xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” จี้นายกฯ ใช้สื่อตีแผ่แผนชั่ว “แม้ว”-หยุดขึ้นทะเบียนพระวิหารก่อนเสีย 1.5 ล้านไร่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ ลิ้มทองกุล
“สนธิ”เตือนนายกฯ เร่งใช้สื่อในมือแจง ปชช.รู้ทันแผน“นช.แม้ว”ล่าชื่อถวายฎีกา จงใจเล่นการเมืองกับในหลวง หวังให้พสกนิกรเข้าใจผิด นำไปสู่วิกฤติของบ้านเมือง พร้อมจี้แสดงจุดยืนคัดค้านขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร ยกเลิกแถลงการณ์ร่วมไทย-เขมรยุค “นพดล” ก่อนเสียพื้นที่เพิ่ม 1.5 ล้านไร่ จวก “สุวิทย์”โกหก อ้างเลื่อนการขึ้นทะเบียนได้ทั้งที่เป็นขั้นตอนปกติ แฉ รมว.ทรัพย์ฯ เร่งร่างทีโออาร์จ้างเอกชนพัฒนาพื้นที่รอบเขาวิหาร


 
 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกล่าวในรายการ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ทางเอเอสทีวี เมื่อวันศุกร์ที่ 3 ก.ค. โดยมี สโรชา พรอุดมศักดิ์ เป็นพิธีกร ว่าวันนี้ จำเป็นต้องเตือนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีอย่างจริงจัง หลังจากก่อนหน้านี้ได้พูดให้กำลังใจมาตลอด แต่ตอนนี้คงไม่ต้องให้กำลังใจแล้ว แม้ว่ายังรักและยังเชียร์อยู่ แต่จะเตือนอย่างกัลยาณมิตร ไม่เช่นนั้นประเทศจะต้องเข้าสู่หายนะ ถ้านายกฯ ไม่ทำอะไรอย่างจริงจังและกล้าหาญ

นายสนธิกล่าวว่า เรื่องแรกที่จะเตือน คือความล้มเหลวทุกประการของรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ที่ไม่สามารถทำให้ประชาชนได้รู้ถึงวิกฤติครั้งใหญ่ของชาติ นั่นคือการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่อยู่ระหว่างหนีคดี ได้ให้คนใกล้ชิดคือนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ล่ารายชื่อประชาชนนับล้านคนเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเรื่องนี้คนที่มีปัญญาย้อมรู้ว่าทำไม่ได้ แต่คนเหล่านี้ต้องการเล่นการเมืองกับสถาบันพระมหากษัตริย์ แม้แต่นายกฯ และรัฐมนตรีหลายคนก็ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ควรทำ แต่ไม่เห็นสื่อมวลชนภายใต้การดูแลของรัฐมนตรีสำนักนายกฯ ดำเนินการอะไรที่เป็นรูปธรรมที่จะอธิบายเรื่องราวเหล่านี้ให้ประชาชนเข้าใจว่าทำไม่ได้ และนี่คือการเอาการเมืองมาบังคับพระเจ้าอยู่หัว

นายสนธิ กล่าวย้ำว่า การถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษนั้น คนที่ต้องการได้อภัยโทษต้องรับโทษก่อน และคนขอต้องเป็นนักโทษเองคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ให้คนอื่นเป็นตัวแทนล่ารายชื่อ ไม่เช่นนั้นอีกหน่อยใครมีเงิน เมื่อต้องโทษอะไรก็ไปจ้างประชาชนมาเข้าชื่อถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะฉะนั้นในเมื่อรู้ดีว่าเรื่องนี้ทำไมได้ แต่คนพวกนี้ก็ยังทำ ก็เพราะต้องการเอาการเมืองไปเล่นกับพระเจ้าอยู่หัว หากเมื่อถวายฎีกาแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ก็จะไปพูดกันทันทีว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่ให้ความเป็นธรรมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยชาวบ้านที่ไปลงชื่อก็จะไม่เข้าใจที่มาที่ไปว่าโดยหลักการแล้วทำไม่ได้ ก็จะเข้าใจผิดต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายสนธิ กล่าวว่า ในเมื่อรู้ว่านี่คือเกมของทักษิณ ทำไมนายกฯ ไม่สั่งให้รัฐมนตรีสำนักนายกฯ ใช้สื่อต่างๆ ทำความเข้าใจกับประชาชน โดยต้องให้ฟรีทีวี ทั้งช่อง 11 และ ช่อง 3 ช่อง 9 ที่อยู่ภายใต้สัมปทาน ช่อง 5 และ 7 ซึ่งเป็นช่องของทหาร ต้องให้ผู้ประกาศข่าวหรือพิธีกรรายการเล่าข่าวต่างๆ ให้ข้อมูลกับประชาชนอย่างกว้างขวางว่า การถวายฎีกาครั้งนี้คือการเล่นการเมืองกับในหลวง ต้องโหมกระพือเรื่องนี้ให้คนทั่วประเทศรู้ ซึ่งจริงๆ แล้ว คนที่รัก พ.ต.ท.ทักษิณนั้นไม่ได้งมงายทั้งหมด ถ้าเอาเหตุผลไปให้พวกเขาได้รู้ พวกเขาก็จะไม่เอาด้วยกับการถวายฎีกาครั้งนี้

“นี่คือสิ่งที่รัฐบาลต้ององทำ ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ คุณสาทิตย์ต้องทำ แล้วทำไมไม่ทำ ปล่อยให้มีการล่ารายชื่อจนเสร็จ โดยที่ประชาชนที่ร่วมลงชื่อเขาไม่รู้ คนที่มาลงชื่อก็เพราะรักในหลวงและเห็นว่าจะช่วยทักษิณได้ แต่เมื่อไม่ได้ เพราะมันผิดหลักการ คนพวกนี้ก็จะบอกว่าในหลวงไม่ให้ความเป็นธรรมกับทักษิณ สร้างความเข้าใจผิดในหมู่พสกนิกร เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ผมต้องตำหนิคุณอภิสิทธิ์ คุณสาทิต คุณจะปล่อยให้ประชาชนเข้าใจพระเจ้าอยู่หัวผิดไม่ได้ นี่คือความล้มเหลว ที่ผมรับไม่ได้เด็ดขาด”นายสนธิกล่าว

นายสนธิกล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องที่ 2 อยากจะขอร้องให้นายกฯ ตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมา 1 ชุด โดยนายกฯ เป็นประธาน นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศเป็นเลขาณุการ คณะกรรมการชุดนี้ควรมีบุคคลที่มีองค์ความรู้ และมีภาคประชาชนเข้ามาร่วม อาจมี ส.ส. ส.ว.เข้าร่วมด้วยก็ได้ แต่ไม่ต้องเป็นคณะกรรมการที่ใหญ่ เพื่อมาบริหารจัดการข้อพิพาทเรื่องเขาพระวิหาร และสร้างความโปร่งใสให้ประชาชนในเรื่องดังกล่าว

