ASTVผู้จัดการรายวัน- ส.ว.จี้นายกฯ ตั้งกรรมการตรวจสอบกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจทำตัวเป็น"ไส้ศึก"ขายความลับในคดีลอบยิง"สนธิ" ขณะที่บก.หนังสือพิมพ์เอเอสทีวี ผู้จัดการ ยื่นหนังสือต่อประธาน กมธ.ยุติธรรม วุฒิสภา สอบกรณีมีผู้ขัดขวางการสืบสวนคดีนี้ " สมเจตน์" จี้ สตช.สาวให้ถึงคนบงการอยู่เบื้องหลังมาลงโทษ ต้องพูดให้ชัดว่าใครคือ"ตอ" ด้าน"อภิสิทธิ์" ส่งสัญญาณพร้อมเปลี่ยนตัว"ผบ.ตร." ถ้าพบว่าเป็นอุปสรรคในการสะสางคดี กำชับ"ธานี"ต้องหาพยานหลักฐานมัดให้แน่น กันหลุด หลังพบคนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้องในทีมล่าสังหาร
เมื่อเช้าวานนี้ (16ก.ค.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา และนายวรินท์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา ร่วมกันแถลงข่าวกรณี พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. หัวหน้าชุดสอบสวนคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุว่า ในการทำงานมีการข่มขู่ และมีไส้ศึก จนทำให้ข้อมูลรั่วไหล คนทำงานไม่มีจิตวิญญาณของตำรวจ โดยนายคำนูณ กล่าวว่า ก่อนอื่นขอชื่นชมนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เล็งเห็นปัญหา และได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ธานี มาทำคดีนี้ จนทำให้มีความคืบหน้าของคดีเรื่อยๆ จึงอยากเรียกร้องให้นายกฯในฐานะที่เป็นผู้กำกับดูแล สั่งการ ผบ.ตร.และผบช.น. ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า สิ่งที่ พล.ต.อ.ธานี ระบุเป็นจริงหรือไม่ เพื่อให้ปัญหาคลี่คลาย เพราะอยากให้คดีคืบหน้าไปมากกว่านี้ เพราะอีก 2 เดือน พล.ต.อ.ธานี ก็จะเกษียนแล้ว
ทั้งนี้ การที่ตำรวจจะคลี่คลายคดีให้ได้มากที่สุด ถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง แต่ก่อนหน้านี้มีการปล่อยข่าวว่า คดีของนายสนธิ คงจับผู้ต้องหาไม่ได้ เพราะผู้สั่งการอยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้เป็นระดับผู้ใหญ่มากๆ ซึ่งการแพร่ข่าวออกไปเช่นนี้ จะทำให้ประเทศชาติอันตรายยิ่ง และประชาชนก็จะเกิดความสับสนได้ และทำให้จินตนาการเป็นอย่างอื่นไปได้ จึงอยากให้ทุกฝ่ายสะสางเรื่องนี้ให้เกิดข้อเท็จจริง
"จากการที่ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 2 คนได้นั้น ผมหวังว่าต่อไปข้างหน้าจะจับผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก"
นายคำนูญ กล่าวอีกว่า จะหารือกับนายสมัคร เชาวภานนท์ กมธ. การยุติธรรม การตำรวจวุฒิสภา เพื่อหารือในเรื่องของการสัมภาษณ์ของ พล.ต.อ.ธานี ด้วย
**หากคลี่คดีไม่ได้ถือว่าสตช.ล้มเหลว
นายวรินท์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ในคดีของนายสนธิ นายกฯจะต้องให้ขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ที่ทำงาน แต่การที่ออกหมายจับผู้ต้องหา 2 คนแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำตัวมาดำเนินคดีได้ เนื่องจากมีการดักฟังซึ่งอยากเรียกร้องให้นายกฯ จัดการกับแก๊งกวนเมืองเหล่านี้ด้วย ถ้าหากเรื่องนี้ไม่คลี่คลาย แสดงว่าการบริหารงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติล้มเหลว
ผู้สื่อข่าวถามว่าอีก 2 เดือน พล.ต.อ.ธานี ก็จะเกษียณแล้ว กังวลหรือไม่ว่าคนที่จะมาสานงานต่อจะเป็นใคร นายคำนูณ กล่วว่า ถ้า 2 เดือนที่เหลืออยู่การดำเนินคดีเป็นไปได้ด้วยดี ก็คงไม่มีปัญหาตัวคนที่จะมาสานงานต่อ และถ้าขั้นตอนสำคัญในการอนุมัติหมายจับไว้ก็ไม่มีปัญหา
เมื่อถามอีกว่า ทำไมการปล่อยข่าวถึงระบุว่าไม่มีใครจับได้ นายคำนูณ กล่าวว่าการปล่อยข่าวไม่ได้มาจากกล่มพันธมิตรฯ แต่ข่าวแพร่ทุกวงการ เมื่อถามต่อว่าการออกหมายจับ 2 คนได้ มั่นใจใช่หรือไม่ ว่าไม่จับเพะ นายคำนูณ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนจะไม่ไปก้าวก่ายงานของตำรวจและศาล
