ASTVผู้จัดการรายวัน - “พาณิชย์” ว่างจัด ประโคมข่าวข้าวไทยปนเปื้อนแคดเมี่ยมก่อนเปิดประมูลครั้งใหญ่หวังทุบราคาเอื้อผู้ส่งออกกดราคารัฐบาล ปัดข้อเสนอโรงสีแปรสภาพข้าวอ้างต้องเก็บข้าวเปลือกไว้ให้ประมูลทำข้าวนึ่งขายได้ราคาดีกว่า
นายธนพร ศรียากูล ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ไปเก็บตัวอย่างข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวที่เพาะปลูกในพื้นที่แม่ตาว อ.แม่สอด จ.ตาก และได้ทำการส่งเข้าไปตรวจสอบการปนเปื้อนสารแคดเมี่ยม ซึ่งพบว่า มีสารแคดเมี่ยมปนเปื้อนเกินไปกว่ามาตรฐานที่กำหนด โดยมาตรฐานกำหนดให้มีการปนเปื้อนได้ไม่เกิน 0.2 มิลลิกรัม แต่ตรวจพบว่าเกินไปกว่ามาตรฐานสูงถึง 0.48-0.571 มิลลิกรัม ซึ่งถือเป็นการปนเปื้อนที่เกินไปกว่ามาตรฐานที่กำหนด และหากนำมาบริโภคจะส่งผลกระทบทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอิไตอิไต ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้เกิดปัญหาปวดกระดูกและกรวยไตอักเสบ และหากหลุดรอดออกไปขายต่างประเทศ จะทำให้ข้าวไทยเสียชื่อเสียง
“พื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียว มีพื้นที่ประมาณ 13,000 ไร่ ซึ่งการตรวจสอบพบการปนเปื้อนในครั้งนี้ ได้รับคำยืนยันจากห้องแลป (บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด) เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่ามีการปนเปื้อนจริง และเกินมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เข้าไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วนว่าปัญหาการปนเปื้อนเกิดเพราะอะไร และจะแก้ไขปัญหาอย่างไร”นายธนพรกล่าว
สำหรับการออกไปตรวจสอบการปนเปื้อนสารแคดเมี่ยมดังกล่าว เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ได้รับข้อมูลว่ามีข้าวในพื้นที่ดังกล่าวมีการปนเปื้อน จึงได้ลงไปเก็บตัวอย่างในพื้นที่ส่งไปตรวจสอบ และเล็งเห็นว่า หากปล่อยปละให้มีการเพาะปลูกต่อไป และมีข้าวที่มีสารปนเปื้อนหลุดออกสู่ตลาด ทั้งบริโภคในประเทศและส่งออก จะเกิดผลกระทบตามมาอีกมากมายจึงต้องหาแนวทางป้องกัน และจะนำผลที่ได้ในครั้งนี้เสนอให้กขช. พิจารณา
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า การออกมาให้ข่าวว่าข้าวไทยมีการปนเปื้อนสารแคดเมี่ยมในครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็นการปล่อยข่าวเพื่อทุบราคาข้าวไทย เนื่องจากขณะนี้กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการเตรียมการเปิดประมูลขายข้าว ทั้งการขายในตลาดเอเฟต และเตรียมการที่จะขายข้าวเปลือก และข้าวสาร ในเร็วๆ นี้ โดยหากข่าวนี้ออกมาจะส่งผลกระทบทางจิตวิทยาทำให้ราคาข้าวตกต่ำลงทันที และส่งผลดีต่อผู้ส่งออกที่จะกดราคาประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาลได้
นายธนพรกล่าวอีกว่า กรณีที่สมาคมโรงสีข้าวไทย ได้มายื่นหนังสือถึงรมว.พาณิชย์ เพื่อขอให้มีการสั่งให้มีการสีแปรสภาพข้าวสารได้ต่อไปนั้น ขณะนี้โรงสีจะต้องหยุดการสีแปร เนื่องจากต้องปฏิบัติตามมติกขช. ที่ได้ขอให้ชะลอการสีแปรสภาพออกไปก่อน เพราะตามยุทธศาสตร์การระบายข้าว จะมีการขายเป็นข้าวเปลือกด้วย หากสีแปรสภาพเป็นข้าวสารหมดก็จะทำให้ไม่มีข้าวเปลือกไปเปิดประมูลเพื่อให้ผู้ส่งออกซื้อไปทำข้าวนึ่ง และจะทำให้ไทยเสียโอกาสจากการขายข้าวนึ่งที่ตลาดต่างประเทศมีความต้องการมาก