นายสนธิ กล่าวว่า กรณีเขาพระวิหารนั้นนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ส่งสัญญาณไม่เหมือนกัน เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.52 ขณะที่นายกฯ เยือนจีนได้ให้สัมภาษณ์ว่า ได้บอกนายสุเทพในการไปจรจากับนายฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา ว่าให้ย้ำจุดยืนไม่ให้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา ซึ่งเป็นจุดยืนที่ถูกต้อง เพราะถ้ายอมรับการขึ้นทะเบียนก็เท่ากับยอมรับแผนที่ที่กัมพูชาใช้อ้างอิง ซึ่งจะทำให้ไทยเสียดินแดนอีก 1.5 ล้านไร่ตามมา แต่ในวันวันเดียวกันนั้น นายสุเทพให้สัมภาษณ์ก่อนไปกัมพูชาว่า คงไม่เอาเรื่องอะไรไปพูดให้เป็นปัญหา เพราะนายกฯ ไม่ให้พูดเรื่องเขาพระวิหาร ให้พูดแต่เรื่องที่เป็นมิตรไมตรีต่อกันเท่านั้น จึงไม่ทราบว่าใครโกหกกันแน่ ระหว่างนายกฯ กับนายสุเทพ แต่ที่นายกฯ พูดนั้นเป็นจุดยืนเดียวกันกับตอนที่เป็นฝ่ายค้าน และได้อภิปรายคัดค้านนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ที่ไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมสนับสนุนให้จดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา

นายสนธิกล่าวต่อว่า นอกจากนี้นายสุเทพยังอ้างว่าไทยไม่มีอะไรโต้แย้งเรื่องเขาพระวิหารกับกัมพูชา ทั้งที่ข้อเท็จจริงนั้น เราโต้แย้งเรื่องแผนที่ตั้งแต่แรก เพราะเราถือแผนที่คนละฉบับกัน และการที่นายอภิสิทธิ์บอกว่าให้คัดค้านการขึ้นทะเบียนก็เท่ากับโต้แย้งแล้ว ขณะเดียวกันนายสุเทพยังพูดเหมือนนายสมัครและคนเสื้อแดงว่าปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชาแล้วตามคำตัดสินของศาลโลก แต่นายสุเทพพูดไม่หมดว่าเรายังขอสงวนสิทธิที่จะยื่นอุทธรณ์เมื่อมีข้อมูลใหม่

นายสนธิกล่าวอีกว่า พันธมิตรฯ ได้ออกมาคัดค้านการจดทะเบียนปราสาทพระวิหารมาตั้งแต่ปี 51 ตอนชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ ซึ่งตอนนั้นนายนพดล ปัทมะได้ไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมกับกัมพูชาสนับสนุนให้จดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งโดยนัยเท่ากับว่าเรายอมรับแผนที่ที่เขมรใช้ ซึ่งหากเขาอ้างแผนที่ดังกล่าวไทยจะเสียพื้นที่อุทยานแห่งชาติและเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืช 7 แห่งในจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ และบริเวณรอบๆ เขาพระวิหารรวมเนื้อที่ 1.5 ล้านไร่

“ผมขอเตือนคุณสุเทพ ถ้าคิดว่าการเสียดินแดน 1.5 ล้านไร่เป็นเรื่องเล็ก แต่ผมเห็นว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิต ผมยอมไม่ได้ เด็ดขาด ในฐานะลูกเจ๊กแต่เป็นคนไทยที่รักชาติ ตารางนิ้วเดียวก็ไม่อยากจะเสีย จะมาเสีย 1.5 ล้านไร่ เพราะความโง่เง่าอย่างนั้นหรือ นี่คือทำไมเราถึงคัดค้านนายนพดลและนายสมัครอย่างถึงไหนถึงกัน”

นายสนธิ กล่าวต่อว่า แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาที่นายนพลดลไปลงนามนั้นถูกศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายไปแล้ว แต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามา 6 เดือนแล้ว ทำไมยังไม่แจ้งกัมพูชาและยูเนสโก้ว่าขอยกเลิกแถลงการณ์ดังกล่าว เพื่อที่จะบอกว่าเราไม่ยอมรับมติของคณะกรรมการมรดกโลกที่รับจดทะเบียนปราสาทพระวิหาร

นายสนธิ กล่าวว่า เขาพระวิหารนั้นมีการประจันหน้ากันระหว่างไทยกับกัมพูชามาตลอด แต่ก็ยันกันอยู่อย่างนั้น โดยมีการอ้างแผนที่คนละฉบับ แต่เรามีข้อเท็จจริงว่า ตอนที่ฝรั่งเศสคืนดินแดนให้ไทย (หลังสงครามอินโดจีน) นั้น เขายอมรับแผนที่ฉบับของเรา นั่นคือเกาะกูดเป็นของเราทั้งเกาะ จนกระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณมาเป็นนายกฯ มีการแอบเจรจากับนายฮุนเซน เรื่องผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในอ่าวไทย ไปยอมรับอย่างไม่เป็นทางการว่าแผนที่ที่เขมรใช้อ้างอิงเรื่องเขาพระวิหารนั้นถูกต้อง ซึ่งเมื่อลากลงไปในทะเลจะทำให้เกาะกูดถูกแบ่งครึ่งและเขตแดนทางทะเลส่วนที่มีก๊าซ และน้ำมันนั้นตกเป็นของกัมพูชา แล้วคนชั่วที่ขายบ้านขายเมืองก็จะไปเจรจากับกัมพูชาขอสัมปทานตรงนั้นเพื่อเอาเงินเข้ากระเป๋า ดังนั้นเมื่อรัฐบาลนายสมัครเข้ามา จึงมีการจดทะเบียนปราสาทพระวิหาร แต่เมื่อพันธมิตรฯ ประท้วงอย่างแข็งขันจึงต้องมีการคุยกันใหม่

นายสนธิย้ำว่า ต้องการเห็นรัฐบาลนี้สั่งยกเลิกแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ตามที่นายกษิตเคยแนะนำบนเวทีพันธมิตรฯ อย่าปล่อยให้เลยตามเลย ส่วนกรณีที่ส่งนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่เมืองเซบิญา ประเทศสเปนนั้น เป็นการส่งไปผิดคน เพราะนายสุวิทย์ไม่ใช่ประธานมรดกโลก ไม่มีอำนาจ และไม่ได้เสนออะไรในที่ประชุม นอกจากไปสังเกตการณ์ เมื่อกลับมาแล้วนายสุวิทย์ยังโกหกว่าเขาทำให้กรรมการมรดกโลกเลื่อนการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารไปเป็นเดือน ก.พ.ปี 53 ทั้งที่มันเป็นขั้นตอนที่กำหนดไว้แต่เดิม ซึ่งการจะขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกโดยสมบูรณ์นั้นมีอยู่ 16 ข้อ ซึ่งข้อสุดท้ายนั้นต้องเสร็จในเดือน ก.พ.53 ที่ให้กัมพูชาส่งแผนจัดการบริหารพื้นที่ที่สมบูรณ์พร้อมแผนที่ ไม่ใช่การเลื่อนกำหนดตามที่นายสุวิทย์อ้าง

นอกจากนี้นายสุวิทย์ ในฐานะ รมว.ทรัพยากรฯ ยังไม่ยกเลิกโครงการสมัยรัฐบาลนายสมัครในการพัฒนาพื้นที่รอบเขาพระวิหารให้เป็นไปตามเงื่อนไขของมรดกโลก ซึ่งกินพื้นที่หลายหมื่นไร่ โดยมีการแอบร่างทีโออาร์ให้เอกชนมาเซ็นสัญญาแล้ว เพราะฉะนั้นนายสุวิทย์จึงเป็นอีกคนหรือไม่ที่จะมีส่วนทำให้ไทยเสียดินแดน

นายสนธิกล่าวว่า หากรัฐบาลนี้ต้องการคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารจริงทำไมต้องทำตามขั้นตอนที่ 14 ของการจดทะเบียน โดยการส่งตัวแทนไปร่วมประชุมกับกัมพูชาและชาติหุ้นส่วนอีก 7 ชาติเรื่องการพัฒนาทรัพย์สิน ทำให้กัมพูชาทำตามเงื่อนไขข้อนี้สำเร็จ ซึ่งถ้าต้องการจะคัดค้านอย่างจริงจัง เราต้องไม่สนใจคณะกรรมการมรดกโลก ฝ่ายความมั่นคงก็ต้องรักษาอธิปไตยไม่ให้ชาติอื่นมาบริหารพื้นที่ ไม่ให้สร้างถนนเข้ามาในเขตไทย

