ASTVผู้จัดการรายวัน - เจมาร์ท เตรียมงบลงทุน 70 ล้านบาท ซื้อพอร์ตหนี้บริหารเพิ่มหลังพบธุรกิจเร่งรัดหนี้ดันกำไรโต เจียดงบลงทุน 20 ล้านบาทกระตุ้นยอดขาย JFONE ให้ได้ตามเป้า 5-7 หมื่นเครื่องในสิ้นปีนี้ ฟุ้งปี 52 กำไรสูงกว่าปี 51 เหตุธุรกิจเติบโตดี
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจปีนี้จะสามารถทำกำไรสุทธิได้เติบโตกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 97 ล้านบาท โดยมาจากทั้ง3 ธุรกิจ บริษัทที่ยังคงเติบโตและสร้างรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยธุรกิจจัดจำหน่ายโทศศัพท์มือถือ ธุรกิจการบริหารพื้นที่ค้าปลีก ธุรกิจติดตามเร่งรัดหนี้สิน และในส่วนของยอดขายคาดว่าจะเติบโตขึ้น 10% จาก 5.5 พันล้านบาท
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้หลักของบริษัทมาจากธุรกิจการขายเครื่องโทรศัพท์มือถือ 90% อีก 5% มาจากธุรกิจการบริหารพื้นที่ค้าปลีกและที่เหลือ 5% เป็นธุรกิจการติดตามหนี้สิน ซึ่งปัจจุบันบริษัทบริหารพอร์ตหนี้สิน 3.3 พันล้านบาท และมีแผนจะเพิ่มเป็น 4.5 พันล้านบาทสิ้นปีนี้ โดยจะใช้เงินลงทุน60-70 ล้านบาท เพื่อซื้อพอร์ตหนี้เข้ามาเพิ่มเติม เนื่องจากเห็นว่าธุรกิจติดตามหนี้เป็นธุรกิจที่ผลักดันให้บริษัทมีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิที่สูงขึ้นมากกว่าธุรกิจอื่นที่ดำเนินการอยู่ ซึ่งบริษัทมีความพร้อมด้านนี้อย่างดี
โดยครึ่งหลังปีนี้มีแผนจะใช้งบลงทุนด้านการตลาดอีก 20 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นยอดขายโทรศัพท์มือถือ JFONE ให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 5-7 หมื่นเครื่องภายในสิ้นปี จากปัจจุบันมียอดขายที่ 2 หมื่นเครื่อง และตั้งเป้าสัดส่วนยอดขาย JFONE ของพอร์ตรวมของยอดขายมือถือให้เพิ่มเป็น 30% ในปีนี้ จากเดิมอยู่ที่ 15% คาดสิ้นปีจะมียอดขายโทรศัพท์มือถือ JFONE อย่างน้อย 3.6 หมื่นเครื่องจากยอดขายรวมที่ 1.2 แสนเครื่อง โดยมีมาร์เก็ตแชร์ในอุตสาหกรรมรวมอยู่ที่ 10% ใกล้เคียงกับปัจจุบัน ขณะมีอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจโทรศัพท์มือถือแบรนด์ต่างประเทศอยู่ที่ 10% ส่วนเฮ้าส์แบรนด์ "เจโฟน"มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25%
" ครึ่งปีที่ผ่านมาถ้าจะพูดถึงผลกระทบที่ได้รับจากวิกฤตที่เกิดขึ้น ในธุรกิจเราก็มีผลกระทบกับกำลังซื้ออยู่บ้างช่วงเดือนเม.ย.แต่หลังจากนั้นเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น เราคาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และจะมีกำไรสุทธิสูงกว่าปีก่อนจากธุรกิจ 3G ที่กำลังจะเข้ามาก็จะเป็นตัวกระตุ้นผู้บริโภคได้" นายอดิศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทยังได้รับการบริหารพื้นที่ IT Junction ตามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี โดยได้บริหารพื้นที่เช่า 24 สาขาของบิ๊กซี, 2 แห่งบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และ อีกแห่งที่เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา ขณะนี้ถือว่าเติบโตต่อเนื่อง มีอัตราการเช่ากว่า 80% ทั้งนี้ มองว่ารายได้ส่วนนี้จะอัตราเติบโตเนื่องเพราะบริษัทได้บริหารพื้นที่ในบิ๊กซีเพิ่ม
