เช็ค&พันธบัตรไทยฯ
สานฝันโครงการฟื้นเศรษฐกิจ
ASTVผู้จัดการรายวัน – เปิดผลงาน 6 เดือนขุนคลัง ปชป. “กรณ์ จาติกวณิช” ระบุเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์มาถูกทางแล้ว โดยเฉพาะ SP 2 ที่สร้างประโยชน์ถึงกระเป๋าคนไทยโดยตรง พันธบัตรไทยเข้มแข็งยังดึงสภาพคล่องมาพัฒนาประเทศ กดดันแบงก์พาณิชย์ปรับดอกเบี้ยบีบสเปรดให้แคบลง เผยระหว่างเดินหน้า SP 2 รัฐบาลเตรียมวางแผนปรับยุทธศาสตร์โครงสร้างประเทศเพิ่มขีดความสามารถรองรับการแข่งขันสากล
หลังจากนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เข้ารับตำแหน่งและเริ่มทำงานเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา 6 เดือนกว่าที่ผ่านมา มีมาตรการออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ให้ชะลอตัวอย่างรุนแรงจนเกิดผลกระทบในทางลบเป็นวงกว้างมากเกินไป วันนี้...รมว.คลังได้ให้สัมภาษณ์พิเศษ “ASTVผู้จัดการรายวัน” ระหว่างบินไปเปิดมหกรรมยิ้มสู้กู้วิกฤตฯ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งงานที่ได้ทำไปแล้วครึ่งปีกับแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะหลังจากนี้ไป...
นายกรณ์เริ่มต้นสนทนาว่า ในตอนเข้ารับตำแหน่งนั้นมีโจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลยังไม่รู้ว่าเศรษฐกิจของไทยจะถึงจุดต่ำสุดเมื่อไรซึ่งเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายกังวลมา รวมทั้งมีการคาดการณ์กันว่าอัตราการว่างงานที่เกิดขึ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจจะพุ่งสูงกว่า 2 ล้านคน ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลจึงพยายามหามาตรการออกมาเพื่อพยุงเศรษฐกิจ รักษากำลังซื้อรวมทั้งซื้อเวลาให้กับภาคเอกชน
***เช็คช่วยชาติฟื้นกำลังซื้อประเทศ
ปัญหากำลังซื้อที่หายไปจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกนั้นเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าที่รัฐบาลจะเข้าไปรองรับปัญหาทั้งหมดได้ สิ่งที่รัฐบาลมองเห็นและสามารถดำเนินการได้ทันทีคือเรื่องของงบกลางปีกว่า 1 แสนล้านที่รัฐบาลตั้งโจทย์ว่าหากต้องการให้เศรษฐกิจฟื้นเร็วก็ต้องมีโครงการที่ทำได้เร็ว ซึ่งโครงการทั่วไปที่ผ่านกระทรวงหรือหน่วยงานต่างๆ คงจะไม่ทันแน่นอนเพราะจนถึงปัจจุบันเพิ่มเริ่มมีการเบิกจ่ายไปบางโครงการ ดังนั้นรัฐบาลจึงตัดสินใจใช้งบกลางปีให้เข้าสู่กระเป๋าประชาชนโดยตรงจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากในช่วงนั้น
“โครงการเช็คช่วยชาติและเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผมยืนยันว่าโรงการนี้ประสบความสำเร็จและเม็ดเงินไม่มีการรั่วไหล ซึ่งเมื่อดูจากตัวเลขชี้วัดต่างๆ ที่ออกมาจะเห็นผลชัดเจนจากภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ตัวเลขยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นโดยรวมในช่วงไตรมาส 2 ตัวเลขต่างๆ เป็นไปในทิศทางที่ดีเนื่องจากมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ จะเห็นว่ายุทธศาสตร์การซื้อเวลาเริ่มเกิดผล การส่งออกเดือนล่าสุดเริ่มดีขึ้น การจ้างงานกลับคืนมาทั้งภาคการผลิตชิ้นส่วนยายยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ มีการจ้างกลับในส่วนที่ปลดออกก่อนหน้านี้” นายกรณ์กล่าว
