xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เชียงใหม่เอาจริงสยบม็อบ"แดงถ่อย"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เสื้อแดงเชียงใหม่เหิมหนัก กรอกหูประชาชนรวมตัวป่วนเมืองท่องเที่ยวไล่ "กรณ์" ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย พกอาวุธ-กระสุนเข้าสนามบิน ปิดล้อมโรงพัก โยนประทัดยักษ์ ปาระเบิดปิงปอง ยิงปืนใส่จนท. ทุบรถตำรวจพังยับ ก่อนถูกสลาย "ผบช.ภาค 5" ยันใช้กฎหมายเพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ไม่ให้กฎหมู่เหนือกม. เผยตำรวจเจ็บหลายนาย ชาวบ้านโดนลูกหลงเจ็บ 1 จับผู้ต้องหาได้ 2 ราย "นายกฯ" ชี้ม็อบแดงเชียงใหม่ พกอาวุธไม่ใช่นักประชาธิปไตย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 200 คน ปิดล้อม สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ เพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวไปสอบสวนเนื่องจากพกพาอาวุธ และกระสุนเข้าสนามบินเชียงใหม่ โดยได้ระดมคนมาปิดล้อม สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ตั้งแต่เวลา 22.00 น.วันที่ 16 ก.ค. เป็นต้นมา พร้อมกับมีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนที่ตั้งแถวด้านหน้าทางเข้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา บนถนนห้วยแก้ว ก่อนถึงหน้าโรงพัก ทั้งขว้างก้อนหิน อิฐ ท่อนไม้ หนังสติ๊กเข้าใส่ รวมทั้งใช้ท่อนไม้ และท่อนเหล็กเข้าทุบโล่เจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหลายนาย
นอกจากนี้ ขณะที่ชุลมุนอยู่ได้มีเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้นเป็นระยะ คาดว่าจะเป็นระเบิดปิงปองจากกลุ่มผู้ชุมนุม รวมทั้งรถยนต์ของตำรวจที่ถูกทุบกระจก ปล่อยลมยางเสียหายหลายคัน

ตร.เชียงใหม่โชว์สลายม็อบถ่อย
ต่อมาเวลา 01.00 น.ของวานนี้ (17 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ได้ประกาศให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่เหลืออยู่ประมาณ 100 คน ยุติการชุมนุมและเปิดถนนโดยให้เวลา 5 นาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะฉีดน้ำเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม และเริ่มเดินเป็นแถวหน้ากระดานจากหน้า สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ จนถึงหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่เดินเข้ามาก็เริ่มถอยกลับ แต่ในระหว่างนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงได้ยิงปืนเข้าใส่เจ้าหน้าที่ 3 นัด แต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จนกระทั่งถึงหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มคนเสื้อแดง ได้แตกกระเจิงหนีไปคนละทิศคนละทาง
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนั้น กลุ่มคนเสื้อแดงได้ปาประทัดยักษ์เข้าใส่เจ้าหน้าที่ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ส่งผลให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 1 ราย โดยถูกสะเก็ดประทัดเข้าที่ใบหน้า โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ปาได้ 2 ราย
ทั้งนี้ การใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถเคลียร์พื้นที่ เปิดการจราจรได้ตามปกติ

ตร.ย้ำใช้กฎหมายสลายกฎหมู่
พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภาค 5 เผยภายหลังว่า การใช้กำลังเข้าสลายกลุ่มคนเสื้อแดงครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการชุมนุมที่ขัดต่อกฎหมาย และละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนทั่วไป รวมทั้งมีการใช้ความรุนแรง ทั้งการใช้อาวุธปืน ประทัดยักษ์ และก้อนหินใสเจ้าหน้าที่ที่มาดูแลความสงบทำให้มีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 8 ราย โดยบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ถึงขั้นเข้าห้องไอซียู
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเพื่อไม่ให้กฎหมู่มาอยู่เหนือกฎหมาย ในการนำประชาชนมากดดันเจ้าหน้าที่ให้ปล่อยตัวผู้ต้องหา ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างสอบสวนอยู่ โดยเชื่อว่าประชาชน จะเข้าใจในการสลายการชุมนุมในครั้งนี้
สำหรับนายนิยม เหลืองเจริญ ที่เจ้าหน้าที่จับกุมตัวมาสอบสวนหลังพกอาวุธปืนออโตเมติก .45 และกระสุนจำนวนหนึ่งเข้าไปในสนามบินนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นต้องสอบสวนหาที่มาและวัตถุประสงค์ของการพกพาให้แล้วเสร็จก่อน จึงจะสามารถให้ประกันตัวได้จึงไม่สามารถปล่อยผู้ต้องหาตามคำเรียกร้องได้
"การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เพื่อรักษาความสงบของสังคม แต่เมื่อมีกลุ่มคนที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนและมีการใช้ความรุนแรง และอาวุธ รวมทั้งนำประชาชนมากดดันถึง 2 ครั้ง รวมทั้งเข้าประชิดทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ จนได้รับบาดเจ็บไปหลายนาย และทรัพย์สินทางราชการเสียหายจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องใช้กำลังเพื่อให้เกิดความสงบ"
พล.ต.ท.สมคิด กล่าวอีกว่า การใช้กำลังทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงสลาย แต่กลับปาประทัดยักษ์และยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่อีก ทำให้ประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย จับผู้ต้องหาได้ 2 คน ซึ่งได้นำตัวไปสอบสวนแล้ว
นอกจากนี้ ยังเตรียมรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการกับวิทยุชุมชนที่ปลุกระดมก่อให้เกิดความไม่สงบในครั้งนี้ด้วย ซึ่งเป็นการกระทำผิดกฎหมายอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่แกนนำที่เคยได้รับการประกันตัวไปก่อนหน้านี้ ไม่พบว่ามีความเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

