ตร.สระแก้วจับเขมรพกบัตรปลอม‏

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจสระแก้วจับกุมชาวกัมพูชา พกบัตรประจำตัวประชาชนปลอม‏ โดยมีคนไทยเป็นนายหน้าค้ามนุษย์


วันนี้ (10 ก.ค.) พ.ต.ท.สาคู จั่นจำรัส สวญ.สภ.คลองลึก พร้อมด้วย ร.ต.อ.มนตรี ชูยิ่ง รอง สว.ป.สภ.คลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จับกุมนายสอง เฮ้าปั้ง อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ ต.46/1 ถนนประตูดาว ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย นายอวน เฮือน อายุ 18 ปี เป็นชาวกัมพูชา อยู่ตำบลปอยเปต อำเภอโอจโรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ขณะที่ทั้ง 2 คนนั้งรถเครื่องสามล้อรับจ้างออกมาจากตลาดการค้าโรงเกลือริมชายแดนฝั่งไทย โดยมีท่าทีพิรุธ จึงเรียกขอตรวจค้น บริเวณจุดตรวจค้นด้านหลัง สภ.หลังเก่า

สำหรับนายอวน เฮือน ชาวกัมพูชา ได้แสดงตัวพร้อมนำบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย หมายเลขที่ 15599 00036 011 ระบุชื่อคนไทย คือ นายศุภกรณ์ จรัญญา บ้านเลขที่ 249 หมู่ 4 ตำบลคู่ใต้ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ออกมาแสดง โดยใช้รูปถ่ายของตนเองตัดและนำมาติดไว้ด้านซ้ายมือของบัตร พร้อมกับบอกว่าเป็นคนไทย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ฟังสำเนียงแล้วเป็นเสียงเขมรที่พูดยังไม่ชัดเจน

นอกจากนั้นยังข้อตรวจค้นตัวนายอวน เฮือน พบบัตรอินเมเกซันการ์ด ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของไทยเป็นผู้ออกให้ชาวกัมพูชาไว้เดินทางผ่านแดนเข้าออก และเข้ามาในเขตไทยเพื่อซื้อขายโดยอยู่ได้เฉพาะในตลาดการค้าโรงเกลือเท่านั้น ซึ่งห้ามออกนอกขอบเขตตลาดการค้าโรงเกลือไปอย่างเด็จขาด แต่หากออกนอกพื้นที่ที่กำหนด เจ้าหน้าที่มีสิทธิจับกุมตัวไว้ได้ตามกฏหมาย การลักลอบหลบหนีเข้าเมือง

จากการสอบสวน นายอวนให้การยอมรับสารภาพว่าใช้บัตรประจำตัวประชาชนดังกล่าวมามาหลายปี โดยอ้างว่ามีชาวกัมพูชาที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เป็นผู้นำพาไปทำบัตรประชาชนคนไทย ซึ่งจะเสียเงินค่าทำบัตรประจำตัวดังกล่าว เป็นเงิน 5,000 บาท โดยที่ผ่านมามีชาวเขมรด้วยกันทำบัตรประจำตัวที่เดียวกันนี้มีจำนวนมากกว่า 300 คนแล้ว

ด้าน นายสอง เฮ้าปั้ง คนไทยจังหวัดเพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวน และยืนยันอ้างว่านายอวน เฮือน เป็นคนไทยจริง และเป็นผู้นำบัตรประจำตัวดังกล่าวออกมาหลอกเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ นายสองยังเป็นผู้นำพานายอวน ชาวเขมรเพื่อนำไปค้ามนุษย์ให้นายทุนตามออเดอร์ใน กทม.

เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมผู้ต้องหาทั้งสองส่งมอบ พ.ต.ท.วรรณดี ศรีสวัสดิ์ พนักงานสอบสวนร้อยเวณประจำ สภ.คลองลึก เพื่อสืบสวนขยายผลและดำเนินคดีในข้อหาเป็นผู้จัดหาค้ามนุษย์แรงงานต่างด้าว โดยลักลอบนำพาเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ส่วนชาวเขมรดำเนินคดีข้อหาเป็นผู้นำเอกสารบัตรประจำตัวมาใช้ปลอมเป็นคนไทยและสัญชาติโดยผิดกฎหมาย