***ไทยเข้มแข็ง : เพื่อคนไทย
รมว.คลังกล่าวว่า ในช่วงที่ออกมาตรการระยะสั้นนั้นรัฐบาลรู้ว่ามาตรการเหล่านี้ไม่เพียงพอจึงได้เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 (STIMULUS PACKAGE II : SP 2 ) หรือโครงการไทยเข้มแข็ง 2555 ซึ่งถือว่าเป็นโครงการลงทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของรัฐบาลเท่าที่เคยมีมาวงเงินกว่า 1.5 ล้านล้านบาท โดยรัฐบาลได้ดำเนินโครงการตามขีดความสามารถของรัฐบาลโดยไม่ให้กระทบต่อผลลบต่อเสถียรภาพทางการคลังมากเกินไป
“โครงการไทยเข้มแข็งนี้ผมเชื่อว่านอกจากเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมได้รับประโยชน์แล้วพี่น้องประชาชนทั้งหมดก็ได้ประโยชน์ด้วย เพราะเมื่อลงไปดูในรายละเอียดของโครงการแต่ละโครงการจะเห็นว่าเป็นโครงการของประชาชนไม่ใช่โครงการของราชการ ประชาชนได้ประโยชน์และรอมานาน ซึ่งเท่าที่ได้มีการลงพื้นที่ตามโครงการไทยเข้าแข็งจะเห็นว่าประชาชนในพื้นที่ต่างรอโครงการเหล่านี้มานานถึงเวลาที่รัฐบาลจะดำเนินการตามความต้องการของประชาชน โดยกระทรวงการคลังจะเร่งให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณในโครงการต่างๆ โดยเร็ว” รมว.คลังกล่าว
***รับ 6 เดือน หืดขึ้นคอ
รัฐบาลได้กำหนดให้โครงการต่างๆ ภายใต้พระราชกำหนด(พ.ร.ก.) เงินกู้ 4 แสนล้านต้องมีการประมูลงานให้เสร็จสิ้นในเดือนตุลาคมนี้และเริ่มโครงการโดยเร็ว ซึ่งเดิมทีรัฐบาลได้กันเงิน 2 แสนล้านบาทเพื่อชดเชยเงินคลคลัง แต่จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ผ่านมาและการปรับโครงสร้างจัดเก็บภาษีทำให้ฐานะการคลังดีขึ้นไม่จำเป็นต้องชดเชยเต็มวงเงิน 2 แสนล้านบาททำให้มีเงินเหลือมาลงทุนโครงการอื่นเพิ่มเติม
หากเทียบกับทุกรัฐบาลที่ผ่านมาจะเห็นได้ชัดเจนว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่ออกมาได้ในช่วง 6 เดือนแรกถือว่าหืดขึ้นคอแต่ภายในรายละเอียดของโครงการต่างๆ จะเห็นได้ว่าประชาชนได้รับในสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ให้คำมั่นไว้ในตอนหาเสียง เช่น เรื่องการเรียนฟรี เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้นำมาตรการด้านมหภาคบวกกับมาตรการด้านสังคมให้เดินหน้าไปด้วยกันและเพื่อสนองความต้องการของประชาชนในที่สุด
***บอนด์ไทยเข้มแข็งบีบส่วนต่างดอกเบี้ยแบงก์
ในส่วนของการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านสถาบันการเงินนั้นในการออกพันธบัตรไทยเข้มแข็งถือว่าเป็นการยิงกระสุนนัดเดียวได้นกหลายตัว เนื่องจากสภาพคล่องในระบบล้นรัฐบาลจึงกู้ตรงจากประชาชนมาลงทุนโดยไม่ผ่านสถาบันการเงิน ช่วยให้ประชาชนได้รับดอกเบี้ยในอัตราที่เหมาะสม เพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน ที่สำคัญทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากแข่งกับพันธบัตรไทยเข้มแข็งของรัฐบาล