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า จะนำผลการตรวจสอบข้าวจาก อ.แม่สอด เสนอให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับทราบเพื่อนำไปบูรณาการแก้ไขกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยที่ต้องเปิดเผยข้อมูลนี้เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และต้องการให้เกิดการแก้ไขต่อไป ไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อภาพลักษณ์ข้าวของไทยได้ แต่ยืนยันว่าขณะนี้ยืนยันว่ายังไม่มีการตรวจพบเจอในการส่งออก และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำให้ราคาข้าวในตลาดผันผวนแต่อย่างใด
นายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า การที่กระทรวงพาณิชย์ขอให้โรงสีหยุดการสีแปรสภาพข้าว ทำให้โรงสีได้รับผลกระ จากการที่มีข้าวเปลือกตกค้างอยู่ในโกดัง และไม่สามารถรับซื้อข้าวเปลือกใหม่จากเกษตรกรได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้ราคาข้าวเปลือกตกต่ำ โดยเฉพาะข้าวเปลือกที่จะเก็บเกี่ยวตั้งแต่เดือนส.ค.-ก.ย.นี้
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จะเปิดให้มีการประมูลซื้อขายข้าวหอมมะลิจำนวน 3 แสนตันในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (เอเฟต) ในวันที่ 6 ส.ค.นี้ เวลา 09.00-12.00 น. เปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการที่สนใจเข้ายื่นประมูล ไม่ว่าจะเป็นโรงสี ผู้ส่งออก ผู้ค้าข้าวถุง โดยจะมีการแบ่งข้าวออกเป็นกองๆ เพื่อนำเข้าประมูล ตั้งแต่กองขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ตั้งแต่ 900 ตัน สูงสุด 17,000 ตัน โดยมั่นใจว่า จะได้ราคาดี เนื่องจากมีความต้องการข้าวหอมมะลิทั้งการซื้อไปทำข้าวถุง และทำการส่งออก.
นายธนพร ศรียากูล ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ไปเก็บตัวอย่างข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวที่เพาะปลูกในพื้นที่แม่ตาว อ.แม่สอด จ.ตาก และได้ทำการส่งเข้าไปตรวจสอบการปนเปื้อนสารแคดเมี่ยม ซึ่งพบว่า มีสารแคดเมี่ยมปนเปื้อนเกินไปกว่ามาตรฐานที่กำหนด โดยมาตรฐานกำหนดให้มีการปนเปื้อนได้ไม่เกิน 0.2 มิลลิกรัม แต่ตรวจพบว่าเกินไปกว่ามาตรฐานสูงถึง 0.48-0.571 มิลลิกรัม ซึ่งถือเป็นการปนเปื้อนที่เกินไปกว่ามาตรฐานที่กำหนด และหากนำมาบริโภคจะส่งผลกระทบทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอิไตอิไต ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้เกิดปัญหาปวดกระดูกและกรวยไตอักเสบ และหากหลุดรอดออกไปขายต่างประเทศ จะทำให้ข้าวไทยเสียชื่อเสียง
“พื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียว มีพื้นที่ประมาณ 13,000 ไร่ ซึ่งการตรวจสอบพบการปนเปื้อนในครั้งนี้ ได้รับคำยืนยันจากห้องแลป (บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด) เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่ามีการปนเปื้อนจริง และเกินมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เข้าไปตรวจสอบอย่างเร่งด่วนว่าปัญหาการปนเปื้อนเกิดเพราะอะไร และจะแก้ไขปัญหาอย่างไร”นายธนพรกล่าว