**ร้องกมธ.วุฒิตั้งกก.ตรจสอบ
ในวันเดียวกันนี้ นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการผู้พิมพ์โฆษณาหนังสือพิมพ์ในเครือ เอเอสทีวีผู้จัดการ ยื่นหนังสือต่อนายสมัคร เชาวภานันท์ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานกรรมาธิการการยุติธรรม และการตำรวจ วุฒิสภา เพื่อขอให้สอบสวนกรณีที่ พล.ต.อ. ธานี ระบุว่า มีกลุ่มบุคคลขัดขวางการสืบสวนสอบสวน คดีลอบสังหารนายสนธิ โดยนายตุลย์ กล่าวว่า คดีนี้มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน และเสรีภาพของสื่อมวลชน การที่บุคคลระดับรอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์เช่นนี้ โดยไม่มีรายละเอียดชัดเจน และยังไม่ปรากฏว่า นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ที่กำกับและดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงแต่ประการใด ตนจึงมายื่นเรื่องให้ประธาน กมธ.ยุติธรรมและการตำรวจ ดำเนินการสอบเรื่องนี้ ตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งตนยินดีที่จะให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการ
**กมธ.รับลูกเตรียมเรียกสอบพัชรวาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายคำนูณ สิทธิสมาน สว.สรรหา ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้อีกครั้งในช่วงบ่าย ว่าหลังจากที่ได้พบกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาที่รัฐสภา และตนได้หารือเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯ ยืนยันว่า ไม่ต้องเป็นห่วง ซึ่งนายกฯได้ให้การสนับสนุนในการทำงานของ พล.ต.อ.ธานี มาตั้งแต่ต้น และถือว่าเป็นการเดินที่ถูกทางพร้อมทั้งยืนยันว่าจะดูแลเรื่องนี้ให้ดี
นายคำนูณ กล่าวด้วยว่าเรื่องนี้ นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์เอเอส ทีวีผู้จัดการ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ กรรมาธิการการยุติธรรม และการตำรวจ กรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และคุ้มครองผู้บริโภค และ กรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ กรรมาธิการทั้ง 3 คณะ จะต้องทำงานร่วมกัน ซึ่งอาจจะตั้ง อนุกรรมาธิการ ขึ้นมาเพื่อพิจารณาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย และจะมีการเชิญพล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เข้าชี้แจงว่าเรื่องที่ รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์เป็นเรื่องจริงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ตนได้หารือกับนายสมัคร เชาวภานันท์ ประธานกมธ.ยุติธรรม และการตำรวจเป็นการส่วนตัว ซึ่งตามหลักการ กมธ.ทั้ง 3 คณะ จะต้องมีการหารือกันก่อน แล้วค่อยมีมติทีหลังว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร
**ตร.ต้องกระชากหน้ากาก"ไอ้โม่ง"
พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า มีนายทหารยศพลโท ซึ่งมีความสนิทสนมกับ "บิ๊กคมช." อยู่เบื้องหลังการลอบยิงนายสนธิ ว่า สามารถคิดได้ทั้งนั้น แต่หน่วยงานที่จะสามารถพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้ได้คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น ที่จะต้องเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ เพื่อให้สังคมลดปัญหาความสับสนลงไป ถ้าหากม่สามารถทำได้ สังคมก็จะยิ่งเกิดความสับสนไปมากกว่านี้
" ตราบใดที่ตำรวจยังไม่สามารถจับตัวผู้บงการใหญ่มาลงโทษ ทุกคนก็จะถูกชี้ว่า เป็นตนเองที่จะทำให้เหตุการณ์เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ว่าใครอยู่เบื้องหลัง เป็นไปได้ทั้งหมด มีทางเดียวที่จะพิสูจน์ความจริงได้คือ ใครเป็นคนทำ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่จะต้องทำหลักฐานให้ปรากฏออกมาให้โดยเร็ว ทั้งนี้ เราจะต้องวิเคราะห์ว่าหากทำแล้วผลดีจะเกิดขึ้นกับใคร ถ้าผลดีเกิดขึ้นกับใคร คนนั้นนั่นแหละที่เป็นคนทำ ตอนนี้เมื่อยังไม่ปรากฎว่าใครเป็นคนทำ ทุกกลุ่ม หรือพรรคการเมืองเก่า หรือพรรคการเมืองใหม่ ก็มีสิทธิ์ที่เข้าข่ายทั้งนั้น" พล.อ.สมเจตน์ระบุ
อย่างไรก็ตาม เพื่อลดความสับสน ตำรวจต้องเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ ตำรวจอย่ามาบอกว่าเจอ"ตอ"แล้ว ต้องบอกว่า "ตอ" นั้นคืออะไร ใครเป็นผู้ล็อบบี้ใคร อย่ามาพูดให้คลุมเครือ เพราะจะยิ่งทำให้เกิดความสับสนมากขึ้น
