ซานมิเกล ปักธงชูยุทธศาสตร์เซกเมนเทชัน สู้ศึกตลาดเครื่องดื่มแข่งเดือด ลั่นพัฒนาเครื่องดื่มทุกแคธิกอรี่ชา กาแฟพร้อมดื่ม ฟังก์ชันนัลดริงก์ จ่อคิวพร้อมลุย หากตลาดมีศักยภาพ เศรษฐกิจเอื้อ การกระจายสินค้าแข็งแกร่ง เท 10 ล้านบาท ปั้นซันเบลสท์ รสส้ม เดินเกมจัดกิจกรรม โปรโมชันร้านค้า เจาะคนรุ่นใหม่ 18-28 ปี ตั้งเป้า 3 ปี โกยแชร์ 5%ส่วนสิ้นปีกวาดรายได้รวม 500 ล้านบาท
นางสาวจิราวรรณ อัศวาณิชย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและฝ่ายขาย บริษัท ซานมิเกล มาร์เก็ตติ้ง(ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผลไม้ซันเบลสท์ เปิดเผยว่า แนวทางการตลาดของบริษัทซานมิเกล ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ จากประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากทดลองทำตลาดเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์มา 2 ปีและล่าสุดได้ปรับยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจใหม่โดยโฟกัสเครื่องดื่มน้ำผลไม้ภายใต้แบรนด์”ซันเบลสท์”เป็นการสร้างรากฐานและสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่อายุ 18-28 ปี และวางเป้าหมาย 3 ปี มีส่วนแบ่ง 5% จากตลาดน้ำผลไม้โดยรวม
ส่วนการแตกแคธิกอรี่อื่นๆ บริษัทมีความพร้อมทั้งในแง่ของการผลิตและสินค้า ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาเครื่องดื่มทุกแคธิกอรี่ ไม่ว่าจะเป็น ชาพร้อมดื่ม กาแฟพร้อมดื่ม แต่ขึ้นอยู่กับสภาพตลาด พฤติกรรมของผู้บริโภค ภาวะเศรษฐกิจ และกำลังการผลิตของบริษัทด้วย จากปัจจุบันมี 1 ไลน์การผลิตเท่านั้น ตลอดจนด้านการกระจายสินค้าที่ต้องมีความแข็งแกร่ง
โดยยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มของบริษัทจากนี้ ให้ความสำคัญกับการโฟกัสกลุ่มเป้าหมายตามไลฟ์สไตล์และตอบโจทย์ความต้องการ หรือมีการ”เซกเมนต์เทชัน”กลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นโมเดลเดียวกับการทำตลาดน้ำผลไม้ซันเบลสท์ แตกต่างจากสินค้าคู่แข่งที่มุ่งตลาดแมสเป็นหลัก
แนวโน้มตลาดเครื่องดื่มในประเทศไทย นับว่าเป็นตลาดที่มีนวัตกรรมค่อนข้างสูง ภายใน 2 ปีที่ผ่านมา ฟังก์ชันนัลดริงก์ เปิดตัวไม่ต่ำกว่า 15 รายการ ซึ่งนับว่าแคธิกอรี่มาแรงในอีก 3-5 ปีข้างหน้านี้ โดยเฉพาะฟังก์ชันนัลดริงก์เพื่อสุขภาพและความงาม และตอบโจทย์ความสะดวกสบายของผู้บริโภค แต่ต้องใช้เวลาในการสร้างตลาดให้เป็นแมสหรือสำหรับคนทั่วไปมากกว่าหากตลาดมีขนาดใหญ่บริษัทมีความพร้อมและสนใจจะลงตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์เช่นกัน
“คนไทยแม้ว่าเครื่องดื่มจะดีต่อสุขภาพแค่ไหน แต่รสชาติต้องอร่อย ขณะที่เครื่องดื่มหลักของคนไทย ส่วนใหญ่เป็นน้ำดื่มและเครื่องดื่มน้ำอัดลม แตกต่างจากคนฟิลิปปินส์ดื่มน้ำผลไม้ และญี่ปุ่นดื่มชาพร้อมดื่ม อย่างไรก็ตามอุปสรรคการทำฟังก์ชันนัลดริงก์ในประเทศไทยมีข้อจำกัดด้านการสื่อสาร”
นางสาวจิราวรรณ กล่าวว่า การทำตลาดซันเบลสท์ น้ำผลไม้ระดับกลาง ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทได้เตรียมเปิดตัวน้ำส้ม ซึ่งเป็นรสชาติที่มีสัดส่วน 70% ของตลาดน้ำผลไม้โดยรวม จากเดิมซันเบลสท์มีเพียงรสชาติเดียว คือ รสแอปเปิ้ลและองุ่นขาว และทุ่มงบ 10 ล้านบาท จากงบรวม 40 ล้านบาท ทำบีโลว์เดอะไลน์ หรือการจัดกิจกรรมเพื่อเข้าตรงถึงกลุ่มเป้าหมายอายุ 18-28 ปีโดยร่วมกับร้านค้าบริเวณ สถาบันการศึกษาต่างๆ ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ และติดป้ายโฆษณา อีกทั้งยังจัดโปรโมชันแลกปากกา จากปัจจุบันช่องทางจำหน่าย แบ่งเป็น เทรดิชันนัลเทรด 60% อีก 40% โมเดิร์นเทรด และกำลังอยู่ระหว่างการขยายช่องทางจำหน่ายสถานออกกำลังกาย อีกทั้งทำโคโปรโมชันร่วมกัน