สำหรับการออกไปตรวจสอบการปนเปื้อนสารแคดเมี่ยมดังกล่าว เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์ได้รับข้อมูลว่ามีข้าวในพื้นที่ดังกล่าวมีการปนเปื้อน จึงได้ลงไปเก็บตัวอย่างในพื้นที่ส่งไปตรวจสอบ และเล็งเห็นว่า หากปล่อยปละให้มีการเพาะปลูกต่อไป และมีข้าวที่มีสารปนเปื้อนหลุดออกสู่ตลาด ทั้งบริโภคในประเทศและส่งออก จะเกิดผลกระทบตามมาอีกมากมายจึงต้องหาแนวทางป้องกัน และจะนำผลที่ได้ในครั้งนี้เสนอให้กขช. พิจารณา
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า การออกมาให้ข่าวว่าข้าวไทยมีการปนเปื้อนสารแคดเมี่ยมในครั้งนี้ ถูกมองว่าเป็นการปล่อยข่าวเพื่อทุบราคาข้าวไทย เนื่องจากขณะนี้กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการเตรียมการเปิดประมูลขายข้าว ทั้งการขายในตลาดเอเฟต และเตรียมการที่จะขายข้าวเปลือก และข้าวสาร ในเร็วๆ นี้ โดยหากข่าวนี้ออกมาจะส่งผลกระทบทางจิตวิทยาทำให้ราคาข้าวตกต่ำลงทันที และส่งผลดีต่อผู้ส่งออกที่จะกดราคาประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาลได้
นายธนพรกล่าวอีกว่า กรณีที่สมาคมโรงสีข้าวไทย ได้มายื่นหนังสือถึงรมว.พาณิชย์ เพื่อขอให้มีการสั่งให้มีการสีแปรสภาพข้าวสารได้ต่อไปนั้น ขณะนี้โรงสีจะต้องหยุดการสีแปร เนื่องจากต้องปฏิบัติตามมติกขช. ที่ได้ขอให้ชะลอการสีแปรสภาพออกไปก่อน เพราะตามยุทธศาสตร์การระบายข้าว จะมีการขายเป็นข้าวเปลือกด้วย หากสีแปรสภาพเป็นข้าวสารหมดก็จะทำให้ไม่มีข้าวเปลือกไปเปิดประมูลเพื่อให้ผู้ส่งออกซื้อไปทำข้าวนึ่ง และจะทำให้ไทยเสียโอกาสจากการขายข้าวนึ่งที่ตลาดต่างประเทศมีความต้องการมาก
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า จะนำผลการตรวจสอบข้าวจาก อ.แม่สอด เสนอให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับทราบเพื่อนำไปบูรณาการแก้ไขกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยที่ต้องเปิดเผยข้อมูลนี้เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และต้องการให้เกิดการแก้ไขต่อไป ไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อภาพลักษณ์ข้าวของไทยได้ แต่ยืนยันว่าขณะนี้ยืนยันว่ายังไม่มีการตรวจพบเจอในการส่งออก และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำให้ราคาข้าวในตลาดผันผวนแต่อย่างใด
นายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า การที่กระทรวงพาณิชย์ขอให้โรงสีหยุดการสีแปรสภาพข้าว ทำให้โรงสีได้รับผลกระ จากการที่มีข้าวเปลือกตกค้างอยู่ในโกดัง และไม่สามารถรับซื้อข้าวเปลือกใหม่จากเกษตรกรได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้ราคาข้าวเปลือกตกต่ำ โดยเฉพาะข้าวเปลือกที่จะเก็บเกี่ยวตั้งแต่เดือนส.ค.-ก.ย.นี้
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จะเปิดให้มีการประมูลซื้อขายข้าวหอมมะลิจำนวน 3 แสนตันในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (เอเฟต) ในวันที่ 6 ส.ค.นี้ เวลา 09.00-12.00 น. เปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการที่สนใจเข้ายื่นประมูล ไม่ว่าจะเป็นโรงสี ผู้ส่งออก ผู้ค้าข้าวถุง โดยจะมีการแบ่งข้าวออกเป็นกองๆ เพื่อนำเข้าประมูล ตั้งแต่กองขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ตั้งแต่ 900 ตัน สูงสุด 17,000 ตัน โดยมั่นใจว่า จะได้ราคาดี เนื่องจากมีความต้องการข้าวหอมมะลิทั้งการซื้อไปทำข้าวถุง และทำการส่งออก.