“การเดินยุทธศาสตรนี้เป็นการผลักให้สถาบันการเงินเกิดการแข่งขันขยับดอกเบี้ยเงินฝากโดยอัตโนมัติ เป็นผลงานและยุทธศาสตร์ที่ถูกต้องและเราจะเดินหน้าต่อไป ในส่วนบทบาทสถาบันการเงินของรัฐอยู่ในช่วงทบทวนบทบาทว่าจะดำเนินการอย่างไรหลังจากหารือกับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี โดยจะเพิ่มบทบาทแบงก์เฉพาะกิจขึ้นเพื่อผลักดันให้แบงก์พาณิชย์ขยันขึ้นด้วย” นายกรณ์กล่าว
***เดินหน้าปรับโครงสร้างแข่งขันระยะยาว
ในระหว่างโครงการ SP2 เดินหน้าจนถึงปี 2555 จะมีการขับเคลื่อนทุกโครงการให้เดินหน้าจนกระทั่งสิ้นสุดโครงการซึ่งรัฐบาลออกแบบระบบให้เดินตามแผนที่วางไว้ โดยในช่วง 3 ปีนี้ระหว่างที่ SP2 เดินหน้ารัฐบาลก็จะหันมาวางแผนยุทธศาสตร์ของประเทศในระยะยาวเพื่อปรับโครงสร้างด้านต่างๆ เตรียมงานด้านตลาดเงินตลาดทุนโดยรวม โครงการเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ทั้งการลงทุนในระบบราง เซาเทิร์นซีบอร์ด และโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ ถือเป็นบทบาทที่สำคัญที่รัฐบาลต้องดำเนินการในระยะยาวต่อไป
สำหรับในส่วนของกระทรวงการคลังจะมีการปฏิรูปการจัดเก็บรายได้ของรัฐซึ่งอยู่ในรูปแบบของภาษี โดยแนวทางที่ชัดเจนที่รัฐบาลยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อไปคือการผลักดันโครงสร้างของภาษีทรัพย์สินในรูปแบบภาษีทรัพย์สินและที่ดินโดยจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วๆ นี้ และกฎหมายที่สำคัญอีกฉบับคือกองทุนการออมแห่งชาติที่จะช่วยแรงงานนอกระบบกว่า 24 ล้านคนให้มีหลักประกันในวัยชราภาพเป็นการสนับสนุนโดยรัฐบาลเป็นครั้งแรกและเป็นเป้าหมายของพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้เรียบร้อยแล้วเตรียมผลักดันผ่านกระบวนการของรัฐสภา ซึ่งรัฐบาลต้องการผลักดันให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชนคนไทยได้ในสิ้นปีนี้.
สานฝันโครงการฟื้นเศรษฐกิจ
ASTVผู้จัดการรายวัน – เปิดผลงาน 6 เดือนขุนคลัง ปชป. “กรณ์ จาติกวณิช” ระบุเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์มาถูกทางแล้ว โดยเฉพาะ SP 2 ที่สร้างประโยชน์ถึงกระเป๋าคนไทยโดยตรง พันธบัตรไทยเข้มแข็งยังดึงสภาพคล่องมาพัฒนาประเทศ กดดันแบงก์พาณิชย์ปรับดอกเบี้ยบีบสเปรดให้แคบลง เผยระหว่างเดินหน้า SP 2 รัฐบาลเตรียมวางแผนปรับยุทธศาสตร์โครงสร้างประเทศเพิ่มขีดความสามารถรองรับการแข่งขันสากล
หลังจากนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เข้ารับตำแหน่งและเริ่มทำงานเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา 6 เดือนกว่าที่ผ่านมา มีมาตรการออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ให้ชะลอตัวอย่างรุนแรงจนเกิดผลกระทบในทางลบเป็นวงกว้างมากเกินไป วันนี้...รมว.คลังได้ให้สัมภาษณ์พิเศษ “ASTVผู้จัดการรายวัน” ระหว่างบินไปเปิดมหกรรมยิ้มสู้กู้วิกฤตฯ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งงานที่ได้ทำไปแล้วครึ่งปีกับแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะหลังจากนี้ไป...
