ASTVผู้จัดการรายวัน-“อลงกรณ์” จับมือตำรวจ ศุลกากร กวาดล้างขบวนการข้ามชาตินำเข้าสินค้าเถื่อนตามแนวตะเข็บชายแดน เหตุทำลายเศรษฐกิจประเทศ พร้อมเสนอนายกรัฐมนตรีไฟเขียวเพิ่มความผิดผลิต ขายของเถื่อน เป็นความผิดในกฎหมายฟอกเงิน
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร เตรียมกวาดล้างขบวนการข้ามชาติ ที่นำเข้าสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเข้ามาตามแนวตะเข็บชายแดนในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งขณะนี้มีการลักลอบนำเข้าเข้ามามากขึ้น จึงจำเป็นต้องเร่งแก้ปัญหา เพราะถือว่าเป็นการทำลายเศรษฐกิจประเทศ
สำหรับสินค้าที่นำเข้าส่วนใหญ่จะผลิตจากจีน และประเทศเพื่อนบ้านของไทย ส่วนใหญ่มีทั้งสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เข็มขัด นาฬิกา ปากกา แว่นตา สมุด ดินสอ ของเล่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น ภาพยนตร์ และเพลง ซอฟต์แวร์ เป็นต้น
“การลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อนที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ถือเป็นการทำร้ายผู้ผลิตสินค้าไทย โดยเฉพาะรายกลางและเล็ก (SMEs) และบ่อนทำลายเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งนอกจากจะทำให้รัฐไทยสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษี เพราะผู้นำเข้าสำแดงรายการอันเป็นเท็จ และหลีกเลี่ยงเสียภาษีแล้ว ยังทำให้ภาคเอกชนเสียรายได้จากการขายสินค้าที่มีลิขสิทธิ์ จึงจำเป็นต้องแก้ปัญหาโดยเร็ว” นายอลงกรณ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เสนอให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายด้านทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ พิจารณาเพิ่มมูลฐานความผิดที่เกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งผู้ผลิต ผู้ค้าสินค้าละเมิดรายใหญ่ ให้อยู่ภายใต้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินด้วย เพราะถือเป็นการทำลายเศรษฐกิจประเทศอย่างรุนแรง
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า ได้ลงนามแต่งตั้งคณะทำงานปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ชุดใหม่ โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ ทหาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรมศุลกากร กรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งได้สั่งการให้มีการประสานการทำงานในระดับส่วนกลาง และท้องที่ให้มากขึ้น เพื่อให้การปราบปรามการละเมิดมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดง ที่มีการละเมิดมาก รวมถึงตามนัดต่างๆ
“ที่ผ่านมาค่อนข้างพอใจกับการปราบปราม โดยตลอด 5 เดือนแรกของปีนี้ ได้ดำเนินคดีกับผู้ละเมิด 3,695 คดี จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเพียง 2,000 คดี จับของกลางได้เป็นล้านชิ้น ซึ่งในทางป้องกัน ได้หารือกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้บรรจุหลักสูตรการเรียนการสอนเรื่องความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญาของไทยไว้ด้วย คาดว่าจะเริ่มได้ในปีการศึกษา 2553” นายอลงกรณ์กล่าว
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร เตรียมกวาดล้างขบวนการข้ามชาติ ที่นำเข้าสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเข้ามาตามแนวตะเข็บชายแดนในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งขณะนี้มีการลักลอบนำเข้าเข้ามามากขึ้น จึงจำเป็นต้องเร่งแก้ปัญหา เพราะถือว่าเป็นการทำลายเศรษฐกิจประเทศ
สำหรับสินค้าที่นำเข้าส่วนใหญ่จะผลิตจากจีน และประเทศเพื่อนบ้านของไทย ส่วนใหญ่มีทั้งสินค้าที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เข็มขัด นาฬิกา ปากกา แว่นตา สมุด ดินสอ ของเล่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น ภาพยนตร์ และเพลง ซอฟต์แวร์ เป็นต้น
“การลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อนที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ถือเป็นการทำร้ายผู้ผลิตสินค้าไทย โดยเฉพาะรายกลางและเล็ก (SMEs) และบ่อนทำลายเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งนอกจากจะทำให้รัฐไทยสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษี เพราะผู้นำเข้าสำแดงรายการอันเป็นเท็จ และหลีกเลี่ยงเสียภาษีแล้ว ยังทำให้ภาคเอกชนเสียรายได้จากการขายสินค้าที่มีลิขสิทธิ์ จึงจำเป็นต้องแก้ปัญหาโดยเร็ว” นายอลงกรณ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เสนอให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายด้านทรัพย์สินทางปัญญาแห่งชาติ พิจารณาเพิ่มมูลฐานความผิดที่เกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งผู้ผลิต ผู้ค้าสินค้าละเมิดรายใหญ่ ให้อยู่ภายใต้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินด้วย เพราะถือเป็นการทำลายเศรษฐกิจประเทศอย่างรุนแรง
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า ได้ลงนามแต่งตั้งคณะทำงานปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ชุดใหม่ โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ ทหาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรมศุลกากร กรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งได้สั่งการให้มีการประสานการทำงานในระดับส่วนกลาง และท้องที่ให้มากขึ้น เพื่อให้การปราบปรามการละเมิดมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในพื้นที่สีแดง ที่มีการละเมิดมาก รวมถึงตามนัดต่างๆ
“ที่ผ่านมาค่อนข้างพอใจกับการปราบปราม โดยตลอด 5 เดือนแรกของปีนี้ ได้ดำเนินคดีกับผู้ละเมิด 3,695 คดี จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเพียง 2,000 คดี จับของกลางได้เป็นล้านชิ้น ซึ่งในทางป้องกัน ได้หารือกระทรวงศึกษาธิการ ขอให้บรรจุหลักสูตรการเรียนการสอนเรื่องความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญาของไทยไว้ด้วย คาดว่าจะเริ่มได้ในปีการศึกษา 2553” นายอลงกรณ์กล่าว
