xs
xsm
sm
md
lg

คกก.อิสลามไทยจับมือ “อินเตอร์เทคฯ” ดึงวิทยาศาสตร์การันตีฮาลาลไทยรุกทั่วโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิเชษฐ สถิรชวาล
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – คณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทยปฏิวัติตัวเอง เปิดฉากรุกสร้างตลาดสินค้าฮาลาล ที่ออกจากครัวไทย 4.5 หมื่นรายการสู่ตลาดโลก “พิเชษฐ สถิรชวาล” เลขาธิการฯ เผยจับมือบริษัท อินเตอร์เทค เซอร์วิสเซส จำกัด ผู้วิจัยและสำรวจผลิตภัณฑ์ป้อนห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของโลก 20 ราย ตั้งสำนักงานและห้องแล็ปทางวิทยาศาสตร์สำหรับรองรับอุตสาหกรรมฮาลาลในไทยร่วม 100 ล้านบาท เพื่อการันตีคุณภาพ ก่อนอาศัยช่องทางกระจายในห้างชั้นนำของโลก พร้อมดึงอินโดนีเซีย มาเลเซีย เป็นพันธมิตรร่วมสร้างแบรนด์ฮาลาลร่วมกันต่อยอด


นายพิเชษฐ สถิรชวาล เลขาธิการคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมฮาลาลมีตลาดขนาดใหญ่ผู้บริโภคทั่วโลกกว่า 1,300 ล้านคน โดยประเทศไทยจุดอยู่ในกลุ่มผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นครัวของโลก เนื่องจากปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่อนุญาตแล้วกว่า 45,000 ผลิตภัณฑ์ จากผู้ประกอบการทั้งหมดกว่า 2,000 ราย

ในอดีตบทบาทของคณะกรรมการกลางฯ มีหน้าที่เพียงแค่ออกใบอนุญาตและตรวจสอบ ควบคุมการผลิตให้เป็นไปตามหลักการศาสนากำหนดเท่านั้น แต่เมื่อผู้ประกอบการต้องการเครื่องหมายฮาลาลเพื่อเป็นเครื่องมือในการเปิดตลาด โดยเฉพาะโลกมุสลิมจึงต้องทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้มากกว่าที่เป็นอยู่ โดยแต่ละปีจะได้รับค่าธรรมเนียมส่วนนี้ประมาณ 200 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ปี 2552 ถือเป็นก้าวใหม่ของการเปลี่ยนแปลงเมื่อมีการปรับโครงสร้างครั้งครั้งใหญ่ด้วยการดึงตัวแทนจากภาครัฐเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบอร์ดบริหาร โดยมีตัวแทนจากกระทรวงต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักนายกรัฐมนตรี (สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค) กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพาณิชย์ นอกจากนี้ยังมีศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้ามาเป็นผู้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ว่ามีส่วนผสมใดที่ขัดต่อการบริโภคตามหลักการศาสนาหรือไม่

ล่าสุดคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยได้จับมือลงนามความร่วมมือกับบริษัท อินเตอร์เทค เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและสำรวจผลิตภัณฑ์ป้อนห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของโลกประมาณ 20 ราย เพื่อลงทุนตั้งสำนักงานและห้องแล็ปทางวิทยาศาสตร์สำหรับรองรับอุตสาหกรรมฮาลาลด้วยงบร่วม 100 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่สำนักงานศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลาม ถ.คลอง9 เขตหนองจอก กรุงเทพฯ ซึ่งจะยังผลประโยชน์ให้สินค้าที่ผ่านการรับเครื่องเครื่องหมายฮาลาลของไทย และอยู่ภายใต้การรับรองของบริษัท อินเตอร์เทคฯ มีช่องทางกระจายสู่ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และกลุ่มประเทศตะวันออกกลางด้วย

ทั้งนี้ บริษัทอินเตอร์เทค ยังสนับสนุนให้ไทยเป็นฐานการผลิตฮาลาลในอาเซียนในอนาคต โดยใช้เครื่องหมายฮาลาลที่เป็นหนึ่งเดียว โดยเรื่องนี้ได้มีการหารือกับองค์กรศาสนาของประเทศอินโดนีเซีย หรือ Majalis ulama Indonesia (MUI) ในฐานะเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ในเอเชียที่มีประชากรราว 216 ล้านคน รวมถึงดึงมาเลเซียเข้าร่วมกลุ่มด้วยที่สามารถอาศัยศักยภาพของไทยในการเป็นฐานการผลิต และส่งวัตถุดิบไปยังมาเลเซียเพื่อเปลี่ยนหีบห่อบรรจุภัณฑ์และติดแบรนด์ส่งจำหน่ายต่อ ซึ่งการดึงประเทศมุสลิมเข้ามีส่วนร่วม ผนวกกับการใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ตรวจสอบจะยิ่งสร้างความมั่นใจในมาตรฐานของผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลที่มาจากประเทศไทยยิ่งขึ้น

“ปัจจุบันอาหารฮาลาลนั้นไม่ได้ใช่เพื่อคนมุสลิมเท่านั้น แต่คนที่รักสุขภาพก็หันมาบริโภคเช่นกัน ตลาดส่วนนี้จึงกว้างขึ้นและมีมูลค่ามหาศาล และพบว่าผู้ประกอบการด้านนี้ไม่จำกัดว่าเฉพาะชาวมุสลิมเท่านั้นจึงจะทำได้ เชื้อชาติอื่นก็ทำได้เช่นกัน แต่ทั้งหมดต้องถูกต้องตามหลักการทางศาสนา และมีการตรวจสอบคุณภาพเพื่อสร้างความมั่นใจ ยิ่งมีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาแล้ว จะยิ่งได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค” นายพิเชษฐกล่าวต่อและว่า

นอกจากนี้แล้ว ยังมีเป้าหมายขยายพันธมิตรอุตสาหกรรมฮาลาลสู่ประเทศเพื่อนบ้านที่มีวัตถุดิบอุดมสมบูรณ์ เช่น เวียดนาม ซึ่งแม้ว่าจะมีประชากรมุสลิม 1 ล้านคน และเป็นประเทศที่มีความทรัพยากรทางทะเลซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่มาก แต่ยังไม่มีองค์กรศาสนาใดๆ ที่จะรับรองมาตรฐานอาหารฮาลาล คณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทยจึงให้ความสนใจเพื่อร่วมมือจัดระบบการตรวจสอบคุณภาพอาหารตามหลักการฮาลาลซึ่งใน 2 ปีแรกของความร่วมมือจะให้ใช้ตราฮาลาลของไทย ละหากแนวคิดนี้ประสบความสำเร็จ ก็จะขยายไปยังประเทศอื่นๆ ที่มีศักยภาพ ดังเช่นเกาหลีซึ่งแม้จะมีประชากรมุสลิมเพียง 130,000 คน แต่ก็มีกำลังซื้อสูง

ในอนาคตคาดหวังว่าสินค้าฮาลาลของไทยจะสามารถวางขายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น วอลล์มาร์ท ซึ่งมี 5,000 สาขาในสหรัฐอเมริกา และการลงนามร่วมกันบริษัท อินเตอร์เทคฯ ถือเป็นก้าวสำคัญที่นำอุตสาหกรรมฮาลาลไทยสู่ตลาดโลกในระยะอันใกล้แบบก้าวกระโดด” นายพิเชษฐกล่าวทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น