นายกรณ์เริ่มต้นสนทนาว่า ในตอนเข้ารับตำแหน่งนั้นมีโจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลยังไม่รู้ว่าเศรษฐกิจของไทยจะถึงจุดต่ำสุดเมื่อไรซึ่งเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายกังวลมา รวมทั้งมีการคาดการณ์กันว่าอัตราการว่างงานที่เกิดขึ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจจะพุ่งสูงกว่า 2 ล้านคน ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลจึงพยายามหามาตรการออกมาเพื่อพยุงเศรษฐกิจ รักษากำลังซื้อรวมทั้งซื้อเวลาให้กับภาคเอกชน
***เช็คช่วยชาติฟื้นกำลังซื้อประเทศ
ปัญหากำลังซื้อที่หายไปจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกนั้นเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าที่รัฐบาลจะเข้าไปรองรับปัญหาทั้งหมดได้ สิ่งที่รัฐบาลมองเห็นและสามารถดำเนินการได้ทันทีคือเรื่องของงบกลางปีกว่า 1 แสนล้านที่รัฐบาลตั้งโจทย์ว่าหากต้องการให้เศรษฐกิจฟื้นเร็วก็ต้องมีโครงการที่ทำได้เร็ว ซึ่งโครงการทั่วไปที่ผ่านกระทรวงหรือหน่วยงานต่างๆ คงจะไม่ทันแน่นอนเพราะจนถึงปัจจุบันเพิ่มเริ่มมีการเบิกจ่ายไปบางโครงการ ดังนั้นรัฐบาลจึงตัดสินใจใช้งบกลางปีให้เข้าสู่กระเป๋าประชาชนโดยตรงจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากในช่วงนั้น
“โครงการเช็คช่วยชาติและเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผมยืนยันว่าโรงการนี้ประสบความสำเร็จและเม็ดเงินไม่มีการรั่วไหล ซึ่งเมื่อดูจากตัวเลขชี้วัดต่างๆ ที่ออกมาจะเห็นผลชัดเจนจากภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ตัวเลขยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นโดยรวมในช่วงไตรมาส 2 ตัวเลขต่างๆ เป็นไปในทิศทางที่ดีเนื่องจากมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ จะเห็นว่ายุทธศาสตร์การซื้อเวลาเริ่มเกิดผล การส่งออกเดือนล่าสุดเริ่มดีขึ้น การจ้างงานกลับคืนมาทั้งภาคการผลิตชิ้นส่วนยายยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ มีการจ้างกลับในส่วนที่ปลดออกก่อนหน้านี้” นายกรณ์กล่าว
***ไทยเข้มแข็ง : เพื่อคนไทย
รมว.คลังกล่าวว่า ในช่วงที่ออกมาตรการระยะสั้นนั้นรัฐบาลรู้ว่ามาตรการเหล่านี้ไม่เพียงพอจึงได้เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 (STIMULUS PACKAGE II : SP 2 ) หรือโครงการไทยเข้มแข็ง 2555 ซึ่งถือว่าเป็นโครงการลงทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของรัฐบาลเท่าที่เคยมีมาวงเงินกว่า 1.5 ล้านล้านบาท โดยรัฐบาลได้ดำเนินโครงการตามขีดความสามารถของรัฐบาลโดยไม่ให้กระทบต่อผลลบต่อเสถียรภาพทางการคลังมากเกินไป
“โครงการไทยเข้มแข็งนี้ผมเชื่อว่านอกจากเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมได้รับประโยชน์แล้วพี่น้องประชาชนทั้งหมดก็ได้ประโยชน์ด้วย เพราะเมื่อลงไปดูในรายละเอียดของโครงการแต่ละโครงการจะเห็นว่าเป็นโครงการของประชาชนไม่ใช่โครงการของราชการ ประชาชนได้ประโยชน์และรอมานาน ซึ่งเท่าที่ได้มีการลงพื้นที่ตามโครงการไทยเข้าแข็งจะเห็นว่าประชาชนในพื้นที่ต่างรอโครงการเหล่านี้มานานถึงเวลาที่รัฐบาลจะดำเนินการตามความต้องการของประชาชน โดยกระทรวงการคลังจะเร่งให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณในโครงการต่างๆ โดยเร็ว” รมว.คลังกล่าว