สภาพตลาดน้ำผลไม้มูลค่า 5,000 ล้านบาท ในปีนี้เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว จากผลพวงวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย ทำให้ตลาดน้ำผลไม้รวมทั้งเครื่องดื่มแคธิกอรี่อื่นๆ แข่งขันการทำโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม อย่างรุนแรง เพื่อช่วงชิงกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยน้ำผลไม้ระดับพรีเมียมมูลค่า 2,500 ล้านบาท การเติบโตชะลอตัวลงส่วนระดับกลางและซุปเปอร์อีโคโนมีมูลค่า 2,500 ล้านบาท เป็นเซกเมนต์ที่ผลักดันการเติบโตในแง่ปริมาณ
นางสาวจิราวรรณ กล่าวว่า ส่วนการทำตลาดเครื่องดื่มรอยัล ฟริซซ์ โคล่า ได้เพิ่มบรรจุภัณฑ์ขนาดใหม่ 1.5 ลิตร ในช่วงครึ่งปีหลังหรือต้นปีหน้านี้ เจาะกลุ่มเป้าหมายครอบครัว จากเดิมมีขนาดเดียว 500 มล.ราคา 12 บาท ส่วนการเปิดตัวน้ำอัดลมรสส้มไม่มีแผน แต่มีความสนใจที่จะลงตลาดน้ำอัดลมปราศจากน้ำตาลมากกว่า เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และบริษัทก็มีความพร้อมด้านการผลิตแต่ต้องขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายจากปัจจุบันน้ำอัดลมรอยัล ฟริซซ์ โคล่า ฐานลูกค้าเป็นตลาดต่างจังหวัด 70-80% ขณะที่น้ำอัดลมปราศจากน้ำตาลกลุ่มเป้าหมายจะเป็นคนเมืองมากกว่า
สำหรับผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้า 500 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัท 200 ล้านบาท คือ น้ำอัดลม รอยัล ฟริซซ์ โคล่า 120 ล้านบาท และน้ำผลไม้ซันเบลสท์ 80 ล้านบาท และการรับจ้างผลิต 300 ล้านบาท ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างเจรจา 4-5 ราย และคาดว่าปลายปีนี้จะได้ลูกค้าใหม่ 1-2 ราย โดยบริษัทตั้งเป้าในอนาคตจะสร้างความสมดุลย์การผลิตสินค้าของซานมิเกลจาก 30-40% เป็น 50%และการรับจ้างผลิต60-70% เป็น 50%
นางสาวจิราวรรณ อัศวาณิชย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและฝ่ายขาย บริษัท ซานมิเกล มาร์เก็ตติ้ง(ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผลไม้ซันเบลสท์ เปิดเผยว่า แนวทางการตลาดของบริษัทซานมิเกล ยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ จากประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากทดลองทำตลาดเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์มา 2 ปีและล่าสุดได้ปรับยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจใหม่โดยโฟกัสเครื่องดื่มน้ำผลไม้ภายใต้แบรนด์”ซันเบลสท์”เป็นการสร้างรากฐานและสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่อายุ 18-28 ปี และวางเป้าหมาย 3 ปี มีส่วนแบ่ง 5% จากตลาดน้ำผลไม้โดยรวม
ส่วนการแตกแคธิกอรี่อื่นๆ บริษัทมีความพร้อมทั้งในแง่ของการผลิตและสินค้า ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาเครื่องดื่มทุกแคธิกอรี่ ไม่ว่าจะเป็น ชาพร้อมดื่ม กาแฟพร้อมดื่ม แต่ขึ้นอยู่กับสภาพตลาด พฤติกรรมของผู้บริโภค ภาวะเศรษฐกิจ และกำลังการผลิตของบริษัทด้วย จากปัจจุบันมี 1 ไลน์การผลิตเท่านั้น ตลอดจนด้านการกระจายสินค้าที่ต้องมีความแข็งแกร่ง
โดยยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มของบริษัทจากนี้ ให้ความสำคัญกับการโฟกัสกลุ่มเป้าหมายตามไลฟ์สไตล์และตอบโจทย์ความต้องการ หรือมีการ”เซกเมนต์เทชัน”กลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นโมเดลเดียวกับการทำตลาดน้ำผลไม้ซันเบลสท์ แตกต่างจากสินค้าคู่แข่งที่มุ่งตลาดแมสเป็นหลัก
