xs
xsm
sm
md
lg

ปริญสิริฯปลื้มครึ่งปีกำไรโต328%เล็งปลายปีดึง2คอนโดฯรีเซลใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – นายวีระ ศรีชนะชัยโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในครึ่งปีหลัง บริษัทฯเตรียมขยายโครงการใหม่เพิ่มขึ้น 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท โดยเป็นโครงการแนวราบ ได้แก่ โครงการบริเวณถนนกัลปพฤกษ์ ลักษณะทาวน์โฮม 2 ชั้น แบบโมเดิร์น ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาท ทั้งจะมีการเปิดตัวเพิ่มสำหรับเฟสที่ 2 ในโครงการ บ้านปริญ วัชรพล-รามอินทรา เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นรุ่นใหม่ ราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท และ โครงการปริญลักษณ์ สามัคคี เฟส 2 ทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น

ขณะที่ในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดขายไปแล้ว 2 โครงการคือ โครงการบ้านปริญ วัชรพล – รามอินทรา เฟส 1 ราคาเริ่มต้นเพียง 2.19 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท และโครงการบ้านปริญสิริ กาญจนาภิเษก-เอกชัย บ้านเดี่ยวราคาเริ่มต้น 6.2 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 1,200 ล้านบาท ซึ่งจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา โครงการแนวราบทุกโครงการยังสามารถทำยอดขายได้ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีตัวเลขรอโอนเป็นยอดบันทึกรายได้( backlog) กว่า 1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในช่วงปลายปี จะนำโครงการคอนโดฯกลับมาขายใหม่ ( resale ) คือ โครงการเดอะ คอมพลีท ราชปรารถ และ เดอะไพรด์ พัทยา ซึ่งจะทำให้สามารถปรับราคาขายเพิ่มขึ้นได้ ส่งผลต่อรายได้ที่มากขึ้น ในส่วนคอนโด เดอะคอมพลีท นราธิวาสราชนครินทร์ กับสมาร์ท คอนโดฯ จะเร่งก่อสร้างให้เสร็จภายในไตรมาสแรก ของปี 53 เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุน โดยทั้งสองโครงการนี้ มูลค่าโครงการ กว่า 1,800 ล้านบาท

นายวีระ กล่าวถึงผลประกอบการในไตรมาส 2 ว่า มีผลกำไรสุทธิ ถึง 176 ล้านบาท จากยอดรับรู้รายได้ 1,935 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 78 % เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมียอดรับรู้รายได้เพียง 1,092 ล้านบาท ทั้งนี้จึงเป็นผลให้ยอดรับรู้รายได้ครึ่งปีแรกของบริษัทมียอดรวมเป็น 2,530 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 226 ล้านบาท ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตถึง 328 % เมื่อเปรียบเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 51 ที่ผ่านมาซึ่งมีกำไรสุทธิ 69 ล้านบาท

ส่วนครึ่งปีหลังนี้ ผลประกอบการคงเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยยอดรับรู้รายได้ส่วนหนึ่งจะเป็นผลมาจากการโอนคอนโดฯและยังมียอดขายรอรับรู้รายได้มาจากโครงการแนวราบกว่า 10 โครงการ อีกประมาณ 1,000ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเป็นยอดรับรู้ได้ทั้งหมดที่ 4,500 ล้านบาทภายในปี 2552 นี้.
กำลังโหลดความคิดเห็น