เนื่องมาจากข้อมูลที่ได้รับจากแหล่งข่าวต่างๆ ภายในฝ่ายตำรวจที่ขอร้องไม่ให้ระบุชื่อเสียงเรียงนามออกมานั่นเอง
(เก็บความและตัดทอนจากเรื่อง The hunt goes on for terror mastermind โดย Patrick Guntensperger นักหนังสือพิมพ์และผู้ฝึกอบรมวิชาการหนังสือพิมพ์ เขาพำนักอยู่ในกรุงจาการ์ตา)