“นี่คือขบวนการปล้นชาติปล้นแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผมถึงต้องเรียกร้องให้นายกฯ อภิสิทธิ์มีความกล้าหาญ อย่าพูดไพเราะพูดเก่งอย่างเดียว ท่านต้องลงมานั่งหัวโต๊ะ แล้วท่านต้องเรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สิ่งแรกที่ท่านต้องเริ่มทันทีเลย ท่านต้องบอกทันทีเลยว่าให้รัฐมนตรีฯ กระทรวงการต่างประเทศยกเลิกแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา แจ้งไปทางรัฐบาลกัมพูชา และคณะกรรมการมรดกโลก ตามที่นายกษิต ภิรมย์ ได้เคยให้คำแนะนำไว้”

นายสนธิ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยกำลังจะสูญเสียพื้นที่อีก 1.5 ล้านไร่ ตอนนี้อาจจะไม่มีการกระโตกกระตาก แต่พอเรายอมรับให้เป็นมรดกโลก ทำตามกติกาของคณะกรรมการมรดกโลกเรียบร้อยหมดตามขั้นตอน วันดีคืนดีลูกนายฮุนเซน อาจยื่นข้อเรียกร้องว่าเมื่อประเทศไทยยอมรับแผนที่ตามที่เสนอมรดกโลก เพราะไปร่วมจัดการลงทะเบียนร่วมจัดการพื้นที่รอบๆ ปราสาท ดังนั้นเขาอาจจะขอลากแผนที่ต่ออีก 7 แห่งใน 3 จังหวัด 1.5 ล้านไร่ ให้เป็นของกัมพูชา หรือไม่ก็เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกซึ่งจดทะเบียนเป็นของกัมพูชาแต่ฝ่ายเดียว ไทยไม่มีสิทธิ์

“ปรากฏว่าอะไรรู้ไหม ตอนนี้ คนไทย ข้าราชการไทย และนักการเมืองไทยหัวใส ฉลาดแกมโกง เจ้าเล่ห์แสนกล ก็บอกว่า งั้นเราขอเข้าไปจดทะเบียนร่วมด้วยได้ไหม การเข้าไปจดทะเบียนร่วมด้วยก็เท่ากับคุณไปยอมรับแผนที่ของกัมพูชา 100 เปอร์เซ็นต์ ทันทีเลย”นายสนธิกล่าว

คำต่อคำ “สนธิ ลิ้มทองกุล”ในรายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย”


สโรชา พรอุดมศักดิ์ - สวัสดีค่ะพ่อแม่พี่น้อง ขอต้อนรับเข้าสู่รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนะคะ กลับมาพบกันอีกครั้งหนึ่ง แหม นานๆ เจอกันทีก็มาพร้อมกับสิวเม็ดใหญ่กลางหน้าผากก็อย่าว่ากันเลยนะคะ ยังสาวอยู่ก็อย่างนี้ล่ะค่ะมีสิวสาวขึ้นเล็กน้อย มีคุณผู้ชม พ่อแม่พี่น้องหลายท่านนะคะได้กรุณาส่งเสียงมาบอกว่า ช่วงหลังไม่เจอเลย หายไปไหน ไม่จัดรายการภาษาไทยเลย ก็เรียนให้ทราบนะคะว่าตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่แล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นต้นมาก็จะจัดรายการ คอคนคอข่าวคอต่างประเทศ ในทุกๆ วันอังคาร ช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่มเป็นต้นไป ก็มาติดตามข่าวสารในต่างประเทศ พูดคุยกันในหลายๆ ประเด็น แล้วจะพยายามนำเสนอเรื่องราวที่ใกล้ตัวคนไทยสักนิดหนึ่ง เรื่องราวที่จะสามารถกระทบถึงชีวิตประจำวันของเรา หรือในบางกรณีก็อาจจะมีการเปรียบเทียบตัวอย่างกรณีศึกษาจากต่างประเทศ ในเรื่องราวที่เกี่ยวโยงในประเทศไทย หรือว่าที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ณ เวลานี้ ก็สามารถจะติดตามกันได้ทุกวันอังคารค่ะ

สำหรับเรื่องราวของพันธมิตรฯ วันนี้ขออนุญาตเริ่มต้นด้วยเรื่องราวของคนที่ แหม.. จริงๆ แล้วไม่อยากพูดถึงนะคะ แต่ว่ายังไงก็คงต้องพูดแหละเพราะว่าเขากำลังฮือฮากันมาก สำหรับวันที่ 26 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ พ่อแม่พี่น้องทราบใช่ไหมคะเป็นวันเกิดของใคร เป็นวันเกิดของ นช.ทักษิณ ถูกต้องแล้วค่ะ 60 ปีนะคะปีนี้ ไม่ใช่น้อยๆ เลย แล้วก็จะมีงานใหญ่ด้วย เพราะว่าชมรมคนรักแท็กซี่เขาออกมาประกาศนะคะว่าเขาจะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ จะมีการจัดงานในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ในทั่วทุกพื้นที่จะมีการสวดมนต์เพื่อต่ออายุทักษิณให้ยืนยาวมากยิ่งขึ้น สวดมนต์พร้อมกันในทุกๆ ที่เลย นี่คือคำกล่าวอ้างของประธานชมรมวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ นะคะ 26 กรกฎาคม ทักษิณอายุครบ 60 ปี พอดี๊ พอดี เขาบอกว่าในต่างจังหวัดก็จะจัดกันในพื้นที่ต่างๆ แต่ในกรุงเทพมหานครก็จะจัดขึ้นที่ท้องสนามหลวงนะคะ โดยจะมีการนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 60 รูป มาสวดมนต์เพื่อต่ออายุให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และก็จะมีการสวดมนต์พร้อมๆ กันไปทั่วประเทศเลยนะคะ

ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย วันนี้ไปที่สหประชาชาติในกรุงเทพฯ ไปยื่นหนังสือให้นายบัน คี-มุน ในฐานะที่เป็นเลขาธิการยูเอ็น เรียกร้องให้ตรวจสอบกรณีการทำรัฐประหารในประเทศไทยเมื่อ 19 กันยาฯ 2549 มีใครบอกแกไหมคะว่าเรื่องราวมันเกิดขึ้นมากี่ปีแล้ว 2549 ได้ข่าวว่า ตอนนี้ 2552 เกินกลางปีมาแล้วนะคะ ผ่านมาแล้ว 3 รัฐบาล ทั้งรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช รัฐบาลของนายสมชาย นี่ ก่อนหน้านั้นก็มีรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ด้วยนะคะ ก็พยายามน่ะค่ะ พยายามที่จะไปเกี่ยวโยง ไปเชื่อมโยงกับเรื่องราวในฮอนดูรัส หลังจากที่ผู้นำของเขาโดนรัฐประหารแล้วก็ขับไล่ออกจากประเทศ และในที่สุดสหประชาชาติ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศหลายองค์กร ก็ออกมาเรียกร้องให้นำกลับมาเป็นผู้นำประเทศเหมือนเดิม ทางเพื่อไทยเขาก็พยายามที่จะใช้กรณีเทียบเคียงว่านี่ล่ะเป็นการต่อสู้ในเวทีโลก และพยายามเรียกร้องให้ยูเอ็น ในเมื่อทำกับฮอนดูรัสได้ทำไมทำกับประเทศไทยไม่ได้ แต่ว่าอย่างที่ว่าละคะ เรื่องราวมันก็ผ่านพ้นมาหลายต่อหลายปีแล้วทำไมไม่คิดซะตั้งแต่ตอนนั้นล่ะคุณพร้อมพงศ์ นะคะ

