เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมายืนยันด้วยตัวเองว่าไม่มีความขัดแย้งกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา พร้อมกล่าวชื่นชมโอบามาทำหน้าที่ผู้นำประเทศได้อย่างยอดเยี่ยม โดยยอมรับไม่คิดจะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีก แต่หวังอยากมีโอกาสเห็นผู้หญิงได้ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ สักครั้งในช่วงชีวิต
คลินตัน ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “มีท เดอะ เพรส” ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี เมื่อวันอาทิตย์ (26) โดยเธอปฏิเสธการตั้งข้อสังเกตของสื่อมวลชนหลายสำนักในช่วงที่ผ่านมา ที่ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับประธานาธิบดีโอบามาไม่ราบรื่นเท่าใดนัก หลังจากมีข่าวว่าทั้งคู่มีความเห็นไม่ตรงกันในหลายกรณี เช่น กรณีการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมไปดำรงตำแหน่งสำคัญ ทางการทูตและองค์การระหว่างประเทศต่างๆ รวมทั้ง ข้อสังเกตที่ว่า โอบามามักมอบหมายให้รองประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน เดินทางไปเจรจากับประเทศต่างๆ แทนคลินตัน ทั้งที่หน้าที่ดังกล่าวเป็นหน้าที่โดยตรงของรัฐมนตรีต่างประเทศก็ตาม
อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯวัย 61ปี ยืนยันกลางรายการเมื่อวันอาทิตย์ว่า เธอกับผู้นำสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมต่อกัน ทั้งตัวเธอและโอบามาจะได้พูดคุยกันแบบตัวต่อตัวอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเป็นประจำ โดยที่การพูดคุยกันทุกครั้งก็มีความตรงไปตรงมาและมีการแลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างเปิดเผย
คลินตันย้ำว่า การแข่งขันระหว่างเธอและโอบามา ในช่วงหาเสียงชิงตำแหน่งผู้แทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ผ่านมาได้สิ้นสุดไปแล้วและไม่คิดว่าตนเองเป็นคู่แข่งของโอบามาอีกต่อไป เนื่องจากขณะนี้เธอได้ทำงานที่น่าตื่นเต้นและท้าทายอยู่แล้วในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งมีหน้าที่หลักในการเป็นหัวหน้าคณะที่ให้คำปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศแก่โอบามา พร้อมยืนยันว่า การทำงานเป็นทีมจะก่อให้เกิดผลดีกับประเทศชาติ มากกว่า “ การแข่งขันกันทำตัวเด่น”
นอกจากนั้น คลินตันซึ่งเคยโจมตีโอบามาอย่างเผ็ดร้อนเรื่องความด้อยประสบการณ์และไม่มีความอดทนในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว ยังได้กล่าวชื่นชมความตั้งใจในการทำงานของโอบามานับแต่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยระบุว่าโอบามาสามารถทำหน้าที่ประธานาธิบดีได้อย่างน่าทึ่ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามว่าจะลงชิงชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในอนาคตอีกหรือไม่ คลินตันกล่าวว่าไม่มีความคิดที่จะลงสมัครอีก แต่หวังว่าจะมีโอกาสได้เห็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เป็นผู้หญิงในช่วงชีวิตของเธอ แม้คลินตันจะชี้ว่า ถือเป็นความท้าทายที่น่าหวาดหวั่นเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงที่จะประสบความสำเร็จในการลงชิงชัยศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ตาม
ขณะเดียวกัน คลินตันได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ ซาราห์ เพ-ลิน อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ที่เพิ่งลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการรัฐอะแลสกาจะลงชิงชัยในตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยหน้า โดยคลินตันระบุว่าขึ้นอยู่กับผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งที่จะเป็นคนตัดสินว่า เพ-ลิน มีความเหมาะสมหรือไม่ แต่โดยส่วนตัวแล้วอยากเห็นผู้สมัครหญิงของพรรคเดโมแครตได้เป็นประธานาธิบดีมากกว่า
คลินตัน ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ “มีท เดอะ เพรส” ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี เมื่อวันอาทิตย์ (26) โดยเธอปฏิเสธการตั้งข้อสังเกตของสื่อมวลชนหลายสำนักในช่วงที่ผ่านมา ที่ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับประธานาธิบดีโอบามาไม่ราบรื่นเท่าใดนัก หลังจากมีข่าวว่าทั้งคู่มีความเห็นไม่ตรงกันในหลายกรณี เช่น กรณีการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมไปดำรงตำแหน่งสำคัญ ทางการทูตและองค์การระหว่างประเทศต่างๆ รวมทั้ง ข้อสังเกตที่ว่า โอบามามักมอบหมายให้รองประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน เดินทางไปเจรจากับประเทศต่างๆ แทนคลินตัน ทั้งที่หน้าที่ดังกล่าวเป็นหน้าที่โดยตรงของรัฐมนตรีต่างประเทศก็ตาม
อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯวัย 61ปี ยืนยันกลางรายการเมื่อวันอาทิตย์ว่า เธอกับผู้นำสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมต่อกัน ทั้งตัวเธอและโอบามาจะได้พูดคุยกันแบบตัวต่อตัวอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเป็นประจำ โดยที่การพูดคุยกันทุกครั้งก็มีความตรงไปตรงมาและมีการแลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างเปิดเผย
คลินตันย้ำว่า การแข่งขันระหว่างเธอและโอบามา ในช่วงหาเสียงชิงตำแหน่งผู้แทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ผ่านมาได้สิ้นสุดไปแล้วและไม่คิดว่าตนเองเป็นคู่แข่งของโอบามาอีกต่อไป เนื่องจากขณะนี้เธอได้ทำงานที่น่าตื่นเต้นและท้าทายอยู่แล้วในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งมีหน้าที่หลักในการเป็นหัวหน้าคณะที่ให้คำปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศแก่โอบามา พร้อมยืนยันว่า การทำงานเป็นทีมจะก่อให้เกิดผลดีกับประเทศชาติ มากกว่า “ การแข่งขันกันทำตัวเด่น”
นอกจากนั้น คลินตันซึ่งเคยโจมตีโอบามาอย่างเผ็ดร้อนเรื่องความด้อยประสบการณ์และไม่มีความอดทนในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว ยังได้กล่าวชื่นชมความตั้งใจในการทำงานของโอบามานับแต่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยระบุว่าโอบามาสามารถทำหน้าที่ประธานาธิบดีได้อย่างน่าทึ่ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามว่าจะลงชิงชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในอนาคตอีกหรือไม่ คลินตันกล่าวว่าไม่มีความคิดที่จะลงสมัครอีก แต่หวังว่าจะมีโอกาสได้เห็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เป็นผู้หญิงในช่วงชีวิตของเธอ แม้คลินตันจะชี้ว่า ถือเป็นความท้าทายที่น่าหวาดหวั่นเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงที่จะประสบความสำเร็จในการลงชิงชัยศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ตาม
ขณะเดียวกัน คลินตันได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ ซาราห์ เพ-ลิน อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ที่เพิ่งลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการรัฐอะแลสกาจะลงชิงชัยในตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยหน้า โดยคลินตันระบุว่าขึ้นอยู่กับผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งที่จะเป็นคนตัดสินว่า เพ-ลิน มีความเหมาะสมหรือไม่ แต่โดยส่วนตัวแล้วอยากเห็นผู้สมัครหญิงของพรรคเดโมแครตได้เป็นประธานาธิบดีมากกว่า
