xs
xsm
sm
md
lg

คดีลอบสังหารสนธิ เป็นเรื่องของบุคคล แต่เป็น “บุคคลในเครื่องแบบ”

เผยแพร่:

ถ้า เชอร์ล็อกโฮม หรือยอดนักสืบจิ๋วโคนัน มีโอกาสได้ใช้งาน www.myfirstinfo. com งานสืบสวนปมฆาตกรรมซ่อนเงื่อนของพวกเขาคงจะง่ายขึ้น เพราะเสมือนว่าพวกเขาจะมีโอกาสได้นั่งเครื่องย้อนเวลากลับไปดูอีกครั้ง ว่าผู้เกี่ยวข้องในคดีสำคัญพูดอะไรไว้เป็นหลักฐานมัดตัวคนร้ายไว้บ้าง ผู้เขียนซึ่งไม่มีทักษะด้านการสืบสวนสอบสวนเลย และอาจจะชอบดูหนังทำนองนี้บ้างแต่ก็ไม่ได้ดูบ่อย จะขอทดลองใช้เครื่องมือแกะรอยคดีดังลอบสังหาร คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ดูบ้างมันจะใช้งานดีขนาดไหน

ใครลอบสังหาร สนธิ ลิ้มทองกุล และใครอยู่เบื้องหลังคนที่รู้ดีที่สุด และรู้เป็นคนแรกคือผู้ตกเป็นเป้าของการลอบสังหารครั้งนี้ เพราะว่ากันว่า หลังเหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2552 นั้น ชื่อของผู้อยู่เบื้องหลังก็ถูกพูดถึงตั้งแต่เมื่อครั้งคุณสนธิยังพักรักษาตัวอยู่ในห้องพักที่โรงพยาบาลจุฬาฯ

หลังการลอบสังหารเพียง 15 วัน ไม่น่าเชื่อว่า ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อกระสุนอาวุธสงครามอย่างคุณสนธิ ลิ้มทองกุล จะกลายมาเป็นคนแรกที่ให้ปากคำต่อสาธารณชนอย่างชัดแจ้งถึงเบาะแสผู้อยู่เบื้องหลังคดีนี้

การลอบสังหารผมครั้งนี้แท้จริงคือ เขาเห็นว่า ผมคือ อุปสรรคอันใหญ่ เพราะ ผมรู้ทันเขาหมด ผมชี้ให้เห็นเลยว่า ตั้งแต่ต้น ผมพูดตั้งแต่ 3-4 วัน ก่อนที่ผมจะถูกยิง และคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถูกลอบสังหาร 2 ครั้ง ครั้งแรกที่พัทยา ครั้งที่ 2 ที่มหาดไทย เพียงเพื่อเป็นมูลเหตุให้เกิดการปฏิวัติขึ้นมา เพียงแต่ว่า คุณอภิสิทธิ์ รอดอย่างปาฏิหาริย์ เหมือนที่ผมรอด แต่คุณอภิสิทธิ์รอดแบบไม่เจ็บตัว แต่ผมรอดแบบเจ็บตัว...

(“เผยปมลอบสังหาร เปิดคดีเมื่อไหร่สะเทือนการเมืองแน่”, ASTV ผู้จัดการรายวัน, 2 พ.ค. 52)

ใครจะรู้ว่า คำพูดของคุณสนธิ เมื่อกว่า 2 เดือนจะมาสอดคล้องเข้ากับคำให้สัมภาษณ์ของคนระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ อย่างคุณกษิต ภิรมย์ ที่ให้สัมภาษณ์ข้ามทวีปมาจากโอ๊คแลนด์เมื่อไม่กี่วัน กรณีมีข่าวว่า บิ๊กสีเขียวอยู่เบื้องหลังคำสั่งเขี่ยคุณกษิตออกจากเก้าอี้รัฐมนตรีต่างประเทศ ด้วยการไฟเขียวให้ตำรวจออกหมายเรียก โดยการให้สัมภาษณ์เมื่อ 11 กรกฎาคม มีเนื้อหาดังนี้

“ทำไมมาเก่งกับผม เพราะผมไม่มีอำนาจเงินใช่ไหม ถ้าจะเปิดศึกรบก็ต้องรบกันรอบด้าน ผมถามกลับว่า ตอนที่คุณทักษิณปู้ยี่ปู้ยำบ้านเมือง คนพวกนี้หายไปไหน ต้องเอาความจริงมาพูดกัน นายทหารเหล่านั้นหายไปไหน ทำไมไม่ออกมาป้องกันประเทศชาติ และถ้าหากผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทหารเหล่านั้นก็วิพากษ์วิจารณ์ผมได้ ผมรับฟังเพราะผมไม่ใช้อำนาจเถื่อน ถ้ารักชาติก็ต้องรักตลอดเวลา และ ช่วยถามทีว่า ใครปองร้ายคุณสนธิ (ลิ้มทองกุล) ใครปองร้ายท่านอภิสิทธิ์ ซึ่งท่านสุเทพคงต้องตอบ”

(“กษิต” ท้าชนทหาร ถามใครปองร้าย “สนธิ-อภิสิทธิ์”, ASTV ผู้จัดการออนไลน์, 12 ก.ค. 52)

