xs
xsm
sm
md
lg

"ฮิลรารี"ใช้เวทีอาเซียนคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - "ฮิลรารี คลินตัน"ฉวยจังหวะใช้เวทีอาเซียนคว่ำบาตรเกาหลีเหนือที่ยังคงเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์ ชี้จะเป็นตัวอย่างให้ประเทศในภูมิภาคแข่งขันกันในเรื่องนิวเคลียร์ ด้านโสมแดงโต้ทันควันประกาศเลิกสังฆกรรมเวที ARF หากบ้าจี้ตามมะกัน "กษิต"แถลงปิดการประชุมเชื่อเวทีนี้จะเป็นการตัดสินใจที่ได้รับการปฏิบัติอย่างครบถ้วนและทันเวลา และถือเป็นสัญญาณที่ดีที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ต.ค.นี้ "อภิสิทธิ์" เผยไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะปลดพม่าออกจากอาเซียน มั่นใจสหรัฐฯเข้าใจจุดยืนของไทย ขณะที่การประชุม ARF วุ่นหลังมีเสียงดังคล้ายระเบิด แม่ทัพภาค 1 แจงแค่ยิงมอเตอร์ไซด์ตรวจสอบระเบิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือ ด้านการเมืองและด้านความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ARF) วานนี้ (23 ก.ค.) ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ ลากูน่า ภูเก็ต นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกาได้ระบุถึงท่าทีต่อเกาหลีเหนือว่า สหรัฐฯมีความพยายามที่จะเปิดเจรจากับเกาหลีเหนือ แต่เกาหลีเหนือปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามและยังดำเนินการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความวิตกกังวลให้กับหลายประเทศในภูมิภาคนี้รวมทั้งสหรัฐฯด้วย
โดยยืนยันว่า สหรัฐฯและพันธมิตรจะคว่ำบาทการทดลอง และพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ รวมทั้งโดดเดี่ยวเกาหลีเหนือ และตั้งมั่นที่จะตรวจสอบโครงการนี้ของเกาหลีต่อไปด้วยสันติวิธี เนื่องจากเห็นว่า การทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ถือเป็นการยกระดับความเสี่ยงในคาบสมุทรเกาหลี และอาจทำให้ประเทศต่างๆในภูมิภาค เกิดการแข่งขันทางอาวุธขึ้นมาได้ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศใด จึงต้องแสดงท่าทีที่ชัดเจนในรูปแบบบันทึกลงนามโดยกลุ่มอาเซียน รวมถึงการพูดคุยในกลุ่มจี 8 ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการประณามเท่านั้น
แต่ข้อมติดังกล่าว ยังรวมเอาเป้าหมาย ทิศทางและอำนาจ ของการคว่ำบาทจากสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งได้มอบเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมาก ในกรณีที่เกาหลีเหนือยังไม่ยอมรับมตินั้น และจะลงโทษทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีเหนือ รวมถึงโครงการอาวุธทำลายล้างนี้ พร้อมเชื่อมั่นว่า มติของยูเอ็น จะทรงประสิทธิภาพ และมีสาระสำคัญ แตกต่างจากอดีต และสะท้อนฉันทามติระดับโลก ไม่ใช่แค่ชาติหนึ่งชาติใด สะท้อนปัจเจกบุคคลในภาพรวม
ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกา ยืนยันพร้อมทำงานร่วมกับเกาหลีเหนือ หากเกาหลีเหนือจะปฏิบัติตามสิ่งที่ได้ผูกพันไว้ก่อนหน้านี้ ย้ำแนวทางคือ การโดดเดี่ยวเกาหลีเหนือ และดำเนินการบังคับให้เกิดความเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการคว่ำบาทเกาหลีเหนือ แต่ยูเอ็นจะส่งทูตพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนเข้าไปในประเทศ เพื่อโอกาสที่จะพูดคุยกับเกาหลีเหนือได้ตลอดเวลาและเห็นว่าควรมีการประชุม 6 ฝ่าย เพื่อนำไปสู่การยกเลิกโครงการนิวเคลียร์แบบไม่หวนกลับของเกาหลีเหนือ
นอกจากนี้ การคว่ำบาทเกาหลีเหนือจะแสดงให้ประเทศอื่นที่ปรารถนาจะดำเนินโครงการรนิวเคลียร์ เห็นว่า ยูเอ็นมีมาตรการลงโทษได้ ต่อบุคคลใดก็ตามที่ละเมิดหลักการสากล และไม่นำพาต่อความมั่นคงของโลก