ไม่หยุดกร่างระดมคนมาป่วนอีก
ต่อมาในช่วงเช้า วิทยุชุมชนกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 คลื่น 92.5 MHz ได้เปิดเพลงปลุกใจและประกาศ เชิญชวนให้ชาวเสื้อแดงไปพร้อมกันที่หน้าโรงแรมวโรรส แกรนด์พาเลซ เพื่อเตรียมจะไปขับไล่บุคคลที่คนเสื้อแดงไม่ต้องการ โดยในเนื้อหาการปลุกระดมไม่กล่าวถึงเหตุการณ์ที่มีแกนนำเสื้อแดงพกพาอาวุธปืน ถูกจับกุมและมีเหตุจลาจลที่หน้า สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เมื่อคืนที่ผ่านมาแต่อย่างใด โดยได้กล่าวปัดว่า มีผู้ไม่หวังดีกับคนเสื้อแดง ทั้งสีเหลืองและสีน้ำเงิน ปลอมตัวเป็นคนเสื้อแดงไปทำร้ายเจ้าหน้าที่เพื่อสร้างความเข้าใจผิด

โกหกคำโต"มาร์ค" มาเชียงใหม่
เวลา 12.30 น. ดีเจคลื่นวิทยุได้ประกาศว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานเชียงใหม่แล้ว และขอให้คนเสื้อแดงเคลื่อนพลไปรวมกันที่บริเวณมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งคาดว่าเป็นสถานที่จัดงาน แต่จากการตรวจสอบทางการข่าว ไม่พบว่านายกรัฐมนตรี เดินทางมา จ.เชียงใหม่ แต่อย่างใด มีแต่กำหนดการของนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่เชียงใหม่-ลำพูน แต่ไม่ประกาศกำหนดการอย่างเป็นทางการ เพื่อความปลอดภัย ขณะที่ดีเจคลื่นวิทยุของกลุ่มคนเสื้อแดงได้ประกาศชื่อเป้าหมายบุคคลที่จะขับไล่แทนที่จะระบุชื่อนายกรณ์ กลับมีการประกาศชื่อนายกรัฐมนตรีแทน

"กรณ์"ประชุมกลุ่มธุรกิจเชียงใหม่
เวลา 13.15 น. นายกรณ์ ได้เข้าประชุมพบปะภาคเอกชนใน จ.เชียงใหม่ ทั้งตัวแทนสภาหอการค้าจังหวัด สภาอุตฯ วิสาหกิจชุมชนต่างๆฯลฯ เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะและปัญหาต่างๆ ที่จะให้ภาครัฐช่วยเหลือ ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังพร้อมสั่งปิดถนนนิมมานเหมินท์ หน้าหอประชุมดังกล่าว
ส่วนกลุ่มเสื้อแดง-รักเชียงใหม่ 51 ที่ระดมคนได้ประมาณ 100 คน ถูกกันไว้บริเวณทางแยกถนนนิมมานเหมินท์ ตัดกับถนนสุเทพ ติดกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โดยกลุ่มเสื้อแดงได้ปราศรัยด่าทอเจ้าหน้าที่อย่างรุนแรง
มีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับนายอภิชาติ ดิษฐ์สอน หรือ "ดีเจอ้วน" แกนนำที่นำผู้ชุมนุมเสื้อแดง มาบุกโรงพักและติดตามหาตัว นายจักกริช แก้วบุญเรือง อยู่บ้านเลขที่ 129/243 หมู่ 2 ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ ที่ใช้รถยนต์โตโยต้า อัลติส ทะเบียน ฌฝ 5835 กทม. และใช้อาวุธปืนยิงออกมาจากรถ หลังจากที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมแล้วหลบหนีไป