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจปีนี้จะสามารถทำกำไรสุทธิได้เติบโตกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 97 ล้านบาท โดยมาจากทั้ง3 ธุรกิจ บริษัทที่ยังคงเติบโตและสร้างรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยธุรกิจจัดจำหน่ายโทศศัพท์มือถือ ธุรกิจการบริหารพื้นที่ค้าปลีก ธุรกิจติดตามเร่งรัดหนี้สิน และในส่วนของยอดขายคาดว่าจะเติบโตขึ้น 10% จาก 5.5 พันล้านบาท
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้หลักของบริษัทมาจากธุรกิจการขายเครื่องโทรศัพท์มือถือ 90% อีก 5% มาจากธุรกิจการบริหารพื้นที่ค้าปลีกและที่เหลือ 5% เป็นธุรกิจการติดตามหนี้สิน ซึ่งปัจจุบันบริษัทบริหารพอร์ตหนี้สิน 3.3 พันล้านบาท และมีแผนจะเพิ่มเป็น 4.5 พันล้านบาทสิ้นปีนี้ โดยจะใช้เงินลงทุน60-70 ล้านบาท เพื่อซื้อพอร์ตหนี้เข้ามาเพิ่มเติม เนื่องจากเห็นว่าธุรกิจติดตามหนี้เป็นธุรกิจที่ผลักดันให้บริษัทมีอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิที่สูงขึ้นมากกว่าธุรกิจอื่นที่ดำเนินการอยู่ ซึ่งบริษัทมีความพร้อมด้านนี้อย่างดี
โดยครึ่งหลังปีนี้มีแผนจะใช้งบลงทุนด้านการตลาดอีก 20 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นยอดขายโทรศัพท์มือถือ JFONE ให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 5-7 หมื่นเครื่องภายในสิ้นปี จากปัจจุบันมียอดขายที่ 2 หมื่นเครื่อง และตั้งเป้าสัดส่วนยอดขาย JFONE ของพอร์ตรวมของยอดขายมือถือให้เพิ่มเป็น 30% ในปีนี้ จากเดิมอยู่ที่ 15% คาดสิ้นปีจะมียอดขายโทรศัพท์มือถือ JFONE อย่างน้อย 3.6 หมื่นเครื่องจากยอดขายรวมที่ 1.2 แสนเครื่อง โดยมีมาร์เก็ตแชร์ในอุตสาหกรรมรวมอยู่ที่ 10% ใกล้เคียงกับปัจจุบัน ขณะมีอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจโทรศัพท์มือถือแบรนด์ต่างประเทศอยู่ที่ 10% ส่วนเฮ้าส์แบรนด์ "เจโฟน"มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25%
" ครึ่งปีที่ผ่านมาถ้าจะพูดถึงผลกระทบที่ได้รับจากวิกฤตที่เกิดขึ้น ในธุรกิจเราก็มีผลกระทบกับกำลังซื้ออยู่บ้างช่วงเดือนเม.ย.แต่หลังจากนั้นเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น เราคาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และจะมีกำไรสุทธิสูงกว่าปีก่อนจากธุรกิจ 3G ที่กำลังจะเข้ามาก็จะเป็นตัวกระตุ้นผู้บริโภคได้" นายอดิศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทยังได้รับการบริหารพื้นที่ IT Junction ตามห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี โดยได้บริหารพื้นที่เช่า 24 สาขาของบิ๊กซี, 2 แห่งบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และ อีกแห่งที่เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา ขณะนี้ถือว่าเติบโตต่อเนื่อง มีอัตราการเช่ากว่า 80% ทั้งนี้ มองว่ารายได้ส่วนนี้จะอัตราเติบโตเนื่องเพราะบริษัทได้บริหารพื้นที่ในบิ๊กซีเพิ่ม