**กองทัพพร้อมให้ความร่วมมือตร.
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ จ.ส.อ. ปัญญา ศรีเหรา ทหารสังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) จ.ลพบุรี ในข้อหาลอบยิงนายสนธิ ว่า กองทัพพร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการให้การสนับสนุน และร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่ร้องขอทุกอย่าง ซึ่งทราบว่า พล.ท. พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า จะส่งตัว จ.ส.อ. ปัญญา กลับหน่วยต้นสังกัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานขอตัวมาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ ข้อกล่าวหามีการระบุว่า กระทำความผิดร่วมกับพลเรือน ดังนั้น คงต้องมีการดำเนินคดีแบบพลเรือน และขึ้นศาลพลเรือน ตามขั้นตอน
เมื่อถามว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ปักใจเชื่อว่ากลุ่มที่ลอบสังหารนายสนธิ มีผู้ใหญ่ในกองทัพบงการอยู่เบื้องหลัง พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ความรู้สึกของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็เป็นของพันธมิตรฯ ตนคงจะตอบแทนไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องความรู้สึก แต่กองทัพบกทำได้ก็คือ แสดงความบริสุทธิ์ใจ และพร้อมให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวน ในการปฏิบัติหน้าที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า พันธมิตรฯพุ่งเป้ามาที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. อาจมีส่วนในการลอบสังหาร พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่าไม่ควรตั้งธง หรือตั้งประเด็น ควรปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานสอบสวนปฏิบัติหน้าที่ เพราะขณะนี้ข้อกล่าวหาถูกตั้งแล้ว สิ่งที่กองทัพทำได้คือ ให้ความร่วมมือ เพื่อให้สามารถคลี่คลายคดีได้
เมื่อถามว่ารายละเอียดของกระสุนปืนที่ตกในที่เกิดเหตุ ระบุว่าเป็นของกองทัพ ความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานมาที่กรมสรรพาวุธ ซึ่งกองทัพได้ให้ข้อมูลรายละเอียดแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงรายละเอียดของกระสุนปืนแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอาจกระทบกับรูปคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
**ฝ่ายค้านร่วมบี้นายกฯ
นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี เกลือเป็นหนอนในทีมทำคดีนายสนธิ ว่าถือเป็นเรื่องใหญ่ นายกรัฐมนตรีจะต้องสั่งการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการสอบสวน เพื่อให้เกิดความยุติธรรม ดังนั้นขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณถึงกระบวนการยุติธรรมด้วย
**"มาร์ค"พร้อมเปลี่ยนตัว ผบ.ตร.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. ผู้รับผิดชอบคดีลอบยิงนายสนธิ ออกมาระบุว่ามีอุปสรรค เจอไส้ศึกในพนักงานสอบสวนว่า ได้คุยกันแล้วซึ่งตนบอกไปว่า ถ้ามีตรงไหนที่จะให้รัฐบาลเข้าไปแก้ปัญหา ปลดล็อกให้ก็บอกมา เพราะต้องการให้เดินหน้าเต็มที่ ซึ่งพล.ต.อ.ธานีหลังจากที่พบก็ยืนยันว่าทำงานได้
เมื่อถามว่าจำเป็นจะต้องมีการโยกย้ายนายตำรวจบางคนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้ามีความชัดเจนว่ามีการขัดขวาง หรือทำให้คดีไม่สามารถเดินได้ รัฐบาลก็จะทำให้มันเดินได้ เมื่อถามว่าวานนี้ช่วงเย็นทาง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เดินทางเข้าพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าไม่ทราบ ยังไม่ได้สอบถามท่าน เมื่อถามว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ที่คดีไม่คืบหน้าเพราะมีระดับ ตัวใหญ่ยักษ์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คดีมันคืบหน้าไปเยอะ ก็ตามมาตลอด คุยกับพล.ต.อ.ธานีเป็นระยะๆ เพราะเป็นห่วงว่าจะไม่คืบหน้า แต่มีความคืบหน้าอยู่ในระดับมีความชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนจะให้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ต้องให้คนที่เขาทำโดยตรงคิด แต่การที่ออกหมายจับได้แล้ว มีวัตถุพยาน เก็บข้อมูลของผู้ที่เกี่ยวข้องเคลื่อนไหวของคนที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย น่าจะทำให้โอกาสที่ขยายผลไปได้มีสูง