แนวโน้มตลาดเครื่องดื่มในประเทศไทย นับว่าเป็นตลาดที่มีนวัตกรรมค่อนข้างสูง ภายใน 2 ปีที่ผ่านมา ฟังก์ชันนัลดริงก์ เปิดตัวไม่ต่ำกว่า 15 รายการ ซึ่งนับว่าแคธิกอรี่มาแรงในอีก 3-5 ปีข้างหน้านี้ โดยเฉพาะฟังก์ชันนัลดริงก์เพื่อสุขภาพและความงาม และตอบโจทย์ความสะดวกสบายของผู้บริโภค แต่ต้องใช้เวลาในการสร้างตลาดให้เป็นแมสหรือสำหรับคนทั่วไปมากกว่าหากตลาดมีขนาดใหญ่บริษัทมีความพร้อมและสนใจจะลงตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์เช่นกัน
“คนไทยแม้ว่าเครื่องดื่มจะดีต่อสุขภาพแค่ไหน แต่รสชาติต้องอร่อย ขณะที่เครื่องดื่มหลักของคนไทย ส่วนใหญ่เป็นน้ำดื่มและเครื่องดื่มน้ำอัดลม แตกต่างจากคนฟิลิปปินส์ดื่มน้ำผลไม้ และญี่ปุ่นดื่มชาพร้อมดื่ม อย่างไรก็ตามอุปสรรคการทำฟังก์ชันนัลดริงก์ในประเทศไทยมีข้อจำกัดด้านการสื่อสาร”
นางสาวจิราวรรณ กล่าวว่า การทำตลาดซันเบลสท์ น้ำผลไม้ระดับกลาง ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทได้เตรียมเปิดตัวน้ำส้ม ซึ่งเป็นรสชาติที่มีสัดส่วน 70% ของตลาดน้ำผลไม้โดยรวม จากเดิมซันเบลสท์มีเพียงรสชาติเดียว คือ รสแอปเปิ้ลและองุ่นขาว และทุ่มงบ 10 ล้านบาท จากงบรวม 40 ล้านบาท ทำบีโลว์เดอะไลน์ หรือการจัดกิจกรรมเพื่อเข้าตรงถึงกลุ่มเป้าหมายอายุ 18-28 ปีโดยร่วมกับร้านค้าบริเวณ สถาบันการศึกษาต่างๆ ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ และติดป้ายโฆษณา อีกทั้งยังจัดโปรโมชันแลกปากกา จากปัจจุบันช่องทางจำหน่าย แบ่งเป็น เทรดิชันนัลเทรด 60% อีก 40% โมเดิร์นเทรด และกำลังอยู่ระหว่างการขยายช่องทางจำหน่ายสถานออกกำลังกาย อีกทั้งทำโคโปรโมชันร่วมกัน
สภาพตลาดน้ำผลไม้มูลค่า 5,000 ล้านบาท ในปีนี้เติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว จากผลพวงวิกฤตเศรษฐกิจส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย ทำให้ตลาดน้ำผลไม้รวมทั้งเครื่องดื่มแคธิกอรี่อื่นๆ แข่งขันการทำโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม อย่างรุนแรง เพื่อช่วงชิงกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยน้ำผลไม้ระดับพรีเมียมมูลค่า 2,500 ล้านบาท การเติบโตชะลอตัวลงส่วนระดับกลางและซุปเปอร์อีโคโนมีมูลค่า 2,500 ล้านบาท เป็นเซกเมนต์ที่ผลักดันการเติบโตในแง่ปริมาณ
นางสาวจิราวรรณ กล่าวว่า ส่วนการทำตลาดเครื่องดื่มรอยัล ฟริซซ์ โคล่า ได้เพิ่มบรรจุภัณฑ์ขนาดใหม่ 1.5 ลิตร ในช่วงครึ่งปีหลังหรือต้นปีหน้านี้ เจาะกลุ่มเป้าหมายครอบครัว จากเดิมมีขนาดเดียว 500 มล.ราคา 12 บาท ส่วนการเปิดตัวน้ำอัดลมรสส้มไม่มีแผน แต่มีความสนใจที่จะลงตลาดน้ำอัดลมปราศจากน้ำตาลมากกว่า เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และบริษัทก็มีความพร้อมด้านการผลิตแต่ต้องขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายจากปัจจุบันน้ำอัดลมรอยัล ฟริซซ์ โคล่า ฐานลูกค้าเป็นตลาดต่างจังหวัด 70-80% ขณะที่น้ำอัดลมปราศจากน้ำตาลกลุ่มเป้าหมายจะเป็นคนเมืองมากกว่า
สำหรับผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้า 500 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัท 200 ล้านบาท คือ น้ำอัดลม รอยัล ฟริซซ์ โคล่า 120 ล้านบาท และน้ำผลไม้ซันเบลสท์ 80 ล้านบาท และการรับจ้างผลิต 300 ล้านบาท ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างเจรจา 4-5 ราย และคาดว่าปลายปีนี้จะได้ลูกค้าใหม่ 1-2 ราย โดยบริษัทตั้งเป้าในอนาคตจะสร้างความสมดุลย์การผลิตสินค้าของซานมิเกลจาก 30-40% เป็น 50%และการรับจ้างผลิต60-70% เป็น 50%