อีกเรื่องหนึ่ง เรื่องนี้พ่อแม่พี่น้องต้องติดตามดีๆ นะคะ เพราะว่าเรามีคลิปประกอบด้วย คลิ๊กไปเมื่อช่วงเย็นๆ ของวันนี้ ใน ASTV ผู้จัดการออนไลน์ เขาก็มีการนำคลิปหนึ่งมาเผยแพร่ให้ผู้อ่าน ผู้ชมได้รับทราบกัน คลิปอันนี้นะคะเป็นคลิปของผู้ที่เรียกตัวเองว่า "3 เกลอ junior" 3 เกลอ junior เขาไปที่ๆ ชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ผ่านมา แล้วก็ไปทำสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ ผู้ชุมนุมหลายๆ กลุ่ม ว่ามาทำไม มาต่อสู้เพื่ออะไร มาขับไล่ใคร แล้วเขาก็นำมาขึ้นในเว็บไซต์ชื่อดัง ก็คือ You Tube มีคนเข้าไปดูเยอะ แล้วอย่างที่บอก เรียกตัวเองว่า 3 เกลอ junior หลายคนบอกว่า เอ๊ะจริงๆ แล้วเป็นการล้อเลียนหรือเป็นการเลียนแบบ Young PAD รึเปล่า เป็นกลุ่มคนวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาที่มารวมตัวกันเพื่อต่อสู้เพื่ออะไรบางอย่าง หรือว่ามีอุดมการณ์ คราวนี้มันเกิดการผิดพลาดค่ะ เพราะว่าเขาถ่ายกันไปประมาณ 3 นาที เกือบๆ ครึ่ง ไปคุยกับคนกลุ่มหนึ่ง ผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่ง บอกว่า มาทำไม มาขับไล่ใคร เดี๋ยวตะโกนพร้อมกันนะ ตะโกนว่า อภิสิทธิ์ แล้วคุณตะโกนนะว่า ออกไป ไปดูค่ะว่าความพยายามของพวกเขานั้นออกมาเป็นอย่างไร







สโรชา - แหม! ก็อภิสิทธิ์ ออกไป ก็หลายรอบอยู่นะคะ พอทักษิณออกไป เล่นเอาตั้งตัวไม่ถูก ทักษิณ ออกไป คงจะเป็นอะไรที่คุ้นๆ หูละคะ จากการที่พวกเราชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง เมื่อหลายช่วงที่ผ่านมานะคะ ก็นำมาให้พ่อแม่พี่น้องได้รับชมกันว่า จะเลียนแบบทั้งที น้องเอ๋ยเลียนแบบให้เหมือนๆ หน่อยนะ เก่งเหมือน Young PAD เขาหน่อย นะคะ แล้วคงจะได้ชื่นชมกันนะคะ

มีข่าวประชาสัมพันธ์ค่ะ แล้วก็นี่ ขออนุญาตอ่านตามที่คุณลุงจำลองได้กรุณาเขียนมาให้เลยนะคะ "ช่วย ASTV ไม่ให้จอดับ และช่วยเกษตรกรให้ได้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพดีและราคาถูกกว่าปุ๋ยเคมีมาก โดยการสนับสนุนให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ASTV ตราขวัญดิน" ASTV เอากำไรกระสอบละเล็กน้อย กะขายจำนวนมากเข้าว่านะคะ ท่านที่จะสั่งซื้อทีละมากๆ หรือต้องการเป็นผู้แทนจำหน่ายปลีกนะคะ กรุณาติดต่อมาที่เบอร์โทรศัพท์ทั้ง 4 เบอร์นี้นะคะ 08-1944-6122, 08-1944-8122, 08-1824-6944 หรือ 08-1824-8944 ติดต่อได้ทั้ง 4 เบอร์เลยนะคะ จะได้ติดต่อได้อย่างรวดเร็วนะคะ

มีข่าวประชาสัมพันธ์มาจากสหรัฐอเมริกาด้วยค่ะ สหรัฐอเมริกา พันธมิตรฯ ของเราที่วอชิงตันดี.ซี. บอกว่า ตอนนี้ชาวพันธมิตรฯ ดี.ซี. 125 คนได้ร่วมกันต้อนรับ อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และคุณเทอดภูมิ ใจดี และคณะ รวมไปถึงคุณหมี ยุทธิยงค์ ของเราด้วย ที่ร้านบางกอก การ์เด้น เมืองโคลัมเบีย รัฐแมริแลนด์ ก็ได้มีการ deposit เงินจำนวน 3,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเงินบริจาคจากพันธมิตรฯ ดี.ซี. ผ่านทาง ไทย-ดี.ซี.ฟอรั่มโดยตรงเข้าแบงก์ออฟอเมริกา ด้วยความรักและปรารถนาดีจากพันธมิตรฯ ดี.ซี. ขอบพระคุณมากเลยค่ะสำหรับพันธมิตรฯ ดี.ซี. ก็มีข่าวประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมนะคะสำหรับการสนทนา หรือการเสวนาของคณะอาจารย์สมเกียรติ ที่ไปที่นั่นนะคะ ขอเรียนเชิญพี่น้องพันธมิตรฯ จากลาสเวกัส เนวาดา และรัฐใกล้เคียง มาร่วมชุมนุมกัน เสวนาภาคประชาชน โดยมี อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ มีคุณเทิดภูมิ ใจดี และอีกหลายท่าน ในวันอังคารที่ 7 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้นะคะ ตั้งแต่เวลา 1 ทุ่มตรง ถึง 5 ทุ่ม ที่โรงแรมโกลด์โคสต์ โฮเทล เนวาดานะคะ ที่บอลรูม สลอน ซี ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คุณพรรณ ร้านโกมล เบอร์แอเรีย โค้ด 702 731 6542 หรือว่าแอเรีย โค้ด 702 275 2938 ค่ะ และอีก 1 รัฐที่จะมีการพบปะกัน ที่เดนเวอร์ โคโรลาโด นะคะ มีงานเสวนาของทั้งสองท่านในวันที่ 10 กรกฎาคม เวลา 4 โมงเย็น ถึง 2 ทุ่ม ที่เล็กส์ เอเชียน มาร์เก็ต ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คุณเล็ก แอเรียโค้ด 720 314 5449 ขอให้พันธมิตรฯ ไปรวมตัวกันมากๆ นะคะ

ประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมอีกเล็กน้อยค่ะก่อนที่จะไปพบกับแขกในรายการของเราในค่ำคืนนี้นะคะ ใครอยากที่จะสมัครและสนับสนุนเอเอสทีวี เอเอสทีวี ไม่ให้จอดับนะคะ สามารถที่จะสมัครเช่นเคยค่ะ เป็นข่าวเอเอสทีวีของเรา รับทราบข้อมูลข่าวสาร ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงเรื่องราวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วย สามารถที่จะกด R ส่งมาที่ 4321000 เดือนละ 200 บาท ในทุกระบบ กด R นะคะ กดข้อความ พิมพ์ R กดส่งมาที่ 4321000 และเช่นเคยนะคะคุณผู้ชมสามารถที่จะร่วมแสดงความคิดเห็นในรายการได้ผ่าน SMS หน้าจอนะคะ เดี๋ยวให้โปรดิวเซอร์ขึ้นเบอร์ให้นะคะ SMS หน้าจอก็คือ พิมพ์ 1 เว้นวรรค ส่งต่อด้วยข้อความ ส่งมาที่ 4850770 หรือว่าโทรมาในเวลาที่ออกอากาศสด 02-6294433 ค่ะ