เมื่อถามว่าสิ่งที่พล.ต.อ.ธานี ออกมาสะท้อนต่อสังคม ว่ามีปัญหาระดับใหญ่ที่ไม่สามารถเดินหน้าได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็มาพบกับตนแล้ว ก็ย้ำไปว่าถ้ามีปัญหาก็ให้บอกมาว่าจะให้แก้ตรงไหน อย่างไร เมื่อถามว่าทางกลุ่มพันธมิตรฯ ระบุว่าปัญหาอยู่ที่ตัวผบ.ตร. คิดว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่เข้ามาแทรกแซง
"ทางพล.ต.อ.ธานี ต้องเป็นคนที่บอกผมเองว่าจะทำอย่างไร ถ้าทำไม่ได้ ขณะนี้คุณธานี ยืนยันว่า มีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่ทำงานได้และทำงานต่อ ถ้าทำไม่ได้ ให้มาบอกผม"นายอภิสิทธิ์กล่าวย้ำ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหาก ผบ.ตร.เป็นอุปสรรคจริงจะกล้าเปลี่ยนตัวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนจะต้องดูแลให้คดีนี้เดินต่อได้ เมื่อถามว่าพอจะมีโอกาสว่าจะได้ตัวผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยู่ที่การทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะต้องได้พยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีได้ อย่างที่ พล.ต.อ.ธานี บอกกับตนว่า “ต้องการที่จะทำให้แน่น ไม่ต้องการที่จะทำคดีแบบออกมาเหมือนจะทำได้ แต่สุดท้ายก็หลุดหมด"
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่านายกฯรู้หรือไม่ว่าใครอยู่เบื้องหลัง จากการรายงานของพล.ต.อ. ธานี นายอภิสิทธิ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้บอก บอกเพียงว่าที่ถูกออกหมายจับเป็นใคร อย่างไร และเคลื่อนไหวอย่างไร กำลังออกหมายจับเพิ่ม พยายามอยู่
เมื่อถามว่า ทุกครั้งที่มีคนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้อง สุดท้ายคดีจะหลุดหมด ตั้งแต่เหตุคดีคาร์บอมบ์ หรือคดีอื่นๆ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่านี่คือเหตุผลว่า ทำไมการทำงานต้องรัดกุมเรื่องพยานหลักฐานต่างๆ และตนฟังรายงานจากพล.ต.อ.ธานี ก็รู้สึกสบายใจ เพราะท่านบอกว่า ต้องทำให้แน่น ต้องพยายามเอาตัวผู้บงการมาให้ได้ ต้องจับกุมขยายผลจากการสอบสวนให้ได้ก่อน และต้องระวังการตัดตอน เมื่อถามว่าไม่ว่าผู้บงการจะเป็นใคร ก็ต้องลงโทษใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวตอบรับว่า ใช่
**ยันจัดการไม่ไว้หน้า ไม่เว้นสี
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า พล.ต.อ.ธานี เป็นรอง ผบ.ตร. สามารถบังคับบัญชาตำรวจได้ทุกระดับอยู่แล้ว และทางรัฐบาลก็ไว้วางใจมอบหมายให้มาดูแลคดีนี้ ซึ่งพล.ต.อ.ธานี ก็สามารถดูแลและทำอย่างเต็มที่ ทั้งตนและนายกฯ ได้บอกพล.ต.อ.ธานี ตั้งแต่แรกแล้วว่าฝ่ายบริหาร พร้อมที่จะให้การสนับสนุนในการทำงานอย่างเต็มที่ เชื่อว่า พล.ต.อ.ธานี คงไม่ได้มีความกังวลใจอะไร
เมื่อถามว่าในเมื่อ พล.ต.อ.ธานี รู้ว่ามีหนอนบ่อนไส้ ทำไมถึงไม่มีการปรับเปลี่ยนคนทำงาน นายสุเทพ กล่าวว่า ท่านคงจะคิดว่ายังสามารถทำงานได้อยู่ และทำงานจนมาถึงขั้นที่รวบรวมหลักฐานต่างๆได้ จนขออนุมัติหมายจับจากศาลได้ ก็ต้องถือว่า พล.ต.อ.ธานี ทำงานได้ดี ท่านยังคงทำงานได้อยู่ คงไม่เป็นไร
เมื่อถามว่าเท่าที่ดูแล้วกระบวนการสอบสวนจะยากหรือไม่ เพราะหัวหน้าแก๊งเป็นถึงนายทหารเสนาธิการ ยศ พ.อ. และมีการมองว่า จะมีการตัดตอนไม่ให้สาวไปถึงผู้บงการที่พัวพันกับบุคคลสำคัญในวงการสีเขียว นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปกังวลใจ จะเป็นสีเขียว สีเหลือง สีแดง สีอะไรก็ตาม ถ้าทำความผิด ก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย หลักมีเท่านั้น แต่ว่าเราอย่าไปสร้างจินตนาการให้ใหญ่โตเกินเหตุ หากประจักษ์พยานหลักฐานไปถึงใคร ก็ต้องดำเนินคดีกับคนนั้น