**โสมแดงเลิกร่วมAFRหากบ้าจี้ตามมะกัน
หลังจากนั้น Mr.Rihung Sik อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือ ได้ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ ลากูนาว่า เกาหลีเหนือจะไม่ขอเข้าสู่การเจรจา 6 ฝ่ายอีกต่อไปแล้ว ตราบใดที่อาเซียน และประเทศอื่นๆ ที่มาร่วมประชุมอาเซียน และการประชุม ARF ที่เกี่ยวข้อง มีทัศนคติต่อต้านเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังเห็นว่า ข้อเสนอของสหรัฐอเมริกาขณะนี้ ต่อการเจรจายุติปัญหาคาบสมุทรเกาหลี ก็ไม่มีความเปลี่ยนแปลง และเห็นว่า เหมือนกับนโยบายรัฐบาลของจอร์ช ดับเบิ้ลยู บุช ไม่ต่างไปจากเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการแถลงข่าวของอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศเกาหลีเหนือในช่วงที่ผ่านมาเกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากได้มีการเลื่อนกำหนดการแถลงข่าวให้ขึ้นเร็วจากกำหนดเดิมตามที่ได้มีการวางโปรแกรมเอาไว้ เนื่องจากทางฝ่ายเกาหลีเหนือต้องการแถลงข่าวก่อนการแถลงข่าวนางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ที่จะมีขึ้น
โดยอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศเกาหลีเหนือ ได้เดินเข้ามายังห้องแถลงข่าวดังกล่าว แต่ไม่สามารถมาใช้เวทีการแถลงข่าวที่มีการเตรียมการไว้ได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของฝ่ายสหรัฐ ได้มีการวางระบบการรักษาความปลอดภัยให้กับนางฮิลลารีที่จะเตรียมขึ้นแถลงข่าวไว้ก่อนแล้ว จึงทำให้อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศเกาหลีเหนือ เกิดความไม่พอใจและได้เดินออกจากห้องแถลงข่าวในทันที
ทั้งนี้ ท่ามกลางตะโกนของสื่อมวลทั้งไทยและต่างประเทศ " I Want you " และเรียกร้องให้ตัวแทนของเกาหลีเหนือทำการแถลงข่าว ซึ่งต่อจากนั้นเกาหลีเหนือได้เปิดแถลงในบริเวณพื้นที่ทีมีการจัดประชุม ARF พื้นที่

**พอใจARFแสดงท่าทีต่อเกาเหลีเหนือ
นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐแถลงต่อผู้สื่อข่าวหลังการประชุม AFR ว่า ผู้แทนเกาหลีเหนือยังคงดื้อดึงไม่ยอมรับว่ากำลังทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และยืนยันไม่ยอมล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ ต่อที่ประชุม AFR ซึ่งเป็นปัญหาไม่เฉพาะแต่กับสหรัฐฯ แต่เป็นปัญหากับทั้งภูมิภาคและประชาคมโลก แต่เธอก็บอกว่ารู้สึกพอใจ ที่ชาติสมาชิก ARFช่วยกันแสดงความวิตกกับตัวแทนของเกาหลีเหนือ ในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และว่าตอนนี้เกาหลีเหนือไม่มีเพื่อนที่จะมาช่วยปกป้องเกาหลีเหนือจากความพยายามของประชาคมโลกที่จะผลักดันให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์อีกแล้ว
นางฮิลลารี คลินตัน ยังได้เสนอแนวทางที่จะโน้มน้าวเกาหลีเหนือ ให้ยุติโครงการนิวเคลียร์อย่างแท้จริงและพิสูจน์ได้ ด้วยการให้ความช่วยเหลือด้านพลังงานและเศรษฐกิจเป็นการแลกเปลี่ยน แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการประนีประนอมใดๆกับเกาหลีเหนือจนกว่าเกาหลีเหนือจะล้มเลิกความพยายามพัฒนานิวเคลียร์ และเธอได้สรุปว่า สหรัฐจะโดดเดี่ยวเกาหลีเหนือ สร้างแรงกดดันอย่างหนักที่จะทำให้เกาหลีเหนือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และเสนอทางเลือกที่จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่าย

