เอเจนซี - ประธานาธิบดีมานูเอล เซเลยา แห่งฮอนดูรัสซึ่งถูกรัฐประหารและขับออกนอกประเทศ เดินทางไปยังชายแดนนิการากัวด้านติดกับฮอนดูรัสเป็นวันที่สองติดต่อกันเมื่อวันเสาร์(25) เพื่อกดดันพวกผู้นำการรัฐประหาร และยังวิจารณ์รัฐมนตรีต่างประเทศ ฮิลลารี คลินตัน ของสหรัฐฯ อย่างหนักว่าไม่รู้จัก "ระบอบกดขี่" ในฮอนดูรัสดีพอ
ก่อนหน้านี้ ฮิลลารี คลินตัน วิจารณ์เซเลยาว่า "ขาดความยั้งคิด" เพราะในวันศุกร์ (24) เขาเดินข้ามชายแดนนิการากัวเข้าไปในฮอนดูรัส ก่อนจะกลับเข้ามาในนิการากัวอีกครั้ง แม้ทางการฮอนดูรัสระดมตำรวจและทหารเตรียมเข้าจับกุมตัวเขาอยู่
ในวันเสาร์ (25) เซเลยาจึงวิจารณ์คลินตันกลับ และยืนกรานว่าจะไม่ยอมเลิกต่อสู้ แต่เขาอ้างเหตุผลที่ยอมถอยกลับไปที่นิการากัวว่าเพราะไม่ต้องการให้เกิดการนองเลือด
ทั้งนี้ สหรัฐฯ สหประชาชาติ และผู้นำของละตินอเมริกาต่างก็ประณามการรัฐประหารดังกล่าวหลายครั้งด้วยกัน โดยสหรัฐฯ ได้ตัดเงินช่วยเหลือด้านการทหารแก่ฮอนดูรัสไป 16.5 ล้านดอลลาร์ และขู่ว่าจะตัดความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจอีกด้วย
ทว่าในอีกด้านหนึ่ง สหรัฐฯ เองก็มีปัญหากับเซเลยา เพราะเขาสนิทกับฮูโก ชาเวซ ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ไม้เบื่อไม้เมาซึ่งโจมตีว่าสหรัฐฯ ไม่ได้ช่วยเหลือเซเลยามากพอ
ส่วนเซเลยาเองก็เรียกร้องให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ใช้มาตรการหนักขึ้น และล่าสุดเขายังเสี่ยงถูกโดดเดี่ยวจากมหาอำนาจที่สนับสนุนเขาอยู่รายนี้ โดยวิจารณ์คลินตันว่า "จะต้องหาข้อมูลที่ถูกต้องกว่านี้เพื่อที่จะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในฮอนดูรัส คำพูดของเธอไม่ใช่คำของคนกล้าท้าทายและอยู่ข้างผมมากพอ"
คำวิจารณ์นี้ทำให้โอบามาลำบากใจเพราะเขาไม่ต้องการสานต่อแนวปฏิบัติของรัฐบาลชุดก่อนที่สนับสนุนรัฐบาลฝ่ายขวาในละตินอเมริกา แต่ก็ไม่สะดวกใจที่จะสนับสนุนเซเลยา ส่วนพวกรีพับลิกันในคองเกรสก็เตือนว่าเขาช่วยผู้นำหัวเอียงซ้ายมากเกินไปแล้ว
ก่อนหน้านี้ ฮิลลารี คลินตัน วิจารณ์เซเลยาว่า "ขาดความยั้งคิด" เพราะในวันศุกร์ (24) เขาเดินข้ามชายแดนนิการากัวเข้าไปในฮอนดูรัส ก่อนจะกลับเข้ามาในนิการากัวอีกครั้ง แม้ทางการฮอนดูรัสระดมตำรวจและทหารเตรียมเข้าจับกุมตัวเขาอยู่
ในวันเสาร์ (25) เซเลยาจึงวิจารณ์คลินตันกลับ และยืนกรานว่าจะไม่ยอมเลิกต่อสู้ แต่เขาอ้างเหตุผลที่ยอมถอยกลับไปที่นิการากัวว่าเพราะไม่ต้องการให้เกิดการนองเลือด
ทั้งนี้ สหรัฐฯ สหประชาชาติ และผู้นำของละตินอเมริกาต่างก็ประณามการรัฐประหารดังกล่าวหลายครั้งด้วยกัน โดยสหรัฐฯ ได้ตัดเงินช่วยเหลือด้านการทหารแก่ฮอนดูรัสไป 16.5 ล้านดอลลาร์ และขู่ว่าจะตัดความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจอีกด้วย
ทว่าในอีกด้านหนึ่ง สหรัฐฯ เองก็มีปัญหากับเซเลยา เพราะเขาสนิทกับฮูโก ชาเวซ ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ไม้เบื่อไม้เมาซึ่งโจมตีว่าสหรัฐฯ ไม่ได้ช่วยเหลือเซเลยามากพอ
ส่วนเซเลยาเองก็เรียกร้องให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ใช้มาตรการหนักขึ้น และล่าสุดเขายังเสี่ยงถูกโดดเดี่ยวจากมหาอำนาจที่สนับสนุนเขาอยู่รายนี้ โดยวิจารณ์คลินตันว่า "จะต้องหาข้อมูลที่ถูกต้องกว่านี้เพื่อที่จะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในฮอนดูรัส คำพูดของเธอไม่ใช่คำของคนกล้าท้าทายและอยู่ข้างผมมากพอ"
คำวิจารณ์นี้ทำให้โอบามาลำบากใจเพราะเขาไม่ต้องการสานต่อแนวปฏิบัติของรัฐบาลชุดก่อนที่สนับสนุนรัฐบาลฝ่ายขวาในละตินอเมริกา แต่ก็ไม่สะดวกใจที่จะสนับสนุนเซเลยา ส่วนพวกรีพับลิกันในคองเกรสก็เตือนว่าเขาช่วยผู้นำหัวเอียงซ้ายมากเกินไปแล้ว