พักกันสักครู่นะคะ วันนี้กลับมาฉายเดี่ยวอีกครั้งหนึ่งสำหรับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล สักครู่เดียวค่ะ

(ช่วงที่ 2)

สนธิ ลิ้มทองกุล

สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องชาวพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และท่านผู้ชมที่กำลังดูเอเอสทีวี นิวส์ วัน อยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าท่านกำลังดูอยู่ในต่างประเทศ หรือว่าดูอยู่ในประเทศไทย ก็ดีใจครับที่ได้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้กลับมาประจำนะครับ ยกเว้นมีเรื่องสำคัญๆ จริงๆ ก็จะต้องออกมาพูดคุยกับพ่อแม่พี่น้องนะครับ

ช่วงนี้มีเรื่องบางเรื่องที่ผมก็คิดเป็นเวลานาน ว่าผมควรจะพูดเรื่องต่างๆ เหล่านี้ดีหรือไม่ เพราะการพูดของผมวันนี้ ผมกำลังพูดกับ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยตรง เป็นเวลานานมาแล้ว ตั้งแต่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ผมไม่เคยตำหนิติเตียนอะไรท่านเลย ผมสนับสนุนท่านมาตลอด ถึงแม้ว่าพันธมิตรฯ บางท่านจะมีความรู้สึกหงุดหงิดกับท่าน ผมจะเป็นคนคอยพูดตลอดเวลาว่าให้อดทนเอาไว้ ให้กำลังใจท่านมาตลอด

วันนี้เป็นวันที่ผมจำเป็นจะต้องเตือนท่านอย่างจริงจัง แล้วก็ไม่ได้เตือนท่านแบบให้กำลังใจอีกต่อไป แต่จะเตือนแบบกัลยาณมิตร ว่าถ้าท่านไม่เชื่อผมในวันนี้ ท่านกำลังนำประเทศไปสู่หายนะ และก็ในยุคท่านจะเป็นยุคที่ประเทศไทยเสียดินแดนเขาพระวิหารไปจริงๆ

นอกจากนั้นแล้ว ผมจำเป็นต้องเตือนท่านอีกครั้งหนึ่งว่าถ้าท่านไม่ทำอะไรลงไปอย่างจริงจังด้วยความกล้าหาญ ประเทศไทยจะไม่มีวันสงบสุข เดี๋ยวผมจะเล่าให้พ่อแม่พี่น้องฟังว่าทำไม

6 เดือนเต็มๆ ครับที่ผมไม่เคยพูดถึงท่านนายกฯ ในแง่ลบ วันนี้ผมก็ไม่ได้พูดในแง่ลบ แต่ผมจะพูดในฐานะเป็นกัลยาณมิตร ว่าท่านควรจะทำอะไรบ้างแล้วท่านไมได้ทำ ไม่พูดไม่ได้ครับ ผมรู้ว่าพี่น้องหลายๆ คนมีความรู้สึก ยังรักและเชียร์คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยู่ ผมก็ยังรักและเชียร์อยู่ แต่รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี วันนี้ไม่เตือนท่านอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้แล้วครับ

เรื่องแรกที่ผมจะเตือนท่าน คือความล้มเหลวทุกประการ ของท่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ คุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีท่านล้มเหลวอย่างไร วันนี้วิกฤตของชาติ มีอยู่ 2 3 4 วิกฤต แต่ประชาชนยังไม่รู้ซึ้งถึงวิกฤตเหล่านี้ ผมยกตัวอย่างให้ฟัง การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สมรู้ร่วมคิดกับคุณจตุพร พรหมพันธุ์ คุณวีระ มุสิกพงศ์ และคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ดำเนินการที่จะล่ารายชื่อประชาชนเป็นล้านคนเพื่อถวายฎีกาให้กับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เรื่องนี้คนที่มีปัญญาอย่างผม ท่านนายกฯ หรือ อ.เจิมศักดิ์ หรือหลายต่อหลายคนก็บอกว่า มันทำไม่ได้ และก็กล่าวหาและต่อว่ากลุ่มต่างๆ พวกนี้ ว่ามันเล่นการเมืองกับสถาบันกษัตริย์ แม้กระทั่งท่านนายกฯ เอง ท่านก็ให้สัมภาษณ์ชัดเจน ว่าไม่ควรที่จะทำเช่นนั้น รัฐมนตรีบางท่านก็ให้สัมภาษณ์อย่างชัดเจน แต่ผมยังไม่เห็น สื่อมวลชนที่อยู่ในการบริหารงานของท่านรัฐมนตรีสาทิตย์ วงศ์หนองเตย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่อง 11 หรือช่อง 9 ดำเนินการอะไรเป็นรูปธรรม เป็นเรื่องเป็นราวที่จะอธิบายให้กับประชาชนฟังว่า ทำไมถึงทำไม่ได้ และนี่คือการเล่นการเมือง เอาการเมืองมาบีบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

พี่น้องครับ เราย้อนกลับมาพูดเรื่องนี้สักนิดหนึ่งตั้งแต่ต้น การถวายฎีกาขออภัยโทษ คนต้องเข้าไปรับโทษเสียก่อนถึงจะยื่นถวายฎีกาขออภัยโทษได้ และคนขอถวายฎีกาขออภัยโทษนั้น ต้องเป็นผู้ต้องโทษคนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะต้องเป็นคนซึ่งเดินเรื่อง ไม่ใช่ให้ตัวแทนมาแล้วไปล่ารายชื่อ ถ้าอย่างนั้นแล้วผมอีกหน่อยมีเงินสักหมื่นล้าน แสนล้าน ผมต้องโทษอะไร ผมก็จ้างประชาชนคนละ 1,000 บาท ให้ลงชื่อเพื่อขอถวายฎีกาพระเจ้าอยู่หัว มีเงินเสียอย่างก็ไม่ผิด

แล้วเขาทำไปทำไมในเมื่อเขารู้ว่า มันยังไงก็ไม่ได้การอภัยโทษแน่ เขาทำเพราะว่าการเมือง จะเอาการเมืองไปเล่นงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพราะเมื่อทำไม่ได้แล้วเนี่ย สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เมื่อไม่ได้สำเร็จผล เมื่อไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มีประสิทธิผล เขาก็จะพูดทันที เขาจะพูดทันทีเลยว่าเรื่องนี้พระเจ้าอยู่หัวไม่ให้ความยุติธรรมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เห็นหรือยังพี่น้อง โดยที่ฝ่ายซึ่งลงชื่อไม่เข้าใจที่มาที่ไป ว่าโดยหลักการแล้วเขาไม่ทำกันแบบนี้ คุณทักษิณต้องกลับมาติดคุกก่อน เมื่อติดแล้ว เข้าไปติดแค่อาทิตย์แรกก็สามารถที่จะร่างหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษได้ แล้วก็มีประชาชนมาสนับสนุนอีก 1 ล้านคน 2 ล้านคน 10 ล้านคน เท่าที่คุณมีเงินจะไปจ้าง นั่นย่อมทำได้ แต่ไม่ใช่วิธีที่ไปเสวยสุขอยู่ที่ดูไบ แล้วเรียกลูกน้องให้บินไปที่ดูไบ แล้วก็สั่งให้เดินเกมแบบนี้