**"กษิต"แถลงปิดการประชุมสุดชื่นมื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.00 น.ได้มีพิธีปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 42 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่โรงแรมเชอร์ราตัน แกรนด์ ลากูนา ซึ่งพิธีปิดเป็นไปอย่างเรียบง่าย โดยกระทรวงการต่างประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพไปมอบแสตมป์ที่ระลึกเป็นภาพหมู่รัฐมนตรีแต่ละประเทศ พร้อมธงชาติไทย พื้นหลังเป็นรูปสัญลักษณ์ประเทศต่างๆ ใส่กรอบอย่างดี มอบให้เป็นที่ระลึก เชื่อว่าเป็นที่ประทับใจและจดจำในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งนี้ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมประชุมทั้ง 26 ประเทศ 1 กลุ่มประเทศ ก็จะได้เดินทางกลับประเทศทัน
โดยนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ในฐานประธานรมว.ต่างประเทศอาเซียน กล่าวว่า ผลการหารือ ของเราที่ภูเก็ตจะได้รับการพัฒนาต่อไปให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมเมื่อผู้นำของเราพบกับอีกครั้งหนึ่งในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้องที่กำหนดจะจัดขึ้นเดือน ต.ค.นี้ นับจากบัดนี้จนถึงเวลานั้น เราต้องทำให้มั่นใจว่า ข้อตัดสินใจของเราจะได้รับการปฏิบัติอย่างครบถ้วนและทันเวลา เพื่อแสดงให้เห็นว่า อาเซียนกำลังมุ่งไปสู่การเป็นประชาคมที่เน้นการปฏิบัติ
เราต้องเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อให้อาเซียนสามารถตอบสนองต่อปัญหาท้าทายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นมาทั้งในเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจและการเงิน ความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน หรือการแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ นอกจากนี้
เรายังคงต้องร่วมมือต่อไปเพื่อสร้างความมั่นใจว่าประชาชน ของเราจะได้รับประโยชน์จากการรวมตัวของอาเซียนอย่างเต็มที่โดยผ่านการลดช่องว่างในการพัฒนา การเสริมสร้างขีดความสามารถของประชาชน และการพัฒนาการเชื่อมโยงของโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ในภูมิภาค เรายังต้องสร้างความมั่นใจว่าประชาชนทุกภาคส่วนจะเข้ามามีส่วนร่วมและมีความรู้สึกร่วมเป็นเจ้าของในกระบวนการสร้างประชาคมอาเซียน
"ภารกิจของเราไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณแห่งความร่วมมือกันของพวกเราทั้งมวลจะช่วยให้เราสารถบรรลุผลได้ตามเป้าหมาย ผมเชื่อมั่นว่า เมื่อถึงเวลาที่ไทยจะต้องส่งต่อคบเพลิงของอาเซียนนี้ให้แก่เวียดนามในอีก 6 เดือนข้างหน้า อาเซียนจะมีความพร้อมที่จะเปลี่ยนไปสู่ประชาคมที่มุ่งเน้นที่การปฏิบัติและมีการเชื่อมโยงระหว่างกันมากขึ้นเพื่อประโยชน์ของประชาชน"

