นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงจะยื่นถวายฎีกาเพื่ออภัยโทษ ให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ว่า เห็นกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศว่า เมื่อยื่นเสร็จน่าจะหยุดเคลื่อนไหว ถือว่าเขาได้แสดงพลังแล้ว แต่หากไปยืนที่สำนักราชเลขาธิการสำนักราชวังถือว่าผิดขั้นตอนของกฎหมาย ความจริงแล้วต้องจะนำรายชื่อไปยื่นที่กระทรวงยุติธรรมเพื่อให้รัฐมนตรีพิจารณาก่อน
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสำนักราชเลขาธิการสำนักราชวังว่าจะพิจารณาอย่างไร ท่านอาจจะรับเรื่องไว้ แล้วส่งเรื่องไปยังกระทรวงยุติธรรมก็ได้ หรือไม่รับเรื่องก็ได้
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การโฟนอินครั้งล่าสุดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มายังกลุ่มคนเสื้อแดงจ.นครราชสีมา โดยขอบคุณคนเสื้อแดงที่ทำเรื่องยื่นถวายฎีกาให้ตนเองได้กลับบ้าน แสดงให้เห็นว่า เป็นความต้องการของพ.ต.ท.ทักษิณจริงๆ โดยใช้คนเสื้อแดงเป็นเครื่องมือล่ารายชื่อ เพื่อถวายฎีกา และอยากถามตรงๆว่า ที่ประกาศมีคนลงรายชื่อ 5 ล้านคน นั้น เป็นจริงหรือไม่ รายชื่ออยู่ที่ไหน ทำไมไม่เอามาเปิดเผย โดยเฉพาะส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เข้าร่วมการเซ็นชื่อกี่คน เพราะก่อนหน้านี้นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ประกาศว่าจะเกณฑ์ส.ส.พรรคเพื่อไทยลงรายชื่อทุกคน วันนี้เซ็นครบหรือยัง โดยเฉพาะร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เป็นดอกเตอร์ทางกฎหมาย จะมีความคิดต่อการถวายฎีกาที่ผิดกฎหมายครังนี้อย่างไร
เพราะการเคลื่อนไหวเสื้อแดง ร.ต.อ.เฉลิมไม่มีท่าทีและอยากให้จับตาว่า ร.ต.อ.เฉลิมเข้าร่วมด้วยหรือไม่ รวมไปถึงกลุ่มคนตระกูลชินวัตร และครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณว่ามีกี่คนเข้าร่วมลงรายชื่อครั้งนี้ ทั้งๆ ที่เป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง ไม่อยากให้คนเลื้อแดงตกเป็นเครื่องมือพ.ต.ท.ทักษิณ ที่เคยเคลื่อนไหววันที่ 8-13 เม.ย. ที่ปลุกระดมคนเสื้อแดงมาเผาบ้านเผาเมือง ประกาศว่าคนเสื้อแดงไม่กลับบ้านมือเปล่า ต้องล้มอำมาตยาธิปไตยให้ได้ แต่ขณะเดียวกันคนในตระกูลชินวัตรและลูกเมีย เดินทางหนีออกนอกประเทศ ปล่อยให้คนเสื้อแดงรับชะตากรรมเพียงฝ่ายเดียว ไม่มีความรับผิดชอบใดๆ จากแกนนำ เสื้อแดงรวมไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่อยากให้ ครังนี้เป็นการหลอกลวงคนเสื้อแดงครั้งที่ 2 โดยคนของตัวเองไม่ลงรายชื่อด้วย ถ้ามีความผิดใดๆ เกิดขึ้น คนเสื้อแดงจะกลายเป็นผู้รับกรรม พ.ต.ท.ทักษิณและเครือญาติก็จะลอยนวนเหมือนเดิม
ส่วนที่แกนนำเสื้อแดงประกาศว่า การยื่นถวายฎีกาครั้งนี้ สุดแท้แต่พระบาทสมเด็จพรเจ้าอยู่หัวจะมีพระบรมราชวินิฉัยอย่างไรก็จะยอมรับนั้น นายเทพไท กล่าวว่า อยากถามว่า พระองค์ท่านจะมีพระบรมราชวินิฉัยได้อย่างไร เมื่อการถวายฎีกา ครั้งนี้ แตกต่างกับการถวายฎีกาทั่วไป ที่ไม่มีความขัดแย้งทางการเมือง ถ้าจะวินิจฉัยให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็จะเกิดความไม่พอใจให้กับอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งอาจกลายเป็น ความแตกแยกเกิดขึ้นในชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไปกดดันพระราชวินิจฉัยพระองค์ จึงไม่ควรทำให้ระคายเคืองพระบุคลบาทใดๆทั้งสิ้น
สำหรับการประกาศชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 17 ส.ค. เพื่อยื่น ถวายรายชื่อขอนิรโทษกรรมให้พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายเทพไท กล่าวว่า เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศ ไม่อยากเห็นการชุมนุมของคนเสื้อแดงเกิดขึ้นอีกแล้ว แกนนำควรยึดในคำ ประกาศของตนเองที่เคยประกาศว่าจะใช้ตัวแทนไม่กี่คน เข้ายื่นรายชื่อดังกล่าว แต่เมื่อกลับคำพูดที่เคยประกาศไว้ โดยนัดชุมนุมคนนับแสนให้ยิ่งใหญ่กว่าการชุมนุม เมื่อเดือนเม.ย. ดังนั้นอยากถามว่า แกนนำเสื้อแดงชุมนุมคนเสื้อแดงขึ้นมาทำไม ถ้าจะเคลื่อนขบวนคนเสื้อแดงไปยื่นฎีกา ในลักษณะที่เคยปิดล้อมทำเนียบและรัฐสภามาแล้ว มาใช้พลังมวลชนมาปิดล้อมพระบรมมหาราชวังนั้น เชื่อว่าคนไทยยอมไม่ได้แน่นอน และลองนึกภาพดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่อยากเกิดความรุนแรงใดๆ เพื่อให้เกิดความสูญเสีย ที่สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นแก่ชาติบ้านเมือง
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงมีความ เคลื่อนไหวของคนกลุ่มน้อย ที่ใช้เงินจำนวนมากมาเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดความขัดแย้งในบ้านเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า คำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านโฟนอินครั้งล่าสุดที่บอกว่า จะฟิตร่างกายเพื่อกลับมาและขอบคุณคนเสื้อแดงที่ร่วมลงชื่อในฎีกานั้น สอดคล้องกับข้อมูลของพรรคประชาธิปัตย์ที่์ได้รับรายงานจากหลายพื้นที่ เช่น ในจ.สุโขทัย เกี่ยวกับกระบวนการขนคนมาก่อความไม่สงบทางการเมือง เมื่อเดือน เม.ย. และร่วมกับนักการเมืองท้องถิ่นในการว่าจ้างประชาชนให้เกิดความเข้าใจผิดและให้ร่วมลงชื่อเในฎีกา จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงของกระทรวงมหาดไทยต้องทำงานร่วมกับกระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม เพื่อสร้างความเข้าใจ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีที่กระทรวงมหาดไทย ออกคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระดมประชาชนมาร่วม ลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ขณะนี้ พรรคเพื่อไทยได้รับการร้องเรียนจากหน่วยงานรัฐ และประชาชนจำนวนมาก ถึงการกระทำไม่ชอบธรรมของหน่วยงานรัฐ ในการล่าชื่อเพื่อคัดค้านการถวายฎีกา พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวของกระทรวงมหาดไทย เป็นการ ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งประชาชนที่ถูกละเมิดสิทธิสามารถฟ้องร้อง ผู้ออกคำสั่งตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณา หคดีปกครอง พ.ศ.2542 มาตรา 9 (1) ได้ เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวไม่ได้อยู่อำนาจ ของกระทรวงมหาดไทย ตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 มาตรา 30 ดังนั้นใน วันที่ 11 ส.ค. เวลา 09.30 น. จะเดินทาง ไปยื่นฟ้องต่อ ศาลปกครองกลาง เพื่อให้เพิกถอนคำสั่งที่ไม่ชอบธรรมของกระทรวงมหาดไทย