เมื่อถามว่า อีกไม่กี่เดือน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ก็จะครบเกษียณอายุราชการแล้ว ได้มีการเตรียมบุคคลที่จะมาแทนหรือยัง นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา
เมื่อเช้าวานนี้ (16ก.ค.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา และนายวรินท์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา ร่วมกันแถลงข่าวกรณี พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. หัวหน้าชุดสอบสวนคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุว่า ในการทำงานมีการข่มขู่ และมีไส้ศึก จนทำให้ข้อมูลรั่วไหล คนทำงานไม่มีจิตวิญญาณของตำรวจ โดยนายคำนูณ กล่าวว่า ก่อนอื่นขอชื่นชมนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เล็งเห็นปัญหา และได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ธานี มาทำคดีนี้ จนทำให้มีความคืบหน้าของคดีเรื่อยๆ จึงอยากเรียกร้องให้นายกฯในฐานะที่เป็นผู้กำกับดูแล สั่งการ ผบ.ตร.และผบช.น. ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า สิ่งที่ พล.ต.อ.ธานี ระบุเป็นจริงหรือไม่ เพื่อให้ปัญหาคลี่คลาย เพราะอยากให้คดีคืบหน้าไปมากกว่านี้ เพราะอีก 2 เดือน พล.ต.อ.ธานี ก็จะเกษียนแล้ว
ทั้งนี้ การที่ตำรวจจะคลี่คลายคดีให้ได้มากที่สุด ถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง แต่ก่อนหน้านี้มีการปล่อยข่าวว่า คดีของนายสนธิ คงจับผู้ต้องหาไม่ได้ เพราะผู้สั่งการอยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้เป็นระดับผู้ใหญ่มากๆ ซึ่งการแพร่ข่าวออกไปเช่นนี้ จะทำให้ประเทศชาติอันตรายยิ่ง และประชาชนก็จะเกิดความสับสนได้ และทำให้จินตนาการเป็นอย่างอื่นไปได้ จึงอยากให้ทุกฝ่ายสะสางเรื่องนี้ให้เกิดข้อเท็จจริง
"จากการที่ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 2 คนได้นั้น ผมหวังว่าต่อไปข้างหน้าจะจับผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก"
นายคำนูญ กล่าวอีกว่า จะหารือกับนายสมัคร เชาวภานนท์ กมธ. การยุติธรรม การตำรวจวุฒิสภา เพื่อหารือในเรื่องของการสัมภาษณ์ของ พล.ต.อ.ธานี ด้วย
**หากคลี่คดีไม่ได้ถือว่าสตช.ล้มเหลว
นายวรินท์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ในคดีของนายสนธิ นายกฯจะต้องให้ขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ที่ทำงาน แต่การที่ออกหมายจับผู้ต้องหา 2 คนแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำตัวมาดำเนินคดีได้ เนื่องจากมีการดักฟังซึ่งอยากเรียกร้องให้นายกฯ จัดการกับแก๊งกวนเมืองเหล่านี้ด้วย ถ้าหากเรื่องนี้ไม่คลี่คลาย แสดงว่าการบริหารงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติล้มเหลว
ผู้สื่อข่าวถามว่าอีก 2 เดือน พล.ต.อ.ธานี ก็จะเกษียณแล้ว กังวลหรือไม่ว่าคนที่จะมาสานงานต่อจะเป็นใคร นายคำนูณ กล่วว่า ถ้า 2 เดือนที่เหลืออยู่การดำเนินคดีเป็นไปได้ด้วยดี ก็คงไม่มีปัญหาตัวคนที่จะมาสานงานต่อ และถ้าขั้นตอนสำคัญในการอนุมัติหมายจับไว้ก็ไม่มีปัญหา
เมื่อถามอีกว่า ทำไมการปล่อยข่าวถึงระบุว่าไม่มีใครจับได้ นายคำนูณ กล่าวว่าการปล่อยข่าวไม่ได้มาจากกล่มพันธมิตรฯ แต่ข่าวแพร่ทุกวงการ เมื่อถามต่อว่าการออกหมายจับ 2 คนได้ มั่นใจใช่หรือไม่ ว่าไม่จับเพะ นายคำนูณ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนจะไม่ไปก้าวก่ายงานของตำรวจและศาล