**สหรัฐฯให้ไทยไว้วางใจความสัมพันธ์
ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศไทย พร้อมนางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา รวมกันแถลงข่าวภายหลังการหารือ ทวิภาคีไทย-สหรัฐ โดยนางฮิลลารี่ กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เข้าร่วมการประชุมว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ ARF ขณะเดียวกันเห็นว่าหลายเรื่องมีความคืบหน้าและเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งในอนาคตสหรัฐอเมริกาจะส่งเสริมการแก้ไขปัญหาด้านการค้ามนุษย์พร้อมกับปัญหาคาบสมุทรเกาหลีและปัญหาภายในประเทศพม่าและยังได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยที่จัดการประชุมได้อย่างดีเยี่ยม และยืนยันความสำคัญของไทยทางด้านเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ ตลอดจนความตั้งใจของสหรัฐฯ ที่จะร่วมมือกับไทยในทุกๆ มิติต่อไป
"ขอให้รัฐและประชาชนชาวไทย ไว้วางใจสหรัฐอเมริกา ซึ่งยืนยันว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อไทยอย่างเข้มแข็ง เพราะเห็นว่าไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในภูมิภาคนี้"
โดยทั้งสองฝ่ายยืนยันที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ตลอดจนความร่วมมือในกรอบต่างๆ ทั้งทวิภาคี อาเซียน และกรอบอื่นๆ ของภูมิภาค เพื่อส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาในภูมิภาค ตลอดจนรับมือกับสิ่งท้าทายต่างๆ ในปัจจุบัน

**ญี่ปุ่นหวังถกนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ
นายคาซูโอะ โคดามะ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น แถลงถึงบทบาทของประเทศญี่ปุ่นในการประชุมอาเซียนว่าด้วยการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ ARF ที่เริ่มขึ้นในเช้าวันนี้ว่า นายฮิโรฟูมิ นากาโซเน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ให้ความสำคัญที่จะใช้เวทีอาเซียนสำหรับการเจรจาปัญหาวิกฤตนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ โดยหลังจากที่ได้พบกับรัฐมนตรีต่างประเทศจากประเทศจีนและเกหลีเหนือ มีความเห็นตรงกันว่า ควรหาทางแก้ปัญหาให้เกาหลีเหนือยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และทำให้เกาหลีเหนือกลับสู่การเจรจา
การที่เกาหลีเหนืออ้างว่าครอบครองอาวุธนิวเคลียร์เพื่อป้องกันตัวนั้นจะนำไปสู่การครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศอื่นๆ และนำไปสู่การก่อการร้าย ส่วนปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศพม่านั้น โฆษกกระทรวงการ่างประเทศ กล่าวว่า อาเซียนกับญี่ปุ่นนั้นเป็นไปในทางเดียวกัน และจะใช้เวทีนี้คุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศพม่าเพื่อให้ปฏิบัติตามมติของอาเซียนและข้อเรียกร้องจากนานาประเทศ
ทางการญี่ปุ่น หวังว่า การประชุมครั้งนี้จะมีผลลัพธ์ที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง โดยประเทศญี่ปุ่นพร้อมร่วมมือกับอาเซียนในทุกด้าน ส่วนการที่ญี่ปุ่นให้เงินกู้สนับสนุน 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่ไทยในการพัฒนาคุณภาพน้ำประปาในกรุงเทพมหานครนั้น นายคาซูโอะ กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน แต่เป็นการตกลงงร่วมกันระหว่างรัฐบาลไทยกับญี่ปุ่น

แม่ทัพภาค1แจงไม่มีระเบิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.ขณะที่ผู้สื่อข่าวกว่า 800 ชีวิต ทั้งไทยและต่างประเทศ ปฏิบัติงานภายในศูนย์ข่าว ในพื้นที่โรงแรมลากูน่า บีช รีสอร์ท ได้มีเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง ใกล้กับโรงแรมเชอราตัน แกรนด์ ลากูนา ซึ่งเป็นประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ซึ่งขณะนั้นเพิ่งเสร็จสิ้นการแถลงข่าวร่วมของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และนางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ที่โรงแรมเชอราตันฯ
พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ฉุกเฉินฯ เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่หน้าโรงแรมเชอราตัน หลังจากได้รับรายงานว่า เจ้าของรถจักรยานยนต์ดังกล่าวเป็นคนในพื้นที่ ซึ่งจอดรถทิ้งไว้เนื่องจากยางแบน พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีเหตุเกี่ยวข้องกับการข่มขู่ใด ขออภัยที่ทำให้เกิดความตื่นเต้นตกใจ แต่แสดงให้เห็นว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยที่ดำเนินมาอย่างเข้มงวดมีประสิทธิภาพ และสามารถดูแลความปลอดภัยได้อย่างเต็มที่