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่า การดำเนินการดังกล่าว อาจเป็นความตั้งใจของผู้มีบารมีนอกพรรคร่วมรัฐบาลบางคนที่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคม เพื่อนำไปสู่เหตุการณ์เช่นเดียวกับวันที่ 19 ก.ย. 2549 จึงขอฝากเตือนไปถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าอย่าไปหลงกลบุคคลดังกล่าว แต่ถ้ารัฐบาลยังเพิกเฉย ไม่ยอมดำเนินการใดๆ จนเกิดเหตุการณ์อย่างใด ที่ทำให้ประชาชนขัดแย้งกัน รัฐบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสำนักราชเลขาธิการสำนักราชวังว่าจะพิจารณาอย่างไร ท่านอาจจะรับเรื่องไว้ แล้วส่งเรื่องไปยังกระทรวงยุติธรรมก็ได้ หรือไม่รับเรื่องก็ได้
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การโฟนอินครั้งล่าสุดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มายังกลุ่มคนเสื้อแดงจ.นครราชสีมา โดยขอบคุณคนเสื้อแดงที่ทำเรื่องยื่นถวายฎีกาให้ตนเองได้กลับบ้าน แสดงให้เห็นว่า เป็นความต้องการของพ.ต.ท.ทักษิณจริงๆ โดยใช้คนเสื้อแดงเป็นเครื่องมือล่ารายชื่อ เพื่อถวายฎีกา และอยากถามตรงๆว่า ที่ประกาศมีคนลงรายชื่อ 5 ล้านคน นั้น เป็นจริงหรือไม่ รายชื่ออยู่ที่ไหน ทำไมไม่เอามาเปิดเผย โดยเฉพาะส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เข้าร่วมการเซ็นชื่อกี่คน เพราะก่อนหน้านี้นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ประกาศว่าจะเกณฑ์ส.ส.พรรคเพื่อไทยลงรายชื่อทุกคน วันนี้เซ็นครบหรือยัง โดยเฉพาะร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เป็นดอกเตอร์ทางกฎหมาย จะมีความคิดต่อการถวายฎีกาที่ผิดกฎหมายครังนี้อย่างไร
เพราะการเคลื่อนไหวเสื้อแดง ร.ต.อ.เฉลิมไม่มีท่าทีและอยากให้จับตาว่า ร.ต.อ.เฉลิมเข้าร่วมด้วยหรือไม่ รวมไปถึงกลุ่มคนตระกูลชินวัตร และครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณว่ามีกี่คนเข้าร่วมลงรายชื่อครั้งนี้ ทั้งๆ ที่เป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง ไม่อยากให้คนเลื้อแดงตกเป็นเครื่องมือพ.ต.ท.ทักษิณ ที่เคยเคลื่อนไหววันที่ 8-13 เม.ย. ที่ปลุกระดมคนเสื้อแดงมาเผาบ้านเผาเมือง ประกาศว่าคนเสื้อแดงไม่กลับบ้านมือเปล่า ต้องล้มอำมาตยาธิปไตยให้ได้ แต่ขณะเดียวกันคนในตระกูลชินวัตรและลูกเมีย เดินทางหนีออกนอกประเทศ ปล่อยให้คนเสื้อแดงรับชะตากรรมเพียงฝ่ายเดียว ไม่มีความรับผิดชอบใดๆ จากแกนนำ เสื้อแดงรวมไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่อยากให้ ครังนี้เป็นการหลอกลวงคนเสื้อแดงครั้งที่ 2 โดยคนของตัวเองไม่ลงรายชื่อด้วย ถ้ามีความผิดใดๆ เกิดขึ้น คนเสื้อแดงจะกลายเป็นผู้รับกรรม พ.ต.ท.ทักษิณและเครือญาติก็จะลอยนวนเหมือนเดิม
ส่วนที่แกนนำเสื้อแดงประกาศว่า การยื่นถวายฎีกาครั้งนี้ สุดแท้แต่พระบาทสมเด็จพรเจ้าอยู่หัวจะมีพระบรมราชวินิฉัยอย่างไรก็จะยอมรับนั้น นายเทพไท กล่าวว่า อยากถามว่า พระองค์ท่านจะมีพระบรมราชวินิฉัยได้อย่างไร เมื่อการถวายฎีกา ครั้งนี้ แตกต่างกับการถวายฎีกาทั่วไป ที่ไม่มีความขัดแย้งทางการเมือง ถ้าจะวินิจฉัยให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็จะเกิดความไม่พอใจให้กับอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งอาจกลายเป็น ความแตกแยกเกิดขึ้นในชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไปกดดันพระราชวินิจฉัยพระองค์ จึงไม่ควรทำให้ระคายเคืองพระบุคลบาทใดๆทั้งสิ้น
สำหรับการประกาศชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 17 ส.ค. เพื่อยื่น ถวายรายชื่อขอนิรโทษกรรมให้พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายเทพไท กล่าวว่า เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศ ไม่อยากเห็นการชุมนุมของคนเสื้อแดงเกิดขึ้นอีกแล้ว แกนนำควรยึดในคำ ประกาศของตนเองที่เคยประกาศว่าจะใช้ตัวแทนไม่กี่คน เข้ายื่นรายชื่อดังกล่าว แต่เมื่อกลับคำพูดที่เคยประกาศไว้ โดยนัดชุมนุมคนนับแสนให้ยิ่งใหญ่กว่าการชุมนุม เมื่อเดือนเม.ย. ดังนั้นอยากถามว่า แกนนำเสื้อแดงชุมนุมคนเสื้อแดงขึ้นมาทำไม ถ้าจะเคลื่อนขบวนคนเสื้อแดงไปยื่นฎีกา ในลักษณะที่เคยปิดล้อมทำเนียบและรัฐสภามาแล้ว มาใช้พลังมวลชนมาปิดล้อมพระบรมมหาราชวังนั้น เชื่อว่าคนไทยยอมไม่ได้แน่นอน และลองนึกภาพดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่อยากเกิดความรุนแรงใดๆ เพื่อให้เกิดความสูญเสีย ที่สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นแก่ชาติบ้านเมือง
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงมีความ เคลื่อนไหวของคนกลุ่มน้อย ที่ใช้เงินจำนวนมากมาเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดความขัดแย้งในบ้านเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า คำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านโฟนอินครั้งล่าสุดที่บอกว่า จะฟิตร่างกายเพื่อกลับมาและขอบคุณคนเสื้อแดงที่ร่วมลงชื่อในฎีกานั้น สอดคล้องกับข้อมูลของพรรคประชาธิปัตย์ที่์ได้รับรายงานจากหลายพื้นที่ เช่น ในจ.สุโขทัย เกี่ยวกับกระบวนการขนคนมาก่อความไม่สงบทางการเมือง เมื่อเดือน เม.ย. และร่วมกับนักการเมืองท้องถิ่นในการว่าจ้างประชาชนให้เกิดความเข้าใจผิดและให้ร่วมลงชื่อเในฎีกา จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงของกระทรวงมหาดไทยต้องทำงานร่วมกับกระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม เพื่อสร้างความเข้าใจ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีที่กระทรวงมหาดไทย ออกคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระดมประชาชนมาร่วม ลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ขณะนี้ พรรคเพื่อไทยได้รับการร้องเรียนจากหน่วยงานรัฐ และประชาชนจำนวนมาก ถึงการกระทำไม่ชอบธรรมของหน่วยงานรัฐ ในการล่าชื่อเพื่อคัดค้านการถวายฎีกา พรรคเพื่อไทยเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวของกระทรวงมหาดไทย เป็นการ ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งประชาชนที่ถูกละเมิดสิทธิสามารถฟ้องร้อง ผู้ออกคำสั่งตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณา หคดีปกครอง พ.ศ.2542 มาตรา 9 (1) ได้ เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวไม่ได้อยู่อำนาจ ของกระทรวงมหาดไทย ตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 มาตรา 30 ดังนั้นใน วันที่ 11 ส.ค. เวลา 09.30 น. จะเดินทาง ไปยื่นฟ้องต่อ ศาลปกครองกลาง เพื่อให้เพิกถอนคำสั่งที่ไม่ชอบธรรมของกระทรวงมหาดไทย
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่า การดำเนินการดังกล่าว อาจเป็นความตั้งใจของผู้มีบารมีนอกพรรคร่วมรัฐบาลบางคนที่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคม เพื่อนำไปสู่เหตุการณ์เช่นเดียวกับวันที่ 19 ก.ย. 2549 จึงขอฝากเตือนไปถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าอย่าไปหลงกลบุคคลดังกล่าว แต่ถ้ารัฐบาลยังเพิกเฉย ไม่ยอมดำเนินการใดๆ จนเกิดเหตุการณ์อย่างใด ที่ทำให้ประชาชนขัดแย้งกัน รัฐบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น