ถ่อยขว้างประทัดยักษ์ใส่ ตร.เจ็บ 1
เวลา 13.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจที่บางส่วนเป็นกำลังจาก บกภ.ลำปาง กว่า 500 นาย ที่เดินทางมาสนธิกำลังร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ในการดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระหว่างที่นายกรณ์ เดินทางมาพบปะตัวแทนภาคธุรกิจ-วิสาหกิจชุมชนในเชียงใหม่ ได้ผลักดันกลุ่มเสื้อแดง-รักเชียงใหม่ 51 ที่รวมตัวกันชุมนุมประท้วงขับไล่นายกรณ์ อยู่บริเวณทางแยกถนนนิมมานเหมินท์ ประมาณ 100 คนให้ออกจากจุดดังกล่าวเนื่องจากเป็นการกีดขวางการจราจร โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้วิธีเดินแถวหน้ากระดานกดดันกลุ่มเสื้อแดง โดยเฉพาะกลุ่มชายฉกรรจ์ ให้ถอยร่นไปตามถนนสุเทพ เรื่อยไปจนถึงหน้าวัดสวนดอก ส่วนกลุ่มเสื้อแดงที่เป็นผู้หญิง ทางตำรวจยังคงปล่อยให้อยู่ในจุดเดิม
ขณะที่เจ้าหน้าที่เดินแถวหน้ากระดานกดดันกลุ่มเสื้อแดงปรากฏว่า กลุ่มคนเสื้อแดงที่ร่วมชุมนุมอยู่ ได้ใช้ประทัดยักษ์ขว้างเข้าใส่เจ้าหน้าที่ประมาณ 4-5 ลูก และบางส่วนพลาดไปตกใส่กลุ่มเสื้อแดง ที่เป็นผู้หญิง ที่ชุมนุมอยู่ทางแยกถนนนิมมานเหมินท์ ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงแตกตื่นวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกสะเก็ดประทัดยักษ์บริเวณขาทั้ง 2 ข้าง ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย
ต่อมากลุ่มเสื้อแดง-รักเชียงใหม่ 51 ที่ถูกกดดันออกจากจุดชุมนุมจนถอยร่นมาตามถนนสุเทพ ได้ยอมสลายตัวกลับไปปักหลักอยู่ที่โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วโรรส

นายกฯชี้ม็อบเสื้อแดงไม่ใช่นัก ปชต.
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่บุกล้อม สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อกดดันปล่อยตัวแกนนำฯ ที่พกปืนเข้าไปในสนามบินเชียงใหม่ว่า ได้ติดตามสถานการณ์ตลอดเวลาและทราบว่ากลับสู่ภาวะปกติแล้ว จึงขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม การชุมนุมโดยสงบสามารถทำได้ แต่การพกพาอาวุธถือว่าผิดกฎหมายและไม่ถือเป็นนักประชาธิปไตยและไม่มีสิทธิอ้างว่าเป็นการเคลื่อนไหวตามระบอบประชาธิปไตย
"เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และเหตุการณ์เช่นนี้ถือเป็นการทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหากไม่มีแพนด้า สถานการณ์การท่องเที่ยวคงทรุดตัวกว่านี้ จึงขอเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมแสดงออกทางการเมืองภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย อย่าสร้างความเดือดร้อนให้จังหวัดของตัวเอง"

เอกชนอัดยับแดงถ่อยทำลายศก.
แหล่งข่าวภาคเอกชนที่ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมกับนายกรณ์ กล่าวว่า การประชุมร่วมในครั้งนี้ ทางรมว.คลัง ต้องการมาชี้แจงเรื่องการจัดสรรงบประมาณให้แก่ จ.เชียงใหม่ วงเงิน 18,000 ล้านบาทตามโครงการไทยเข้มแข็ง โดย จ.เชียงใหม่ถือเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลจัดสรรงบฯในการพัฒนามากที่สุดอีกจังหวัดหนึ่ง
"การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ปิดล้อมโรงพักและขับไล่นายกรณ์ และนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์นั้น ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเชียงใหม่ค่อนข้างมาก"
นายณรงค์ คลองประเสริฐ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวในจังหวัดเริ่มซบเซาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมือง เศรษฐกิจโลก รวมทั้งสถานการณ์โรคไข้หวัด 2009 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวในปีนี้ลดลงร้อยละ 30 รายได้ลดลงร้อยละ 20-30
"มองว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวในเชียงใหม่เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาชมความน่ารักของแพนด้าน้อยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้เชื่อว่างบประมาณที่ได้รับจัดสรรจากรัฐบาลจำนวน 18,600 ล้านบาทในช่วงแรกจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เศรษฐกิจในเชียงใหม่ ปรับตัวดีขึ้นได้ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ " นายณรงค์กล่าว และว่า
จากการหารือกับภาคเอกชนส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่โดยเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยวขนาดกลาง ขนาดเล็ก หรือเอสเอ็มอี ที่กำลังประสบปัญหาสภาพคล่อง ด้วยการผ่อนปรนเงื่อนไขการกู้เงินจากสถาบันการเงินของภาครัฐ เพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งถึงเงินทุนได้มากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น