xs
xsm
sm
md
lg

โพลชี้ปชช.เป็นทุกข์ แดงดื้อด้านถวายฎีกา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอแบคโพลเปิดเผยผลสำรวจการรับรู้ข่าวสารและความทรงจำของประชาชน ต่อผลงานรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พบว่า ร้อยละ 73.4 เห็นว่าสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงต้นปี2552 แย่เหมือนเดิมถึงแย่มาก โดยแยกเป็นการเปรียบเทียบโครงการต่างๆ อาทิ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ คลอดบุตรจ่าย 30 บาท แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์ หญิงตั้งครรภ์ป่วยติดเชื้อไข้หวัด 2009 แท้งลูกเสียชีวิต ส่วนการปราบปรามยาเสพติด รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ สามารถปราบปรามลดลงถึงร้อยละ 96.9 ส่วนรัฐบาลอภิสิทธิ์ ลดลงเพียงร้อยละ 55.6 ขณะที่การทุจริตคอร์รัปชั่น รัฐบาลทักษิณ สูงถึงร้อยละ 78.8 ส่วนรัฐบาลอภิสิทธิ์ เพียงร้อยละ 65.8 เท่านั้น
ส่วนเรื่องการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ประชาชนร้อยละ 77.3 เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรทำด้วยตนเอง และร้อยละ 33.7 ประชาชนควรออกมาเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตาม เรื่องการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พบว่าประชาชนมีความสุข ร้อยละ 48.3 ขณะที่ ร้อยละ 51.7 เป็นทุกข์กับเรื่องดังกล่าว

**ไม่เห็นด้วยให้ผบ.ตร.พักร้อน
ขณะที่ สวนดุสิตโพล เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน กรณี นายกรัฐมนตรี กับการแก้ปัญหาของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับคดีลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล พบว่า ประชาชน ร้อยละ 29.11 เห็นว่า การที่นายกฯ ตัดสินปัญหาดังกล่าวมาจากแรงกดดันหลายๆ ฝ่าย ทำให้ต้องปิดคดีนี้โดยเร็ว ส่วนร้อยละ 21.52 เห็นว่า นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในคดีนี้มาก ขณะที่ร้อยละ 16.45 เห็นว่า คดีนี้มีผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ประชาชน ส่วนใหญ่ ร้อยละ 56.71 ยังไม่เห็นด้วยต่อการแก้ปัญหาด้วยการให้ ผบ.ตร.ลาพักร้อน เนื่องจากชี้ให้เห็นว่านายกรัฐมนตรี ไม่พอใจการทำงานของผบ.ตร. และใช้อำนาจบีบบังคับ ถ้านายกฯ เห็นว่าสิ่งใดเหมาะสม ควรชี้แจงพร้อมเหตุผล ตามข้อเท็จจริง ขณะที่ร้อยละ 43.29 เห็นด้วยกับวิธีการลาพักร้อนโดยให้เหตุผลว่า เป็นการลดความตึงเครียด ช่วยให้การพิจารณาไตร่ตรองเรื่องราวต่างๆ ให้ทีมสืบสวนทำงานเต็มที่มากขึ้น
นอกจากนี้ ประชาชนร้อยละ 65.24 ยังระบุว่า การที่ ผบ.ตร. ลาพักร้อน จะไม่เอื้ออำนวยให้พนักงานสอบสวนดำเนินการได้ เนื่องจากการลาพักร้อนเพียงแค่ 10 วัน ไม่น่าจะเพียงพอ ซึ่งปัญหาคดีนี้เกิดมาจากตัวบุคคลมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ยังมองว่า การตัดสินใจของนายกฯ ครั้งนี้ มีผลกระทบต่อนายกรัฐมนตรีในทางที่ดีขึ้น ร้อยละ 20.31 และแย่ลงร้อยละ 51.64
กำลังโหลดความคิดเห็น