วันนี้ (26 มิ.ย.) ตัวแทนคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดและปวงสัปปุรุษ จ.นราธิวาส ประมาณ 100 คน ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยนายสุเทพ ได้กล่าวกับตัวแทนชาวไทยมุสลิมในตอนหนึ่งว่า เมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ว่า จะแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้ จึงได้ตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาเป็นการเฉพาะ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ตนเป็นรองประธาน ร่วมด้วยรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอีกหลายกระทรวง เพื่อวางนโยบายและแนวทางการพัฒนา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังได้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาเร่งรัดติดตามการทำงานให้เร็วขึ้น ในเวลา 3 ปีนี้ รัฐบาลทุ่มงบลงไป 63,000 ล้านบาท โดยเฉพาะปีแรกมีงบลงไป 18,000 ล้านบาท ซึ่งตนจะคุมเองทุกรายการ โดยมุ่งไปที่ครอบครัวของประชาชนเป็นเรื่องใหญ่ ให้กรรมการหมู่บ้านไปสำรวจว่าครอบครัวไหนยากจนและลำบากที่สุด รัฐบาลจะช่วยก่อน หากต้องการประกอบอาชีพอะไร รัฐก็พร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่
รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะปกป้องให้ประชาชนได้รับงบทั้ง 18,000 ล้านบาทแน่นอน โดย 12,000 ล้าน มาจาก พ.ร.ก.กู้เงินที่เพิ่งผ่านสภาฯ อีก 6,000 ล้าน จะใช้งบปกติ และยืนยันว่า รัฐบาลชุดนี้จะเคารพในสิทธิของพลเมือง พี่น้องประชาชนจะต้องได้รับความเคารพในสิทธิของท่าน รัฐบาล และเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะต้องไม่ไปล่วงล้ำในสิทธิของท่าน หรือปฏิบัติต่อประชาชนนอกกรอบของกฎหมายอย่างเด็ดขาด ที่เคยมีการอุ้มฆ่า ไล่ล่าประชาชน รัฐบาลนี้ไม่ทำอย่างเด็ดขาด เราจะปฏิบัติต่อพี่น้องประชาชนด้วยความเคารพ ในฐานะที่เป็นพี่น้องร่วมชาติในแผ่นดินนี้ เราต้องยอมรับกันตรง ๆ ว่า เรายอมให้คนผิดรอดคดี ดีกว่าเอาคนบริสุทธิ์ไปทำลาย ดังนั้น หากข้าราชการคนไหนทำจะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง ไม่เว้น แต่คดีลอบยิงเข้าไปในมัสยิดจังหวัดนราธิวาสนั้น ไม่ใช่ฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐแน่นอน ซึ่งนายกรัฐมนตรีจี้ทุกวันให้หาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ และนายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่เดือนกรกฎาคมนี้
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า รัฐบาลยังได้กำหนดชัดเจนว่า ในการแก้ไขปัญหาจะเน้นเรื่องการพัฒนา และภายใน 3 ปี จะแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เห็นหน้าเห็นหลัง และในยุคพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล จะไม่ยอมให้มีการแบ่งแยกดินแดน และจะไม่ยอมให้มีการเจรจา
รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะปกป้องให้ประชาชนได้รับงบทั้ง 18,000 ล้านบาทแน่นอน โดย 12,000 ล้าน มาจาก พ.ร.ก.กู้เงินที่เพิ่งผ่านสภาฯ อีก 6,000 ล้าน จะใช้งบปกติ และยืนยันว่า รัฐบาลชุดนี้จะเคารพในสิทธิของพลเมือง พี่น้องประชาชนจะต้องได้รับความเคารพในสิทธิของท่าน รัฐบาล และเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะต้องไม่ไปล่วงล้ำในสิทธิของท่าน หรือปฏิบัติต่อประชาชนนอกกรอบของกฎหมายอย่างเด็ดขาด ที่เคยมีการอุ้มฆ่า ไล่ล่าประชาชน รัฐบาลนี้ไม่ทำอย่างเด็ดขาด เราจะปฏิบัติต่อพี่น้องประชาชนด้วยความเคารพ ในฐานะที่เป็นพี่น้องร่วมชาติในแผ่นดินนี้ เราต้องยอมรับกันตรง ๆ ว่า เรายอมให้คนผิดรอดคดี ดีกว่าเอาคนบริสุทธิ์ไปทำลาย ดังนั้น หากข้าราชการคนไหนทำจะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง ไม่เว้น แต่คดีลอบยิงเข้าไปในมัสยิดจังหวัดนราธิวาสนั้น ไม่ใช่ฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐแน่นอน ซึ่งนายกรัฐมนตรีจี้ทุกวันให้หาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ และนายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่เดือนกรกฎาคมนี้
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า รัฐบาลยังได้กำหนดชัดเจนว่า ในการแก้ไขปัญหาจะเน้นเรื่องการพัฒนา และภายใน 3 ปี จะแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เห็นหน้าเห็นหลัง และในยุคพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล จะไม่ยอมให้มีการแบ่งแยกดินแดน และจะไม่ยอมให้มีการเจรจา