**ร้องกมธ.วุฒิตั้งกก.ตรจสอบ
ในวันเดียวกันนี้ นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการผู้พิมพ์โฆษณาหนังสือพิมพ์ในเครือ เอเอสทีวีผู้จัดการ ยื่นหนังสือต่อนายสมัคร เชาวภานันท์ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานกรรมาธิการการยุติธรรม และการตำรวจ วุฒิสภา เพื่อขอให้สอบสวนกรณีที่ พล.ต.อ. ธานี ระบุว่า มีกลุ่มบุคคลขัดขวางการสืบสวนสอบสวน คดีลอบสังหารนายสนธิ โดยนายตุลย์ กล่าวว่า คดีนี้มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน และเสรีภาพของสื่อมวลชน การที่บุคคลระดับรอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์เช่นนี้ โดยไม่มีรายละเอียดชัดเจน และยังไม่ปรากฏว่า นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ที่กำกับและดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงแต่ประการใด ตนจึงมายื่นเรื่องให้ประธาน กมธ.ยุติธรรมและการตำรวจ ดำเนินการสอบเรื่องนี้ ตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งตนยินดีที่จะให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการ
**กมธ.รับลูกเตรียมเรียกสอบพัชรวาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายคำนูณ สิทธิสมาน สว.สรรหา ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้อีกครั้งในช่วงบ่าย ว่าหลังจากที่ได้พบกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาที่รัฐสภา และตนได้หารือเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯ ยืนยันว่า ไม่ต้องเป็นห่วง ซึ่งนายกฯได้ให้การสนับสนุนในการทำงานของ พล.ต.อ.ธานี มาตั้งแต่ต้น และถือว่าเป็นการเดินที่ถูกทางพร้อมทั้งยืนยันว่าจะดูแลเรื่องนี้ให้ดี
นายคำนูณ กล่าวด้วยว่าเรื่องนี้ นายตุลย์ ศิริกุลพิพัฒน์ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์เอเอส ทีวีผู้จัดการ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ กรรมาธิการการยุติธรรม และการตำรวจ กรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และคุ้มครองผู้บริโภค และ กรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ กรรมาธิการทั้ง 3 คณะ จะต้องทำงานร่วมกัน ซึ่งอาจจะตั้ง อนุกรรมาธิการ ขึ้นมาเพื่อพิจารณาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย และจะมีการเชิญพล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เข้าชี้แจงว่าเรื่องที่ รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์เป็นเรื่องจริงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ตนได้หารือกับนายสมัคร เชาวภานันท์ ประธานกมธ.ยุติธรรม และการตำรวจเป็นการส่วนตัว ซึ่งตามหลักการ กมธ.ทั้ง 3 คณะ จะต้องมีการหารือกันก่อน แล้วค่อยมีมติทีหลังว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร
**ตร.ต้องกระชากหน้ากาก"ไอ้โม่ง"
พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า มีนายทหารยศพลโท ซึ่งมีความสนิทสนมกับ "บิ๊กคมช." อยู่เบื้องหลังการลอบยิงนายสนธิ ว่า สามารถคิดได้ทั้งนั้น แต่หน่วยงานที่จะสามารถพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้ได้คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น ที่จะต้องเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ เพื่อให้สังคมลดปัญหาความสับสนลงไป ถ้าหากม่สามารถทำได้ สังคมก็จะยิ่งเกิดความสับสนไปมากกว่านี้
" ตราบใดที่ตำรวจยังไม่สามารถจับตัวผู้บงการใหญ่มาลงโทษ ทุกคนก็จะถูกชี้ว่า เป็นตนเองที่จะทำให้เหตุการณ์เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ว่าใครอยู่เบื้องหลัง เป็นไปได้ทั้งหมด มีทางเดียวที่จะพิสูจน์ความจริงได้คือ ใครเป็นคนทำ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่จะต้องทำหลักฐานให้ปรากฏออกมาให้โดยเร็ว ทั้งนี้ เราจะต้องวิเคราะห์ว่าหากทำแล้วผลดีจะเกิดขึ้นกับใคร ถ้าผลดีเกิดขึ้นกับใคร คนนั้นนั่นแหละที่เป็นคนทำ ตอนนี้เมื่อยังไม่ปรากฎว่าใครเป็นคนทำ ทุกกลุ่ม หรือพรรคการเมืองเก่า หรือพรรคการเมืองใหม่ ก็มีสิทธิ์ที่เข้าข่ายทั้งนั้น" พล.อ.สมเจตน์ระบุ
อย่างไรก็ตาม เพื่อลดความสับสน ตำรวจต้องเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ ตำรวจอย่ามาบอกว่าเจอ"ตอ"แล้ว ต้องบอกว่า "ตอ" นั้นคืออะไร ใครเป็นผู้ล็อบบี้ใคร อย่ามาพูดให้คลุมเครือ เพราะจะยิ่งทำให้เกิดความสับสนมากขึ้น