ข้อความข้างบนคุณกษิตไม่ได้พุ่งเป้าไปที่รองนายกฯ แต่ซัดหมัดหนักไปตรงๆ ที่ “นายทหารเหล่านั้น” ผู้ที่ไม่ออกมาป้องกันชาติ ผู้ใช้อำนาจเถื่อน และเชื่อว่าน่าจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปองร้ายคุณสนธิ และท่านอภิสิทธิ์เสียแต่ว่าไม่มีการระบุชื่อชัดๆ ว่า นายทหารเหล่านั้นเป็นใคร แต่ถ้าย้อนกลับไปดูคำพูด คุณสนธิ อนุมานได้ว่า นายทหารที่อยู่เบื้องหลังการปองร้ายทั้งหลายนี้ น่าจะเคยวางแผนถึงขั้นจะก่อการปฏิวัติมาแล้ว

(ผู้เขียนขออนุญาตเขียนเรื่องจุดบอด เหตุการณ์ที่พัทยาในคราวหน้า หลังได้รับเอกสารสำเนารายงานผลการพิจารณาศึกษาของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองชุดของ นายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ซึ่งหนามากในมือแล้ว ขอเวลาศึกษาชั่วครู่)

การให้สัมภาษณ์กับ แคน สาลิกา และนำมาออกอากาศที่ ASTV News1 เมื่อคืนวันที่ 1 พฤษภาคม ยังมองล่วงหน้าไปถึงผลการทำงานของคณะสืบสวนสอบสวนที่ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ลงมาช่วยดูแลให้ด้วยว่า

ผมทราบภายในพอสมควรว่า เขาได้ทำงานมาเยอะแล้ว วันนี้มันไม่ใช่ประเด็นเรื่องปลอกกระสุนอีกต่อไปแล้ว มันเกินไปกว่านั้นแล้ว เขารู้ถึงตัวคนยิงหมดแล้ว แล้วเขาเตรียมพร้อมจะจับคนยิงได้ทุกเมื่อ เพราะฉะนั้นแล้วการที่ พ.อ.สรรเสริญ ออกมาแถลงข่าวในฐานะโฆษก ทบ. เรื่องว่า สรรพาวุธไม่ได้ลงเลข คือพูดง่ายๆ ปัดความรับผิดชอบ ประเด็นไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว มันเลยไปไกลแล้ว คุณธานีเขาทำงานไปเยอะแล้ว ผมเชื่อว่าวันหนึ่ง…

เมื่อถึงเวลาแล้วแกต้องตัดสินใจที่จะหงาย แล้วแกก็รายงานตรงท่านนายกฯ คดีนี้ไม่ได้ขึ้นกับ ผบ.ตร.นะ เพราะฉะนั้นแล้ว ผมเชื่อว่าคดีผม ถ้าเขาเปิดออกมาจะสะเทือนวงการมาก มันเป็นปัญหาทางการเมือง ที่ท่านนายกฯ ต้องตัดสินใจ...

แล้วผมเชื่อว่าท่านต้องกล้าตัดสินใจ เพราะถ้าท่านไม่กล้าตัดสินใจ

ประเทศไทย ก็ไม่มีที่ยืนเหมือนกัน คุณก็ไม่มีที่ยืน ผมก็ไม่มีที่ยืน


ดังนั้นการที่ รัฐมนตรีกลาโหม ก็ดี รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ก็ดี ออกมาให้สัมภาษณ์ทำนองว่า โปรดอย่าเชื่อมโยง อย่าใช้จินตนาการ คดีนี้เป็นความผิดส่วนบุคคลอย่างเชื่อมโยงถึงกองทัพ หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง

แต่ท่านคะ..บุคคลที่ท่านพูดถึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีลอบสังหารสื่อมวลชนกลางกรุงอย่างอุกอาจ มันเป็นบุคคลในเครื่องแบบมิใช่หรือคะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแบบสีใดก็ตาม ยิ่งถ้าบุคคลนั้นๆ ไล่ตั้งแต่มือปืนรวมไปจนถึงผู้สั่งการเกิดแฝงตัวเข้าไปเป็นเหลือบไรหมัดเห็บ อยู่ในหน่วยงานที่มีหน้าที่ต้องดูแลความมั่นคง ดูแลความปลอดภัยให้ชาติให้ประชาชน แล้วคนเดินดินอย่างเราๆ จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไรดีค่ะ เพราะขนาดคนอย่างคุณสนธิ ยังถูกลอบกัดเช่นนี้ได้

และที่สำคัญอีกประการคือ เราต่างยอมรับความจริงว่า ในหมู่คนดีมีคนเลว ในหมู่เจ้าหน้าที่ที่ดี ทหารตำรวจที่ดี ก็มีพวกเลวๆ คอยกัดแทะองค์กร บ้านเราเจอมามากกับพวกมาเฟียมีสีแทนที่จะทำงานตามที่ได้ปฏิญาณตนต่อหน้าพระพักตร์ กลับเอาเวลาที่อยู่ในชุดเครื่องแบบไปคุมผับ เธค ทวงหนี้ เผาไล่ที่ และรับจ้างฆ่าคน ฉะนั้นการเอาจริงกับคดีลอบสังหารสื่อมวลชนอย่างคุณสนธิ จึงเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นการชำระมูลโสโครก เพื่อล้างภาพให้หน่วยงานนั้นๆ กลับมาเป็นที่ไว้วางใจให้กับประชาชนได้อีกครั้ง

ดังนั้น คำพูดของคุณสุเทพก็ดี พล.อ.ประวิตรก็ดี ก็ดูจะเป็นการพูดแบบที่ขาดความรับผิดชอบไปสักหน่อย เพราะอย่าลืมว่า หน้าที่สำคัญของพวกท่านคือ การสร้างความมั่นคงให้กับชาติ และชาติคือประชาชน ถ้าประชาชนอยู่ไม่ได้ ชาติก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น