xs
xsm
sm
md
lg

BH:ครึ่งปีหลังยังมีมุมมองเชิงบวก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คำแนะนำ : ซื้อเมื่ออ่อนตัว Fair Value’52 (Bt) : 26.00 Closed Price (Bt) : 25.75 Up-side Gain : 1% Dividend Yield 52F : 3.1%

คาด 2Q/52 มีกำไรปกติ 283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% Y-O-Y แต่ลดลง 14% Q-O-Q การเติบโต Y-O-Y เนื่องจากอัตราค่าบริการเพิ่มขึ้น ชดเชยจำนวนผู้ใช้บริการลดลง อีกทั้งควบคุมต้นทุนบริการได้ดี ทำให้ Gross margin เพิ่มขึ้นเป็น 37.7% จาก 37.5% ใน 2Q/51 และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลงกว่า 20% Y-O-Y จากการจ่ายคืนหนี้ อย่างไรก็ดีผลประกอบการลดลง Q-O-Q เป็นผลของฤดูกาล low season กดดันรายได้ ประกอบกับต้นทุนต่อหน่วยเพิ่มขึ้น จากผู้ใช้บริการลดจำนวนลง และค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้นสวนทางรายได้ ครึ่งปีแรก 52 ผลประกอบการ และกระแสเงินสดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น Y-O-Y จึงคาดจ่ายเงินปันผลครึ่งปีแรกหุ้นละ 0.40 บาท (yield 1.5%) ส่วนครึ่งปีหลัง 52 ยังมีมุมมองเชิงบวก โดยเฉพาะไตรมาส 3 ผลประกอบการดีกว่าไตรมาสอื่น ทั้งนี้ช่วง 3 - 4 เดือนที่ผ่านมา ระดับราคาหุ้น BH ปรับขึ้นกว่า 20% ทำให้ราคาปัจจุบันใกล้เคียงมูลค่าเหมาะสม แนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”

ใน 2Q/52 รายได้เพิ่มขึ้น 4% Y-O-Y จากค่ารักษาเพิ่มขึ้น ชดเชยจำนวนผู้ใช้บริการลดลง

ใน 2Q/52 คาดว่า BH มีรายได้ 2,205 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% Y-O-Y แต่ลดลง 2% Q-O-Q รายได้ที่เพิ่มขึ้นยังได้อานิสงค์จากอัตราค่ารักษาของผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) สูงขึ้นจากใน 2Q/51 ประมาณ 7% (OPD 5,100 บาท) และ 9% (IPD 44,000 บาท) ตามลำดับ ชดเชยจำนวนผู้ใช้บริการ OPD และ IPD ลดลง 2% และ 6% Y-O-Y ตามลำดับ ขณะที่รายได้ลดลงจากใน 1Q/52 เป็นผลของฤดูกาล low season

สำหรับการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 (H1N1) ในประเทศไทย ตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย. ถึง 23 ก.ค.52 ซึ่งมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 5,000 ราย เป็นปัจจัยบวกต่อ BH ในแง่การใช้บริการของลูกค้าชาวไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือน พ.ค. แต่ไม่เพิ่มอัตราค่าบริการต่อหัว

คาด 2Q/52 มีกำไรปกติ 283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% Y-O-Y แต่ลดลง 14% Q-O-Q

เราคาดว่าผลประกอบการ 2Q/52 ของ BH มีกำไรปกติ 283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% Y-O-Y แต่ลดลง 14% Q-O-Q การเติบโต Y-O-Y เนื่องจากอัตราค่าบริการเพิ่มขึ้น สามารถชดเชยจำนวนผู้ใช้บริการลดลง ขณะเดียวกันการควบคุมต้นทุนบริการได้ดี ทำให้ Gross margin เพิ่มขึ้นเป็น 37.7% จาก 37.5% ใน 2Q/51 และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลงกว่า 20% Y-O-Y ตามภาระหนี้ที่ลดลงจากการจ่ายคืนหนี้ ทั้งนี้เทียบ Q-O-Q ผลประกอบการลดลง เป็นผลของฤดูกาล low season กดดันรายได้ ขณะที่ต้นทุนต่อหน่วยเพิ่มขึ้น จากผู้ใช้บริการลดจำนวนลง และค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้น 9% Q-O-Q สวนทางรายได้

แนวโน้มผลประกอบการ 1H/52 เพิ่มขึ้น 5% Y-O-Y ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไร และกระแสเงินสด จึงคาดว่า BH จะยังจ่ายเงินปันผลงวด 1H/52 ได้อัตราหุ้นละ 0.40 บาท (yield 1.5%)

แนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” ยังเห็นว่าผลประกอบการไตรมาส 3 มีแนวโน้มดีกว่าไตรมาสอื่น

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการครึ่งปีหลัง 52 โดยเฉพาะไตรมาส 3 ซึ่งปกติมีผลประกอบการดีกว่าไตรมาสอื่น เนื่องจากเป็น High season ของการใช้บริการ อีกทั้งในครึ่งปีหลัง BH มีค่าใช้จ่ายภาษีต่ำกว่าครึ่งปีแรก จึงสามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิได้สม่ำเสมอ โดยคาดผลประกอบการปี 52 มีกำไรปกติ 1,178 ล้านบาท ทรงตัวจากปี 51 (บทวิเคราะห์กลุ่มการแพทย์เมื่อ 1 มิ.ย.52 เราปรับเพิ่มประมาณการปี 52 ของ BH จากเดิม 8% สะท้อนอัตรากำไรมีแนวโน้มดีกว่าคาด จากการบริหารต้นทุนดำเนินงานได้ดีสม่ำเสมอ) อย่างไรก็ดีช่วง 3 - 4 เดือนที่ผ่านมา ระดับราคาหุ้น BH ปรับตัวขึ้นกว่า 20% ทำให้ราคาปัจจุบันของ BH ใกล้เคียงมูลค่าเหมาะสมปี 52 ที่ 26 บาท ตามวิธี DCF (WACC @ 8%) แนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”

มินทรา รัตยาภาส e-mail: research@kks.co.th
กำลังโหลดความคิดเห็น