**"มาร์ค"ชี้ยังไม่มีเหตุผลพอปลดพม่า
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าวว่า ไม่มีอะไร โดยรายงานเบื้องต้นระบุว่า รถจักรยานยนต์คันนี้เป็นของพนักงานโรงแรมและมีการฉีดน้ำสกัดไว้แล้ว และเชื่อว่าคงไม่ใช่การสร้างสถานการณ์
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯเรียกร้องอาเซียนให้กดดันพม่า ปล่อยออง ซาน ซู จี ด้วยว่า อาเซียนออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนไปแล้วว่าต้องการเห็นการดำเนินการของพม่าที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ของขั้นตอน และแผนประชาธิปไตยของพม่า และกำลังติดตามสถานการณ์ต่อไป ซึ่งต้องดูผลคดีของออง ซาน ซู จีด้วย แต่การที่นางฮิลลารีออกมาพูดดังกล่าว น่าจะเป็นการพูดในภาพกว้างและสะท้อนความรู้สึกของสหรัฐ ตนเห็นว่ายังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะปลดพม่าออกจากการเป็นสมาชิกอาเซียน
"พม่าพยายามแยกคดีของออง ซาน ซู จี ออกจากกระบวนการในภาพรวม เพราะภาพรวมนั้นพม่ายืนยันเดินหน้าตามแผนและขั้นตอนต่าง ๆ ต่อไป ส่วนคดีของออง ซาน ซู จี นั้นพม่ายืนยันว่าเป็นเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ฉะนั้นต้องรอดูท่าทีก่อนที่จะมีท่าทีที่ชัดเจนต่อไป เพราะเรื่องนี้พม่าคงต้องใช้เวลา ซึ่งเรื่องการเมืองจากนี้ไป เป็นอีกเรื่องที่ต้องติดตาม ตอนนี้ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่ปลดออกจากอาเซียน เพราะจะมีคำถามว่าหากทำแบบนั้นจะโดดเดี่ยวพม่ามากขึ้นหรือไม่ และจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ ฉะนั้นต้องยืนยันแนวทางเดิมคือการติดต่อและมีความสัมพันธ์กัน จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องต่าง ๆ ได้"
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า อาเซียนและประเทศตะวันตกนั้นอาจมีเป้าหมายหรือความเห็นที่ตรงกัน แต่ไม่ใช่ว่าจะใช้วิธีการเดียวกันได้ เพราะมีความแตกต่างในด้านเงื่อนไข ประเทศที่อยู่ห่างไกลอาจใช้วิธีการใดวิธีการหนึ่งได้แต่ประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาคเดียวกันต้องดำเนินความสัมพันธ์อีกแบบหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่ความจริงเป้าหมายไม่แตกต่างกัน
สำหรับกรณีที่สหรัฐยังขอให้อาเซียนช่วยพูดเรื่องเกาหลีเหนือที่ทดลองอาวุธนิวเคลียร์ด้วยนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องเกาหลีเหนือนั้นทุกคนต้องปฏิบัติตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งองค์การสหประชาชาติ เป็นมาตรการที่ทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือ

**บัวแก้วคุยทุกประเทศชื่นชมไทย
ด้าน น.ส.วิมล คิดชอบ อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง (CLTV) ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว ไทย และเวียดนามว่า สหรัฐอเมริกาได้นำประสบการณ์ที่ประสบปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติของแม่น้ำมิสซิสซิปปี ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ มานำเสนอโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งรัฐมนตรีทั้งหมดเห็นร่วมกันว่า การหารือดังกล่าวเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ และไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องเล็ก จึงตกลงจะจัดตั้งคณะทำงานของแต่ละประเทศ เพื่อศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องนำเสนอสหรัฐอเมริกา เพื่อขอคำแนะนำหรือให้ความเห็นทางวิชาการในการป้องกัน และตกลงให้จัดประชุมดังกล่าวเป็นวาระประจำทุกปีของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาต่อไป
อธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวด้วยว่า ทุกประเทศชื่นชมไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมครั้งนี้โดยเฉพาะเรื่องรักษาความปลอดภัยที่ไทยให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และไม่มีใครพูดถึงเหตุการณ์พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยใกล้กับโรงแรมที่ประชุม เพราะเข้าใจว่าเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยในระดับเข้มข้น
กำลังโหลดความคิดเห็น