***รับ 6 เดือน หืดขึ้นคอ
รัฐบาลได้กำหนดให้โครงการต่างๆ ภายใต้พระราชกำหนด(พ.ร.ก.) เงินกู้ 4 แสนล้านต้องมีการประมูลงานให้เสร็จสิ้นในเดือนตุลาคมนี้และเริ่มโครงการโดยเร็ว ซึ่งเดิมทีรัฐบาลได้กันเงิน 2 แสนล้านบาทเพื่อชดเชยเงินคลคลัง แต่จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ผ่านมาและการปรับโครงสร้างจัดเก็บภาษีทำให้ฐานะการคลังดีขึ้นไม่จำเป็นต้องชดเชยเต็มวงเงิน 2 แสนล้านบาททำให้มีเงินเหลือมาลงทุนโครงการอื่นเพิ่มเติม
หากเทียบกับทุกรัฐบาลที่ผ่านมาจะเห็นได้ชัดเจนว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่ออกมาได้ในช่วง 6 เดือนแรกถือว่าหืดขึ้นคอแต่ภายในรายละเอียดของโครงการต่างๆ จะเห็นได้ว่าประชาชนได้รับในสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ให้คำมั่นไว้ในตอนหาเสียง เช่น เรื่องการเรียนฟรี เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้นำมาตรการด้านมหภาคบวกกับมาตรการด้านสังคมให้เดินหน้าไปด้วยกันและเพื่อสนองความต้องการของประชาชนในที่สุด
***บอนด์ไทยเข้มแข็งบีบส่วนต่างดอกเบี้ยแบงก์
ในส่วนของการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านสถาบันการเงินนั้นในการออกพันธบัตรไทยเข้มแข็งถือว่าเป็นการยิงกระสุนนัดเดียวได้นกหลายตัว เนื่องจากสภาพคล่องในระบบล้นรัฐบาลจึงกู้ตรงจากประชาชนมาลงทุนโดยไม่ผ่านสถาบันการเงิน ช่วยให้ประชาชนได้รับดอกเบี้ยในอัตราที่เหมาะสม เพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน ที่สำคัญทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากแข่งกับพันธบัตรไทยเข้มแข็งของรัฐบาล
“การเดินยุทธศาสตรนี้เป็นการผลักให้สถาบันการเงินเกิดการแข่งขันขยับดอกเบี้ยเงินฝากโดยอัตโนมัติ เป็นผลงานและยุทธศาสตร์ที่ถูกต้องและเราจะเดินหน้าต่อไป ในส่วนบทบาทสถาบันการเงินของรัฐอยู่ในช่วงทบทวนบทบาทว่าจะดำเนินการอย่างไรหลังจากหารือกับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี โดยจะเพิ่มบทบาทแบงก์เฉพาะกิจขึ้นเพื่อผลักดันให้แบงก์พาณิชย์ขยันขึ้นด้วย” นายกรณ์กล่าว
***เดินหน้าปรับโครงสร้างแข่งขันระยะยาว
ในระหว่างโครงการ SP2 เดินหน้าจนถึงปี 2555 จะมีการขับเคลื่อนทุกโครงการให้เดินหน้าจนกระทั่งสิ้นสุดโครงการซึ่งรัฐบาลออกแบบระบบให้เดินตามแผนที่วางไว้ โดยในช่วง 3 ปีนี้ระหว่างที่ SP2 เดินหน้ารัฐบาลก็จะหันมาวางแผนยุทธศาสตร์ของประเทศในระยะยาวเพื่อปรับโครงสร้างด้านต่างๆ เตรียมงานด้านตลาดเงินตลาดทุนโดยรวม โครงการเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ทั้งการลงทุนในระบบราง เซาเทิร์นซีบอร์ด และโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ ถือเป็นบทบาทที่สำคัญที่รัฐบาลต้องดำเนินการในระยะยาวต่อไป
สำหรับในส่วนของกระทรวงการคลังจะมีการปฏิรูปการจัดเก็บรายได้ของรัฐซึ่งอยู่ในรูปแบบของภาษี โดยแนวทางที่ชัดเจนที่รัฐบาลยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อไปคือการผลักดันโครงสร้างของภาษีทรัพย์สินในรูปแบบภาษีทรัพย์สินและที่ดินโดยจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วๆ นี้ และกฎหมายที่สำคัญอีกฉบับคือกองทุนการออมแห่งชาติที่จะช่วยแรงงานนอกระบบกว่า 24 ล้านคนให้มีหลักประกันในวัยชราภาพเป็นการสนับสนุนโดยรัฐบาลเป็นครั้งแรกและเป็นเป้าหมายของพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้เรียบร้อยแล้วเตรียมผลักดันผ่านกระบวนการของรัฐสภา ซึ่งรัฐบาลต้องการผลักดันให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชนคนไทยได้ในสิ้นปีนี้.