**กองทัพพร้อมให้ความร่วมมือตร.
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ จ.ส.อ. ปัญญา ศรีเหรา ทหารสังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) จ.ลพบุรี ในข้อหาลอบยิงนายสนธิ ว่า กองทัพพร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการให้การสนับสนุน และร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่ร้องขอทุกอย่าง ซึ่งทราบว่า พล.ท. พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า จะส่งตัว จ.ส.อ. ปัญญา กลับหน่วยต้นสังกัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานขอตัวมาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ ข้อกล่าวหามีการระบุว่า กระทำความผิดร่วมกับพลเรือน ดังนั้น คงต้องมีการดำเนินคดีแบบพลเรือน และขึ้นศาลพลเรือน ตามขั้นตอน
เมื่อถามว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ปักใจเชื่อว่ากลุ่มที่ลอบสังหารนายสนธิ มีผู้ใหญ่ในกองทัพบงการอยู่เบื้องหลัง พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ความรู้สึกของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็เป็นของพันธมิตรฯ ตนคงจะตอบแทนไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องความรู้สึก แต่กองทัพบกทำได้ก็คือ แสดงความบริสุทธิ์ใจ และพร้อมให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวน ในการปฏิบัติหน้าที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า พันธมิตรฯพุ่งเป้ามาที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. อาจมีส่วนในการลอบสังหาร พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่าไม่ควรตั้งธง หรือตั้งประเด็น ควรปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานสอบสวนปฏิบัติหน้าที่ เพราะขณะนี้ข้อกล่าวหาถูกตั้งแล้ว สิ่งที่กองทัพทำได้คือ ให้ความร่วมมือ เพื่อให้สามารถคลี่คลายคดีได้
เมื่อถามว่ารายละเอียดของกระสุนปืนที่ตกในที่เกิดเหตุ ระบุว่าเป็นของกองทัพ ความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานมาที่กรมสรรพาวุธ ซึ่งกองทัพได้ให้ข้อมูลรายละเอียดแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงรายละเอียดของกระสุนปืนแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอาจกระทบกับรูปคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
**ฝ่ายค้านร่วมบี้นายกฯ
นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี เกลือเป็นหนอนในทีมทำคดีนายสนธิ ว่าถือเป็นเรื่องใหญ่ นายกรัฐมนตรีจะต้องสั่งการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการสอบสวน เพื่อให้เกิดความยุติธรรม ดังนั้นขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ส่งสัญญาณถึงกระบวนการยุติธรรมด้วย
**"มาร์ค"พร้อมเปลี่ยนตัว ผบ.ตร.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. ผู้รับผิดชอบคดีลอบยิงนายสนธิ ออกมาระบุว่ามีอุปสรรค เจอไส้ศึกในพนักงานสอบสวนว่า ได้คุยกันแล้วซึ่งตนบอกไปว่า ถ้ามีตรงไหนที่จะให้รัฐบาลเข้าไปแก้ปัญหา ปลดล็อกให้ก็บอกมา เพราะต้องการให้เดินหน้าเต็มที่ ซึ่งพล.ต.อ.ธานีหลังจากที่พบก็ยืนยันว่าทำงานได้
เมื่อถามว่าจำเป็นจะต้องมีการโยกย้ายนายตำรวจบางคนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้ามีความชัดเจนว่ามีการขัดขวาง หรือทำให้คดีไม่สามารถเดินได้ รัฐบาลก็จะทำให้มันเดินได้ เมื่อถามว่าวานนี้ช่วงเย็นทาง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เดินทางเข้าพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าไม่ทราบ ยังไม่ได้สอบถามท่าน เมื่อถามว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ที่คดีไม่คืบหน้าเพราะมีระดับ ตัวใหญ่ยักษ์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คดีมันคืบหน้าไปเยอะ ก็ตามมาตลอด คุยกับพล.ต.อ.ธานีเป็นระยะๆ เพราะเป็นห่วงว่าจะไม่คืบหน้า แต่มีความคืบหน้าอยู่ในระดับมีความชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนจะให้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ต้องให้คนที่เขาทำโดยตรงคิด แต่การที่ออกหมายจับได้แล้ว มีวัตถุพยาน เก็บข้อมูลของผู้ที่เกี่ยวข้องเคลื่อนไหวของคนที่เกี่ยวข้องทั้งหลาย น่าจะทำให้โอกาสที่ขยายผลไปได้มีสูง
เมื่อถามว่าสิ่งที่พล.ต.อ.ธานี ออกมาสะท้อนต่อสังคม ว่ามีปัญหาระดับใหญ่ที่ไม่สามารถเดินหน้าได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็มาพบกับตนแล้ว ก็ย้ำไปว่าถ้ามีปัญหาก็ให้บอกมาว่าจะให้แก้ตรงไหน อย่างไร เมื่อถามว่าทางกลุ่มพันธมิตรฯ ระบุว่าปัญหาอยู่ที่ตัวผบ.ตร. คิดว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่เข้ามาแทรกแซง
"ทางพล.ต.อ.ธานี ต้องเป็นคนที่บอกผมเองว่าจะทำอย่างไร ถ้าทำไม่ได้ ขณะนี้คุณธานี ยืนยันว่า มีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่ทำงานได้และทำงานต่อ ถ้าทำไม่ได้ ให้มาบอกผม"นายอภิสิทธิ์กล่าวย้ำ
ผู้สื่อข่าวถามว่าหาก ผบ.ตร.เป็นอุปสรรคจริงจะกล้าเปลี่ยนตัวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนจะต้องดูแลให้คดีนี้เดินต่อได้ เมื่อถามว่าพอจะมีโอกาสว่าจะได้ตัวผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยู่ที่การทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะต้องได้พยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีได้ อย่างที่ พล.ต.อ.ธานี บอกกับตนว่า “ต้องการที่จะทำให้แน่น ไม่ต้องการที่จะทำคดีแบบออกมาเหมือนจะทำได้ แต่สุดท้ายก็หลุดหมด"
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่านายกฯรู้หรือไม่ว่าใครอยู่เบื้องหลัง จากการรายงานของพล.ต.อ. ธานี นายอภิสิทธิ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้บอก บอกเพียงว่าที่ถูกออกหมายจับเป็นใคร อย่างไร และเคลื่อนไหวอย่างไร กำลังออกหมายจับเพิ่ม พยายามอยู่
เมื่อถามว่า ทุกครั้งที่มีคนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้อง สุดท้ายคดีจะหลุดหมด ตั้งแต่เหตุคดีคาร์บอมบ์ หรือคดีอื่นๆ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่านี่คือเหตุผลว่า ทำไมการทำงานต้องรัดกุมเรื่องพยานหลักฐานต่างๆ และตนฟังรายงานจากพล.ต.อ.ธานี ก็รู้สึกสบายใจ เพราะท่านบอกว่า ต้องทำให้แน่น ต้องพยายามเอาตัวผู้บงการมาให้ได้ ต้องจับกุมขยายผลจากการสอบสวนให้ได้ก่อน และต้องระวังการตัดตอน เมื่อถามว่าไม่ว่าผู้บงการจะเป็นใคร ก็ต้องลงโทษใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวตอบรับว่า ใช่
**ยันจัดการไม่ไว้หน้า ไม่เว้นสี
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า พล.ต.อ.ธานี เป็นรอง ผบ.ตร. สามารถบังคับบัญชาตำรวจได้ทุกระดับอยู่แล้ว และทางรัฐบาลก็ไว้วางใจมอบหมายให้มาดูแลคดีนี้ ซึ่งพล.ต.อ.ธานี ก็สามารถดูแลและทำอย่างเต็มที่ ทั้งตนและนายกฯ ได้บอกพล.ต.อ.ธานี ตั้งแต่แรกแล้วว่าฝ่ายบริหาร พร้อมที่จะให้การสนับสนุนในการทำงานอย่างเต็มที่ เชื่อว่า พล.ต.อ.ธานี คงไม่ได้มีความกังวลใจอะไร
เมื่อถามว่าในเมื่อ พล.ต.อ.ธานี รู้ว่ามีหนอนบ่อนไส้ ทำไมถึงไม่มีการปรับเปลี่ยนคนทำงาน นายสุเทพ กล่าวว่า ท่านคงจะคิดว่ายังสามารถทำงานได้อยู่ และทำงานจนมาถึงขั้นที่รวบรวมหลักฐานต่างๆได้ จนขออนุมัติหมายจับจากศาลได้ ก็ต้องถือว่า พล.ต.อ.ธานี ทำงานได้ดี ท่านยังคงทำงานได้อยู่ คงไม่เป็นไร
เมื่อถามว่าเท่าที่ดูแล้วกระบวนการสอบสวนจะยากหรือไม่ เพราะหัวหน้าแก๊งเป็นถึงนายทหารเสนาธิการ ยศ พ.อ. และมีการมองว่า จะมีการตัดตอนไม่ให้สาวไปถึงผู้บงการที่พัวพันกับบุคคลสำคัญในวงการสีเขียว นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปกังวลใจ จะเป็นสีเขียว สีเหลือง สีแดง สีอะไรก็ตาม ถ้าทำความผิด ก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย หลักมีเท่านั้น แต่ว่าเราอย่าไปสร้างจินตนาการให้ใหญ่โตเกินเหตุ หากประจักษ์พยานหลักฐานไปถึงใคร ก็ต้องดำเนินคดีกับคนนั้น
เมื่อถามว่า อีกไม่กี่เดือน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ก็จะครบเกษียณอายุราชการแล้ว ได้มีการเตรียมบุคคลที่จะมาแทนหรือยัง นายสุเทพ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา