สระแก้ว - สระแก้วตรวจยึดบุหรี่เถื่อนปลอมยี่ห้อไทย ทะลักเข้าไทยกว่า 1,610 ซอง มูลค่าร่วม 3 ล้านบาท
พ.ท.เอกรัติ เมธาวัฒนานันท์ รอง ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา พร้อมด้วย พ.ต.ศลิษฏพงษ์ แก้วพิลา ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1201 จุดตรวจ อ.04 บ้านป่าไร่ และ ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1206 จุดตรวจ อ.05 บ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จัดกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพราน 2 กองร้อย กว่า 80 นาย เข้าวางกำลังดักซุ่ม ตามสถานที่เป้าหมายตามริมแนวชายแดน หลังได้รับคำสั่งจาก พ.อ.วสุ เจียมสุข ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา ว่ามีขบวนการลักลอบนำสินค้าเถื่อนผิดกฎหมายนำเข้ามาจากฝั่งประเทศกัมพูชาเข้ามาในเขตไทย เพื่อส่งให้นายทุนคนไทยที่ทำการค้าธุรกิจผิดกฎหมาย
จนกระทั่งตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยในรูปแบบกองทัพมดชาวกัมพูชา มากกว่า 13 คน สวมชุดไอ้โม่งและเสื้อผ้ากางเกงสีดำ เดินแบกกล่องกระดาษแข็งสวมถุงพลาสติกสีดำ ในป่าอ้อยระหว่างหมู่บ้าน ป่าไร่ หมู่ 3 กับหมู่บ้านภูน้ำเกลี้ยง หมู่ 5 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ ซึ่งห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ลึกเข้ามาในเขตไทยประมาณ 2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อตรวจสอบสินค้าที่บรรจุกล่องชัดแถวแบกกันมา แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ยินเสียงและสัญญาณให้หยุด ต่างพากันตกใจทิ้งสินค้าที่บรรจุในกล่องไว้กลางป่าไร่อ้อย หลบหนีข้ามแดนเข้าฝั่งประเทศกัมพูชากันไปหมด
ต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจกล่องกระดาษแข็งที่สวมด้วยถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 11 กล่อง พบว่าเป็นบุหรี่ไทยแต่ปลอมยี่ห้อกรองทิพย์ 90 จำนวน 400 แท่ง 4,000 ซอง ยี่ห้อสายฝน อีก 150 แท่ง จำนวน 1,500 ซอง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบบุหรี่ยี่ห้อไทยปลอมดังกล่าวที่ยังอยู่ในสภาพใหม่เอี่ยม คาคว่ามีการปลอมปนส่งมอบขายให้นายทุนคนไทยทั้งภายใน กทม.และต่างจังหวัด
ขณะเดียวกัน ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1206 จุดตรวจ อ.05 บ้านคลองลึก ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานตั้งจุดตรวจค้นสกัดกั้น การลักลอบสินค้าเถื่อนเข้ามาจากฝั่งปอยเปตอย่างเข้มงวด ตรวจพบ บุหรี่ต่างประเทศยี่ห้อนุชรี จำนวน 9 แท่ง 90 ซอง ยี่ห้อโคเซล 1 แท่ง 10 ซอง ยี่ห้อฮาล่า อีก 1 แท่ง 10 ซอง พร้อมหัวน้ำหอมยี่ห้อดังจากประเทศฝรั่งเศส จำนวน 5 ขวดใหญ่ ซุกซ่อนมากับใต้รถเข็นของกรรมกรชาวกัมพูชาที่รับจ้างขายแรงงานในตลาดการค้าโรงเกลือ ขณะที่กรรมกรแรงงานรับจ้างขายแรงงานชาวกัมพูชา ได้ทิ้งรถเข็นแล้ววิ่งหลบหนีไป จึงนำมารวบรวม พร้อมส่งมอบเจ้าหน้าที่สรรพสามิตจังหวัดสระแก้ว เพื่อเป็นหลักฐาน และขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ท.เอกรัติ เมธาวัฒนานันท์ รอง ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา พร้อมด้วย พ.ต.ศลิษฏพงษ์ แก้วพิลา ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1201 จุดตรวจ อ.04 บ้านป่าไร่ และ ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1206 จุดตรวจ อ.05 บ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จัดกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพราน 2 กองร้อย กว่า 80 นาย เข้าวางกำลังดักซุ่ม ตามสถานที่เป้าหมายตามริมแนวชายแดน หลังได้รับคำสั่งจาก พ.อ.วสุ เจียมสุข ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา ว่ามีขบวนการลักลอบนำสินค้าเถื่อนผิดกฎหมายนำเข้ามาจากฝั่งประเทศกัมพูชาเข้ามาในเขตไทย เพื่อส่งให้นายทุนคนไทยที่ทำการค้าธุรกิจผิดกฎหมาย
จนกระทั่งตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยในรูปแบบกองทัพมดชาวกัมพูชา มากกว่า 13 คน สวมชุดไอ้โม่งและเสื้อผ้ากางเกงสีดำ เดินแบกกล่องกระดาษแข็งสวมถุงพลาสติกสีดำ ในป่าอ้อยระหว่างหมู่บ้าน ป่าไร่ หมู่ 3 กับหมู่บ้านภูน้ำเกลี้ยง หมู่ 5 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ ซึ่งห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ลึกเข้ามาในเขตไทยประมาณ 2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อตรวจสอบสินค้าที่บรรจุกล่องชัดแถวแบกกันมา แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ยินเสียงและสัญญาณให้หยุด ต่างพากันตกใจทิ้งสินค้าที่บรรจุในกล่องไว้กลางป่าไร่อ้อย หลบหนีข้ามแดนเข้าฝั่งประเทศกัมพูชากันไปหมด
ต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจกล่องกระดาษแข็งที่สวมด้วยถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 11 กล่อง พบว่าเป็นบุหรี่ไทยแต่ปลอมยี่ห้อกรองทิพย์ 90 จำนวน 400 แท่ง 4,000 ซอง ยี่ห้อสายฝน อีก 150 แท่ง จำนวน 1,500 ซอง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบบุหรี่ยี่ห้อไทยปลอมดังกล่าวที่ยังอยู่ในสภาพใหม่เอี่ยม คาคว่ามีการปลอมปนส่งมอบขายให้นายทุนคนไทยทั้งภายใน กทม.และต่างจังหวัด
ขณะเดียวกัน ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1206 จุดตรวจ อ.05 บ้านคลองลึก ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานตั้งจุดตรวจค้นสกัดกั้น การลักลอบสินค้าเถื่อนเข้ามาจากฝั่งปอยเปตอย่างเข้มงวด ตรวจพบ บุหรี่ต่างประเทศยี่ห้อนุชรี จำนวน 9 แท่ง 90 ซอง ยี่ห้อโคเซล 1 แท่ง 10 ซอง ยี่ห้อฮาล่า อีก 1 แท่ง 10 ซอง พร้อมหัวน้ำหอมยี่ห้อดังจากประเทศฝรั่งเศส จำนวน 5 ขวดใหญ่ ซุกซ่อนมากับใต้รถเข็นของกรรมกรชาวกัมพูชาที่รับจ้างขายแรงงานในตลาดการค้าโรงเกลือ ขณะที่กรรมกรแรงงานรับจ้างขายแรงงานชาวกัมพูชา ได้ทิ้งรถเข็นแล้ววิ่งหลบหนีไป จึงนำมารวบรวม พร้อมส่งมอบเจ้าหน้าที่สรรพสามิตจังหวัดสระแก้ว เพื่อเป็นหลักฐาน และขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป