xs
xsm
sm
md
lg

ค้นรังบิ๊กเหวียงล่ามือยิงพ.อ.(ส)หัวหน้าทีม โยง บิ๊กป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ตามล่า “พ.อ.(ส)” อดีตทหารสังกัดกองพันจู่โจมกุญแจดอกสำคัญสาวถึง ‘ตอ’ ผู้บงการลอบสังหาร ‘สนธิ’ เผยทีมสอบพบรับ ‘คำสั่งฆ่า’ จาก “บิ๊ก ป.” หลังงานล้มเหลวโทรฯ หานาย และ “บิ๊กสีกากี” รวมถึงโยงใยกลุ่มอำนาจเก่า ตร.ภาค 2 สนธิกำลังกว่า 100 นาย บุกค้นโรงงานไม้หอม "บิ๊กเหวียง" ล่าทีมมือปืนลอบยิง “สนธิ” นำตัว 2 ผู้จัดการโรงงานสอบเครียดกว่า 5 ชั่วโมง สะพัด "จ่าปัญญา" หนีกบดานเขมร

วานนี้ (16 ก.ค.) มีรายงานความคืบหน้าในการติดตามคนร้ายที่ร่วมอยู่ในขบวนการลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการและแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่า 100 นายบุกเข้าตรวจค้นโรงงานโครงการไม้กฤษณา จันทบุรี-ตราด ของ พล.ต.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ที่ตั้งอยู่เลขที่ 2/1 หมู่ 10 บ้านนาแกลง ต.ประณีต อ.เขาสมิง จ.ตราด เพื่อติดตามค้นหาตัว จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา สังกัดศูนย์สงครามพิเศษ 1 ในมือปืนทีมลอบยิงที่ถูกออกหมายจับ

แหล่งข่าวจากทีมสอบสวน กล่าวว่า เหตุผลของการตัดสินใจเข้าตรวจค้นโรงงานไม้ของ พล.อ.เชษฐา ดังกล่าว เพราะ จากการสืบสวนพบว่า พ.อ.(ส) ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดทีมสังหารอดีตเคยเป็นนายทหารรับใช้ พล.อ.เชษฐา โดยตำรวจได้หลักฐานการใช้โทรศัพท์มือถือของเขาเชื่อมโยงเกี่ยวข้องบุคคลและสถานที่จนแน่ใจ โดย พ.อ.(ส)ใช้ให้ ส.ต.อ.วรวุฒิ เป็นคนไปซื้อโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง เพื่อนำมาใช้ในงานนี้ เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย ของทีมซึ่ง ตำรวจสอบสวนพบว่า เบอร์โทร.หลัก ที่มีการโทรเข้าโทรเอา กับทีมฆ่า ล้วนมาจากเบอร์ของ พ.อ.(ส) ทั้งสิ้น

ทั้งนี้ภายหลังจากการลอบสังหารนายสนธิ ล้มเหลวเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ทีมสังหารต่างแยกย้ายกันหลบหนีกบดานบางส่วนมาที่โรงงานไม้ของ พล.อ.เชษฐา โดยเฉพาะ“จ่าปัญญา”ซึ่งเป็นลูกทีมคนหนึ่งของ พ.อ.“ส”

ขณะที่ พ.อ.(ส) เองหลังจากงานเสร็จสิ้นได้โทรศัพท์รายงานผลต่อนายทหารระดับสูง “บิ๊ก ป.” จากนั้นได้โทรฯติดต่อนายตำรวจระดับสูง พ.ต.อ.(ท)ซึ่งเป็นเพื่อนเตรียมทหารรุ่นที่ 21 ด้วยกัน และมีความสัมพันธ์อันดีกับน้องสาวคนหนึ่งของผู้นำกลุ่มอำนาจเก่า และ โทรฯทางไกลไปดูไบซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแหล่งกบดานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลายครั้ง

ตามประวัติ พ.อ.(ส.)ผู้นี้ถือเป็นนายทหารที่มีความเชี่ยวชาญด้านการรบพิเศษ เคยสังกัดกองพันจู่โจม(พัน.จจ.) ค่ายเอราวัณ ต.เขาสามยอด อ. เมือง จ.ลพบุรี ด้วยบุคลิกเป็นคนเงียบขรึม ทำงานไว้ใจได้มักถูกนายทหารชั้นผู้ใหญ่เรียกมาใช้งานด้านการปฎิบัติการทางลับเสมอ

สำหรับปฎิบัติการลอบสังหารนายสนธิครั้งนี้ เชื่อกันว่า พ.อ.(ส)คนนี้ไม่ได้รับงานในลักษณะการว่าจ้างแต่เป็นการรับคำสั่งฆ่ามาจาก “นาย” โดยตรง

ดังนั้นขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพุ่งเป้าเร่งติดตามตัว พ.อ. (ส) คนนี้ให้ได้ หากสามารถตามตัวได้ก็คาดหวังว่าจะเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะไขปริศนาเรื่องทั้งหมดเพื่อโยงไปหาผู้บงการตัวจริงและปิดคดีได้ในที่สุด

**ตร.ค้นรัง”บิ๊กเหวียง”ล่ามือยิง

พล.ต.ต.นิวัฒน์ รัตนาธรรมวัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ฝ่ายสอบสวน พล.ต.ต.วีรศักดิ์ มีนะวนิช รองจเรตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมตำรวจชุดอรินทราช 191 ตำรวจภูธรจังหวัดตราดกว่า 100 คน ได้บุกเข้าตรวจค้นโครงการไม้กฤษณาจันทบุรี-ตราด ของ พล.ต.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตผู้บัญชาการทหารบก และอดีต รมว.กลาโหม เลขที่ 2/1 หมู่ที่ 10 บ้านนาแกลง ต.ประณีต อ.เขาสมิง จ.ตราด ที่มีนายจารินทร์ วิสัยซื่อ เป็นผู้จัดการ ซึ่งอยู่ในเครือบริษัท กฤษณาฟ้าสยาม จำกัด

พร้อมกันนี้ ก็ได้มีการค้นหาตัว จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา สังกัดศูนย์สงครามพิเศษ ซึ่งเป็น 1 ในทีมมือปืนทีมลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่โรงงานแห่งนี้ แต่จากการเข้าตรวจค้นภายในโรงงาน และบ้านพักคนงานที่มีมากกว่า 100 คนไม่พบตัว จ.ส.อ.ปัญญา แต่อย่างใด

**จ่าปัญญาไหวทันหนีกบดานเขมร

ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า จ.ส.อ.ปัญญา ได้ไหวตัวทันและหลบหนีข้ามไปยังประเทศกัมพูชาแล้วเมื่อประมาณ 2 วันก่อน อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.สุเมธ ได้นำนายจาริน วิสัยซื่อ ผู้จัดการโรงงานนายอนุชาติ ช่างเกวียน และนายศุภกร สุทธิผ่อง ที่เป็นเพื่อน จ.ส.อ.ปัญญา มาสอบสวนทีละคนเพื่อหาเบาะแสของ จ.ส.อ.ปัญญา เบื้องต้นทราบว่า จ.ส.อ.ปัญญา ได้มาทำงานที่โรงงานแห่งนี้ได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว แต่ไม่ได้อยู่ที่บ้านพักคนงาน โดยพักอาศัยอยู่กับภรรยาคือนางคณิตา ศรีเหรา ที่บ้านเลขที่ 18/20 หมู่ 4 ต.ช้างทูน อ.บ่อไร่ จ.ตราด ซึ่งอยู่ห่างจากโรงงานไปประมาณ 30-40 กิโลเมตร

พร้อมกันนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้เข้าค้นหาหลักฐานอาวุธปืน และหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในโรงงานและรถยนต์มิตซูบิชิ สีน้ำเงิน เลขทะเบียน ลต 469 ตราดด้วย แต่ไม่พบอะไร

ก่อนหน้านี้เวลาประมาณ 09.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของนางคณิตา ศรีเหรา ภรรยาของ จ.ส.อ.ปัญญา ด้วย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เพียงแต่บอกว่ายังไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

**ตำรวจปัดให้ข้อมูลการตรวจค้น

พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวว่า การมาครั้งนี้เพื่อมาตรวจสอบค้นหาตัว จ.ส.อ.ปัญญา ที่เป็นมือปืนลอบยิงนายสนธิ โดยทราบว่าได้มาหลบซ่อนตัวและทำงานอยู่ในโรงงานดังกล่าว จึงได้วางแผนเข้าจับกุม แต่ไม่พบตัวเนื่องจากได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงได้ทำการสอบเพื่อนของ จ.ส.อ.ปัญญา ที่ชื่อนายอนุชาติ ช่างเกวียน และนายศุภกร สุทธิผ่อง เพื่อหาเบาะแสและพฤติกรรมของ จ.ส.อ.ปัญญา ว่า จะมีความเกี่ยวข้องกับใครบ้างและมีใครอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถที่จะให้รายละเอียดได้มากกว่านี้เนื่องจากต้องไปรายงานผู้บังคับบัญชาให้รับทราบในเรื่องนี้ก่อน

นายอนุชาติ ช่างเกวียน กล่าวว่า เคยเห็น จ.ส.อ.ปัญญา เนื่องจากทำงานอยู่ในแผนกต้มไม้หอม แต่ไม่เคยพูดคุยด้วยความสนิทสนม หรือเป็นเพื่อนก๊วนเดียวกัน เพียงแต่ เคยเห็นหน้าและพูดคุยกันบางครั้งเท่านั้น ซึ่งได้ตอบกับทางตำรวจไปว่า ตนทำงานอยู่ที่นี่มาก่อนที่ จ.ส.อ.ปัญญา จะเดินทางมาทำงาน แต่ก็ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยครั้งนัก เพียงแต่ทราบว่ามีภรรยาอยู่ที่ ต.ช้างทูน อ.บ่อไร่ จ.ตราด เท่านั้น

**ผบ.พตท.พร้อมส่งจ่าปัญญาให้ตร.

ด้าน พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการผสมพลเรือนตำรวจทหาร (ผบ.พตท.)เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าจากการตรวจสอบก็พบว่า จ.ส.อ.ปัญญา เป็นกำลังพลของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ที่มาช่วยราชการในส่วนของกองบัญชาการผสมพลเรือนตำรวจทหาร ซึ่ง จ.ส.อ.ปัญญา ขณะนี้ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ เนื่องจากได้ลาพักผ่อนไปก่อนหน้านี้ โดยตนได้สั่งการให้ผู้บังคับหน่วยไปตรวจสอบว่า จ.ส.อ.ปัญญา ขณะนี้พักอยู่ที่ใด เนื่องจากได้ทราบข่าวว่ามีหมายจับ แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานงานจากฝ่ายตำรวจ ในการขอตัวแต่อย่างใด

“หลังทราบว่า จ.ส.อ.ปัญญา มีหมายจับผมก็สั่งการให้ผู้บังคับหน่วย รีบติดตามหาตัว จ.ส.อ.ปัญญา ทันที เพื่อจะได้ประสานงานให้เข้ามอบตัว เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทันที ซึ่งทาง พตท.ก็คงจะให้ความร่วมมือกับฝ่ายตำรวจ ซึ่งเป็นนโยบายของท่านผู้บัญชาการทหารบก ที่ว่าผู้ใดผิดก็ให้ดำเนินการตามความผิด ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งแนวโน้มที่จะได้ตัว จ.ส.อ.ปัญญา กลับมานั้นในความคิดของตนเชื่อว่าอาจจะยาก เนื่องจากหลังเป็นข่าวขึ้นมา ค่อนข้างครึกโครมมาก แต่ก็คงต้องรอเวลาให้ผู้บังคับบัญชาของทหารนายดังกล่าวติดตามตัวกลับมา เพื่อต่อสู้คดี” ผบ.พตท.กล่าว

มีรายงานว่า จ.ส.อ.ปัญญา นั้นเป็นทหารสังกัดกองบัญชาการสงครามพิเศษลงมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อ ต.ค.51 โดยช่วยราชการอยู่ที่กองร้อยทหารพรานที่ 44 อ.สายบุรี จ.ปัตตานี

**ตม.อรัญฯเข้มชายแดนสกัดมือปืน

พ.ต.อ.รณกร ฤทธิวงศ์ ผกก.สำนักงานด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ตม.ทำการตรวจเข้มการเดินทางเข้าออกช่องทางผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึกอย่างเข้มงวด เพื่อทำการตรวจสอบบุคคลตามหมายศาลและหมายจับจาก สตช.โดยเฉพาะทีมงานมือปืนรับจ้างสังหารนายสนธิ คือ ส.ต.อ.วรวุฒิ มุ่งสันติ และ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา ตามที่มือปืนทั้ง 2 ได้หลบหนีออกนอกพื้นที่อยู่ตามพื้นที่จังหวัดติดต่อริมแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตั้งแต่พื้นที่ จ.ตราด จันทบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ ศรีสะเกศ สุรินทร์ จนถึงอุบลราชธานี ที่ทีมมือสังหารมีความเป็นไปได้ว่าอาจเดินทางไปหลบซ่อน

พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวัสดิ์ สว.ด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการจับกุมทีมงานมือสังหารนายสนธิ ที่เป็นข้าราชการทั้งตำรวจและทหาร โดยการตรวจสอบรายชื่อเป็นบุคคลที่เดินทางผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึกยังไม่พบคนร้ายทั้ง 2 เดินทางผ่านช่องทางออกไปแต่อย่างใด ทั้งที่
มีนักพนันคนไทยแห่เดินทางออกไปเล่นการพนันตามบ่อนคาสิโนปอยเปตเป็นจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 8,000 คน

ร.อ.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1206 จุดตรวจ อ.05 บ้านคลองลึก ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพรานกว่า 80 นายเฝ้าระหว่างตรวจสอบเข้มงวด ทั้งตั้งจุดตรวจสกัดตามจุดเฝ้าหมายและเดินลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนริมคลองไทย–กัมพูชา หลังได้รับคำสั่งจาก พ.อ.วสุ เจียมสุข ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา ช่วยประสานจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่เป็นทีมมือปืนสังหารนายสนธิโดยจัดตั้งกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าตรวจสอบหลบซ่อนตัวคนร้ายในตลาดการค้าโรงเกลือริมชายแดนฝั่งไทยทั้ง 9 ตลาด และเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วพิฆาตเพื่อติดตามตัวได้อย่างฉับไวหลังตรวจพบในทันที.
***“บิ๊กเหวียง”ปิดมือถือหนีนักข่าว
                ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา ทหารสังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นอดีตนายทหารติดตามพล.อ.เชษฐา  ฐานะจาโร อดีตผบ.ทบ.และรมว.กลาโหม ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรนั้น ปรากฏว่า ในวันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อ เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงจากพล.อ.เชษฐา แต่ปรากฏว่า พล.อ.เชษฐา ปิดโทรศัพท์มือถือตลอดทั้งวัน  
                ทั้งนี้นายทหารใกล้ชิดพล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่ลูกสะใภ้พล.อ.เชษฐาถูกตำรวจตรวจค้นบ้านที่จ.จันทบุรีว่า เรื่องนี้พล.อ.เชษฐา ก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงมีการโยงมาถึงคนใกล้ตัวท่าน ทั้งที่เรื่องนี้ท่านไม่รู้เรื่องอะไรเลย และท่านเองก็เกษียณมานานคงไม่มีอำนาจไปสั่งทหารตำรวจได้ขนาดนั้น โดยเฉพาะท่านไม่ได้มาจากหน่วยรบพิเศษ ท่านคงไปยุ่งอะไรในหน่วยไม่ได้ ซึ่งน่าประหลาดใจว่าทำไมถึงมีการโยงมา ต้องดูเจตนาว่าเขาโยงมาเพื่ออะไร หากมองให้ดีๆคนที่จะมีอำนาจในการสั่งงการขนาดนี้ได้ต้องไม่ธรรมดา
    “คงต้องไปดูว่าตำรวจมีข้อมูลอะไรถึงมาโยงใยกับคนใกล้ชิดท่าน ส่วนทหารที่บอกว่าเคยทำงานกับท่านน่าจะมาทำงานในช่วงที่ท่านเป็นรมว.กลาโหม ซึ่งตอนนั้นคนมาทำงานร่วมกันมาก ส่วนตัวทหารคนนั้นเป็นทหารที่ถูกส่งมาจากรบพิเศษให้มาดูแลความปลอดภัยตามระเบียบของทหารเท่านั้น และท่านเป็นรวม.กลาโหมได้ประมาณ7-8 เดือนพอท่านออกมา ทหารคนนั้นก็ไม่ได้มาดูแลท่านอีก และทราบข่าวว่าเขาลงไปทำงานที่ใต้ แต่ไม่ได้มีอะไรกันมากมาย เพราะไม่ได้อยู่กับท่านมาตั้งแต่ต้นมาอยู่ตอนเป็นรมว.กลาโหม จึงไม่ได้สนิทอะไรเป็นพิเศษ พอจบงานต่างคนก็ต่างไป อย่างไรก็ตามตนขอให้ดูเรื่องนี้ให้ดีๆ เพราะคนที่ทำจริงๆต้องมีบารมีมาก แต่ท่านตอนนี้ไม่มีอะไรเลยแถมเกษียณมาตั้งนานแล้วจะไปทำอะไรใครได้”นายคนสนิทพล.อ.เชษฐา กล่าว  

**ทบ. ชี้ พธม. อย่าตั้งธงทหารเอี่ยวยิง “สนธิ”
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา ทหารสังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) จ.ลพบุรี ในข้อหาลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร ว่า กองทัพพร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการให้การสนับสนุนและร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่ร้องขอทุกอย่าง ซึ่งทราบว่า พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่าจะส่งตัว จ.ส.อ.ปัญญา กลับหน่วยต้นสังกัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานขอตัวมาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ ข้อกล่าวหามีการระบุว่ากระทำความผิดร่วมกับพลเรือน ดังนั้น คงต้องมีการดำเนินคดีแบบพลเรือนและขึ้นศาลพลเรือนตามขั้นตอน
เมื่อถามว่า กลุ่มพันธมิตรปักใจเชื่อว่ากลุ่มที่ลอบสังหารนายสนธิ มีผู้ใหญ่ในกองทัพบงการอยู่เบื้องหลัง พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ความรู้สึกของกลุ่มพันธมิตรก็เป็นของพันธมิตร ตนคงจะตอบแทนไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องความรู้สึก ทั้งนี้ กองทัพบกทำได้ก็คือแสดงความบริสุทธิ์ใจ และหากหน่วยงานใดเป็นเหมือนกองทัพบกก็ต้องทำเช่นนี้ คือ ไม่เสนอความคิดเห็น แต่พร้อมให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวนในการปฏิบัติหน้าที่
เมื่อถามว่า พันธมิตรพุ่งเป้ามาที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก มีส่วนในการลอบสังหาร พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ไม่ควรตั้งธงหรือตั้งประเด็น ควรปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานสอบสวนปฏิบัติหน้าที่ เพราะขณะนี้ข้อกล่าวหาถูกตั้งแล้ว สิ่งที่กองทัพทำได้คือให้ความร่วมมือ เพื่อให้สามารถคลี่คลายคดีได้
เมื่อถามว่า รายละเอียดของกระสุนปืนที่ตกในที่เกิดเหตุระบุว่าเป็นของกองทัพ ความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานมาที่กรมสรรพาวุธ ซึ่งกองทัพได้ให้ข้อมูลและรายละเอียดแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงรายละเอียดของกระสุนปืนแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอาจกระทบกับรูปคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
กำลังโหลดความคิดเห็น