คุณทักษิณไม่ผิด ทำไมเขาถึงไม่ผิด ที่เขาไม่ผิดเพราะว่าเขาจำเป็นต้องดิ้นรน เพราะเขาเปิดศึกสงครามกับชาติบ้านเมือง เขาเปิดศึกสงครามกับสถาบันกษัตริย์ ปากเขาบอกว่าเขาจงรักภักดี แต่ว่าลับหลังเขาแอบให้ลิ่วล้อเขารบกับสถาบันกษัตริย์ตลอดเวลา คุณทักษิณไม่ผิด เพราะเป็นสิทธิ์ในการต่อสู้ของเขา แต่คุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ผิด ท่านนายกรัฐมนตรีท่านก็ผิด คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในเมื่อท่านรู้ว่านี่คือเกมของคุณทักษิณ ทำไมท่านไม่ให้สื่อมวลชนที่อยู่ในกำกับดูแลของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ไม่ใช่ชี้แจง ต้องออกมาทั้งรายการ ตลอดเวลา หรือว่าเรียกช่อง 3 ซึ่งเป็นคู่สัญญาช่อง 9 ออกมา แล้วก็บอกไอ้บรรดานักเล่าข่าวตอนเช้าที่โกหกทั้งหลาย บอกคุณประวิทย์ มาลีนนท์ เจ้าของช่อง 3 บอกเรื่องนี้ที่มาขอถวายฎีกานี่เป็นการเล่นการเมืองกับพระเจ้าอยู่หัว ขอให้พวกคุณช่วยเอาเรื่องนี้มาพูดเพื่อให้ประชาชนเข้าใจหน่อยว่าทำไม่ได้ นอกจากคุณทักษิณจะกลับมาติดคุกเสียก่อนแล้วค่อยมาขอพระราชทานอภัยโทษ

ช่อง 11 รายการอะไรก็ตามที่คุณจัดตลอดเวลา ต้องเอาผู้รู้ เอา อ.เจิมศักดิ์ ไปพูด เอาหลายๆ คนซึ่งไม่เห็นด้วยกับวิธีการของคุณทักษิณมาอธิบาย ช่อง 9 รายการต่างๆ ก็ต้องมาออก ขอความร่วมมือไปยังช่อง 7 ช่อง 5 ช่องทหารก็ต้องออก 3, 5, 7, 9, 11 จำเป็นที่จะต้องโหมกระพือเรื่องนี้เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ คนรัก พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มี แต่บางคนก็ไม่ได้รักแบบงมงาย ถ้าเอาเหตุผลนี้อธิบายให้เขาฟัง เขาก็จะเข้าใจ เขาก็จะไปบอกเพื่อนฝูงของเขา เฮ้ย อย่าไปเซ็นชื่อถวายฎีกานะ ในการขอพระราชทานอภัยโทษนั้น นักโทษจะต้องมาติดคุกก่อน นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ ท่านนายกฯ ต้องทำ คุณอภิสิทธิ์ต้องทำ คุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ต้องทำ ทำไมถึงไม่ทำ แล้วคุณปล่อยจนกระทั่งเขาล่ารายชื่อเสร็จเรียบร้อย ประชาชนที่ลงชื่อไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะรักทักษิณ เอ้าลงชื่อขอให้พระเจ้าอยู่หัวอภัยโทษ พวกนี้ก็รักพระเจ้าอยู่หัวทั้งนั้น ก็หวังพึ่งพระเจ้าอยู่หัว แต่พระองค์ท่านอภัยโทษให้ได้อย่างไร เมื่ออภัยโทษให้ไม่ได้ ไอ้พวกนี้ก็เริ่มพลิกแล้วสิ บอก เห็นไหมว่าสถาบันกษัตริย์ไม่ชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สร้างความร้าวฉาน สร้างความเข้าใจผิดให้พสกนิกร

ทั้งหมดนี้ผมไม่ตำหนิคุณทักษิณ แต่ผมต้องตำหนิคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แล้วผมต้องตำหนิคุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย คุณมีอำนาจอยู่ในมือ ทำไมคุณไม่ทำเรื่องพวกนี้ คุณต้องทำ คุณกำลังจะปล่อยให้มันฉิบหายต่อไปอย่างนี้ไม่ได้ คุณกำลังจะปล่อยให้ประชาชนมีโอกาสเข้าใจพระเจ้าอยู่หัวผิดไม่ได้เด็ดขาด นี่คือความล้มเหลวซึ่งผมรับไม่ได้ วันนี้ผมจำเป็นต้องมาพูดเรื่องนี้ คุณเอานักวิชาการมาพูด คุณเอาข้าราชการมาพูด คุณเอา อ.เจิมศักดิ์ มาพูด คุณเอาผมมาพูด คนนั้นมาพูด ไม่มีประโยชน์ 3, 5, 7, 9, 11 ต้องออกไปพร้อมกันเลยเป็นชุด ต้องอธิบาย พวกนักเล่าข่าว ไม่ว่าจะเป็นสรยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็น 4 สาว 5 สาว หรือไม่ว่าจะเป็นพวกไหนก็ตามที่ลอยหน้าลอยตาอยู่หน้าจอ จะต้องได้รับคำชี้แจง และคำขอร้อง เจ้าของสถานี ไม่ว่าจะเป็นผู้ได้รับสัมปทาน ช่อง 3 รับมาจากช่อง 9 ช่อง 7 รับมาจากช่อง 5 ช่อง 5 ก็เป็นของทหารที่จงรักภักดีอยู่ไม่ใช่หรือ ต้องออกมาพร้อมกัน จัดรายการออกมาตลอดเวลา วิทยุกรมประชาสัมพันธ์ คลื่นวิทยุอันโน้นอันนี้ ต้องออกมา เพราะว่างานนี้คุณอย่าทำเป็นเล่นไป งานนี้คืองานทำลายพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยตรง โดยที่ประชาชนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ไร้เดียงสา บริสุทธิ์ และผมเชื่อว่าประชาชนเกือบทั้งหมดก็ยังเทิดทูนสถาบันกษัตริย์ และรักพระเจ้าอยู่หัวฯ หวังว่าให้พระเจ้าอยู่หัวฯ ช่วยทักษิณ แต่ถ้าเขารู้ว่า วิธีนี้พระเจ้าอยู่หัวฯ ช่วยให้ไม่ได้ เพราะว่าการอภัยโทษจะเกิดก็ต่อเมื่อมีการมารับโทษแล้ว เขาก็จะเข้าใจ นี่คุณกำลังจะทำให้ประชาชนเข้าใจพระเจ้าอยู่หัวฯ ผิด เพียงเพราะว่าพวกคุณทำงานกันไม่เป็นเลยแม้แต่นิดเดียว และพวกคุณไม่มีความกล้าหาญเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ได้นะครับ ท่านนายกฯ คุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ก็ไม่ได้

วันนี้ประชาชนยังไม่ได้รับข่าวสารข้อมูลตามที่ประชาชนควรจะได้รับ 6 เดือนเต็มๆ แล้ว คุณนั่งทำอะไรกันอยู่ ผมให้โอกาสคุณ ผมเห็นใจคุณ คุณมีแต่ห่วงอย่างเดียวว่า คุณเนวิน ชิดชอบจะโกรธคุณแค่นั้นเชียวหรือ มีอยู่แค่นั้นหรอชีวิตคุณ ชาติบ้านเมืองมันอยู่ที่ไหน สถาบันกษัตริย์มันอยู่ที่ไหน ก็ไหนเข้ามาตอนแรกก็พูดอยู่ชัดๆ เลยไม่ใช่หรือ ว่าเข้ามาจะเทิดทูนสถาบันกษัตริย์ จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดของคนที่มุ่งทำลายสถาบันกษัตริย์ กระบวนการถวายฎีกาล่าล้านชื่อ นี่คือกระบวนการของการทำลายสถาบันกษัตริย์อย่างแนบเนียนที่สุด แค่นี้คุณยังมองไม่ออกเชียวหรือ ผมขอเถอะครับ ขอให้กล้าหาญกว่าเก่า คุณสาทิตย์คุณบริหารช่อง 11 ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ได้มีภูมิปัญญาอะไรเลยที่เล่าให้ฟัง ว่าชาติบ้านเมืองทุกวันนี้มันล่มจมเพราะอะไร หรือว่าวันนี้ คุณเนวิน ชิดชอบ สำคัญไปกว่าพระเจ้าอยู่หัวฯ ซะแล้ว ผมจำเป็นต้องพูดเรื่องนี้ ผมไม่พูดไม่ได้

เรื่องที่สอง ก็เรื่องเดียวกันอีก ผมจะขอร้องให้ท่านนายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมา 1 ชุด โดยที่ท่านนายกฯ เป็นประธาน คุณกษิต ภิรมย์ เป็นเลขานุการ คณะกรรมการนี้ คณะกรรมการชุดนี้ควรจะเป็นผู้ซึ่งมีองค์ความรู้ มีภาคประชาชนเข้ามาเกี่ยวข้อง จะเอา ส.ส., ส.ว.เข้ามาไม่เป็นไร แต่ไม่ต้องใหญ่ คณะกรรมการชุดนี้คือ คณะกรรมการบริหารจัดการข้อพิพาทเรื่องเขาพระวิหาร สร้างความโปร่งใสให้กับประชาชน เดี๋ยวผมจะเล่าให้ท่านนายกฯ ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น

ก่อนที่ผมจะเล่าให้พ่อแม่พี่น้องฟัง ผมจะให้ดูสักนิดหนึ่ง แล้วพ่อแม่พี่น้องจะเห็นได้ชัด ท่านนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท่านรองนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส่งสัญญาณเรื่องเขาพระวิหารไม่เหมือนกัน นายกรัฐมนตรี ท่านนายกฯ ท่านเป็นคนที่อภิปรายโจมตีรัฐบาลชุดนายสมัคร สุนทรเวช นายนพดล ปัทมะ อย่างหนักที่สุดในปีที่แล้ว แต่พอมาปีนี้พอท่านเป็นรัฐบาล ท่านมีความเห็นไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะระหว่างตัวท่านนายกฯ กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผมไม่ได้พูดเลื่อนลอย ผมเอาหลักฐานมาให้ดู 26 มิถุนายน 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ท่านนายกฯ กล่าวระหว่างเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ท่านพูดบอกว่า "กรณีสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาระบุว่า จะไม่เจรจากับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกร่วมกัน โดยจะคุยเฉพาะการถอนทหารออกจากบริเวณพื้นที่ทับซ้อนเท่านั้น" ท่านนายกฯ ว่าอย่างนี้ ท่านนายกฯ บอกว่า "นายสุเทพไปย้ำถึงจุดยืนของไทยที่ไม่ต้องการให้การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก" สรุปง่ายๆ ท่านนายกรัฐมนตรีกำลังพูดบอกว่า ท่านส่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไปเพื่อไปตอกย้ำจุดยืนว่า ไม่ต้องการให้เอาปราสาทเขาพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก พี่น้องครับ ท่านนายกฯ พูดถูก ท่านพูดไม่ผิด เพราะการเอาเข้าไปขึ้นเป็นมรดกโลกนั้น แปลว่าเรายอมรับแผนที่กัมพูชา ถ้าเรายอมขึ้นทะเบียนมรดกโลกร่วมกับกัมพูชา เท่ากับว่าเราไปยอมรับแผนที่ของกัมพูชาว่าแผนที่ที่เขาเอามานั้นเป็นแผนที่ที่ถูกต้อง และแผนที่ถ้าเรายอมรับตรงนั้น เราจะสูญเสียพื้นที่ไปอีกล้านกว่าไร่ นี่คือสัญญาณที่ท่านนายกฯ พูดชัดเจน

พี่น้องครับ จำให้แม่นๆ นะครับ ท่านนายกฯ พูดอย่างนี้ นายสุเทพ ไปกัมพูชา ไปย้ำถึงจุดยืนของไทยที่ไม่ต้องการให้การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก

26 มิถุนายน วันเดียวกันที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์ว่า ผมคงไม่เอาเรื่องอะไรไปพูดให้เป็นปัญหาก็แล้วกัน และท่านนายกฯ ไม่ได้ให้ผมไปพูดเรื่องปราสาทพระวิหาร แต่ท่านให้ผมไปพูดจาให้เป็นมิตรและไมตรีต่อกัน ใครโกหกใครกันแน่ นายกฯ โกหกประชาชน หรือว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ โกหกประชาชน ก็คำพูดมีอยู่ชัดเจนนี่ ท่านพูดเลยบอกว่านายสุเทพไปกัมพูชานั้นไปย้ำถึงจุดยืนของไทยที่ไม่ต้องการให้การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก แต่นายสุเทพ บอกว่านายกฯ ไม่ได้ให้ไปพูดอย่างนั้น นายกฯ ให้ไปสร้างมิตรไมตรีต่อกัน

จุดยืนของนายกฯ ถูกต้องแล้ว เพราะการที่เราย้ำว่าเราไม่ต้องการเอาขึ้นทะเบียนมรดกโลก เพราะเราไม่ยอมรับการเป็นมรดกโลก เท่ากับว่าเราไม่ยอมรับแผนที่ของกัมพูชา ซึ่งก็ตรงกับที่นายกฯ เคยอภิปรายในฐานหัวหน้าฝ่ายค้านในสภาฯ ที่ต่อกรณีของนายนพดล ปัทมะ และนายสมัคร สุนทรเวช สมัยที่เป็นฝ่ายค้าน นายกฯ ไม่ได้เปลี่ยนจุดยืนตรงนี้ แล้วนายสุเทพเอาตรรกะตรงไหนมาพูดตรงนี้

ความขัดแย้งตรงนี้สัญญาณที่ต่างกัน เป็นไปได้ไหมที่นายสุเทพพูด วันที่ 27 นายสุเทพให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเขมร พูดยังไงรู้ไหม อย่าไปคิดว่าเขาพระวิหารจะต้องมีอะไรโต้แย้งกันระหว่างไทย-กัมพูชา โต้แย้งสิ ไม่โต้แย้งได้ยังไง ก็ไทยสู้มากันตั้งแต่ต้นว่าคุณใช้แผนที่ฝรั่งเศส เราไม่ยอมรับ เรายอมรับแผนที่ของเรา นี่คือจุดโต้แย้งมาตั้งแต่แรก และที่นายกฯ พูด บอกว่าไม่ต้องการให้เขาพระวิหารเข้ามาขึ้นทะเบียนมรดกโลก ก็แสดงว่านายกฯ โต้แย้งกับกัมพูชาแล้ว ว่าการที่คุณเอาไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกนั้นเราไม่เห็นด้วย เหตุผลที่เราไม่เห็นด้วยเพราะคุณไปใช้แผนที่ของคุณ

นี่ แล้วนายสุเทพยังพูดต่อ เพราะศาลโลกตัดสินมาตั้งหลายสิบปีแล้ว ว่าเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา นายสุเทพพูดนะ การที่เราไปค้านเรื่องการนำเขาพระวิหารขึ้นทะเบียนมรดกโลก คิดว่าจะไม่เป็นปัญหา เอ้า ไม่เป็นปัญหาได้ยังไง ก็เป็นปัญหาไงล่ะ แต่คุณเองท่านรองนายกฯ กลับพูด เมื่อกี้นี้วันที่ 26 ท่านบอกว่าไม่ได้เอาเรื่องนี้ไปพูด

เอาล่ะ พี่น้อง พี่น้องเห็นหรือยัง ยังมีเรื่องอีก เดี๋ยวผมจะพูดอีกนิดหนึ่ง เพื่อที่จะไม่ให้พี่น้องหลายคนสับสน ผมจะสรุปเรื่องเขาพระวิหารง่ายๆ พี่น้องจำได้ไหม ก่อน พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี พ.ศ.2544 ประเทศไทย ชาติบ้านเมืองมีแต่ความสงบสุข ปัญหาความขัดแย้งเรื่องพรมแดนระหว่างไทย-กัมพูชา เคยขัดแย้งมายังไงก็ขัดแย้งกันเหมือนเดิม ไม่มีใครเสียเปรียบ ไม่มีใครได้เปรียบ ยังคงยันกันอยู่ เพราะต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิในพื้นที่ แล้วก็อ้างสิทธิในพื้นที่ทางทะเล ซึ่งโต้แย้งกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2515

3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น นานๆ ทีถึงจะมีโจรก่อการร้ายเข้าไปปล้นสะดม ขู่เจ้าของสวนยาง ขอเรียกค่าคุ้มครอง นานๆ ก็จะมีการยิงกันตายสักที 1-2 ศพ ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องขัดผลประโยชน์ ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องค้าของเถื่อน เรื่องยาเสพติด

ตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ปี 2544 ชาติบ้านเมืองฉิบหายหมด ไทยเริ่มที่จะเริ่มสูญเสียดินแดน

พี่น้องที่ร่วมสู้กันที่สะพานมัฆวานฯ พี่น้องยังจำได้ไหม ชมัยมรุเชฐ เราอยู่ที่ชมัยมรุเชฐ แล้วก็มีคำประกาศว่านายนพดล ปัทมะ นายสมัคร สุนทรเวช รัฐบาลไทยได้ออกแถลงการณ์ร่วมกับกัมพูชา เห็นชอบที่จะให้กัมพูชายื่นจดทะเบียนเขาปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก พี่น้องจำได้หรือเปล่า แล้วพวกเราลุกขึ้นมาสู้คัดค้าน ทำไมเราถึงคัดค้าน เราคัดค้านก็เพราะว่าเราบอกว่า ถ้าจะยื่น ต้องยื่นพร้อมกัน เอ็งยื่นกูยื่น ทำไมต้องเอ็งยื่นแล้วกูถึงต้องยื่น ขอประทานโทษที่ต้องใช้คำพูดแบบนี้ ก็เพราะว่าเวลาเอ็งยื่น เอ็งใช้แผนที่ฝรั่งเศส เวลากูยื่น กูใช้แผนที่ที่ถูกต้อง เมื่อต่างฝ่ายต่างยื่นแล้วแผนที่ไม่เหมือนกัน คณะกรรมการมรดกโลกเขาก็จะต้องบอกว่าให้กลับไปตกลงกันก่อน เพราะฉะนั้นการยื่นเข้ามรดกโลกนั้นให้ยุติก่อน ถูก ไม่ถูกพี่น้อง นั่นคือจุดที่เราสู้ตอนนั้น จุดที่เราสู้ว่าทำไมกระทรวงการต่างประเทศ รัฐบาลไทย ถึงไม่ช่วงชิงและก็ยื่นปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกเช่นกัน หรืออีกนัยหนึ่งเรายื่นเพื่อคัดค้านว่าที่คุณยื่นนั้น แผนที่คุณผิด แผนที่ผมถึงถูก แต่ไม่ยื่น ดันออกแถลงการณ์ร่วม พี่น้องจำได้ไหม แล้วให้เขายื่นฝ่ายเดียว

เมื่อเขายื่นฝ่ายเดียวแล้ว เราไม่ได้คัดค้าน เท่ากับเรายอมรับว่าแผนที่ที่นายฮุน เซน เอาไปใช้นั้น เขมรเอาไปใช้นั้นถูกต้อง ซึ่งถ้าแผนที่นั้นถูกต้องมันจะกินเนื้อที่ในประเทศไทยไปอีกมหาศาล มันจะกินไปถึงไหนพี่น้องรู้หรือเปล่า มันจะกินเนื้อที่ไป 7 แห่งใน 3 จังหวัด เราจะสูญเสียพื้นที่อุทยานธรรมชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 7 แห่ง ใน 3 จังหวัด อุบลราชธานี 3 แห่ง ศรีสะเกษ 3 แห่ง สุรินทร์ 1 แห่ง ต่อเนื่องไปอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ซึ่งจะต่อเนื่องมาเลยจากอุทยานเขาพระวิหาร รวมเบ็ดเสร็จ 1.5 ล้านไร่ ผมเตือนรองฯ สุเทพ ผมเตือนทหาร ผมเตือนรัฐบาลชุดนี้ ถ้าเห็นว่าการสูญเสียพื้นที่ 1.5 ล้านไร่ เป็นเรื่องเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลที่มีนักการเมืองเป็นผู้บริหาร มันเป็นเรื่องเล็กสำหรับพวกคุณแล้ว สำหรับผมแล้วมันเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิต ผมยอมให้ไม่ได้ ที่ผมยอมให้ไม่ได้ 2 เรื่อง

เรื่องแรก ในฐานะคนไทย ถึงจะเป็นลูกเจ๊กก็รักชาติไทยมากกว่าพวกคุณเยอะ ตารางนิ้วนึงผมยังไม่ยอมเลย แล้วจู่ๆ จะเสียถึง 1.5 ล้านไร่ เพียงเพราะความโง่เง้าเบาปัญญา หรือความที่คุณแอบมีผลประโยชน์ใดๆ หรือไม่ผมก็ไม่รู้ ทำให้คุณไม่ได้คัดค้าน และนี่คือเหตุผลว่า ทำไมเราถึงคัดค้านนายสมัคร สุนทรเวช คัดค้านนายนพดล ปัทมะ ถึงไหนถึงกัน แล้วพี่น้องครับ ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ ครับ ท่านรองนายกฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ ครับ ท่าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ครับ ท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ครับ เรื่องนี้ศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ตัดสินออกมาแล้วว่า แถลงการณ์ไทย-กัมพูชา นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย จากวันที่รัฐบาลชุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี เข้ามาเป็นรัฐบาล จนถึงวันนี้ 6 เดือนเต็มๆ ผมยังไม่เคยเห็นรัฐบาลชุดนี้แสดงจุดยืนต่อกัมพูชา ต่อสหประชาชาติ ต่อคณะกรรมการมรดกโลก ว่าแถลงการณ์ที่ออกโดย นายสมัคร สุนทรเวช ครั้งนั้นผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นขอยกเลิกแถลงการณ์นั้น ทำไมถึงไม่ทำกัน ทั้งๆ ที่ศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ ก็ชี้แล้ว ทำไมถึงไม่ทำกัน เราไม่ได้มาพูดเพียงเพราะว่า เป็นรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำถึงมาพูด แต่เรามาพูดเพราะว่าเรากำลังจะบอกชาวโลก บอกเฮ้ย ศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญของอั๊วะบอกแล้วว่าแถลงการณ์ของรัฐบาลชุดสมัครนั้นผิด เพราะฉะนั้นแล้วขอยกเลิกแถลงการณ์อันนั้น เมื่อขอยกเลิกแถลงการณ์อันนั้น เราจะไม่ยอมรับมติมรดกโลกเป็นอันขาด เห็นหรือยังพี่น้อง 6 เดือน ทำไมไม่ปฏิเสธแถลงการณ์อันนั้น

พี่น้องเห็นรึยัง มันไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไปแล้วพี่น้อง มันไม่ใช่เรื่องฉ้อราษฎร์บังหลวง มันไม่ใช่เรื่องของกินส่วนต่างของรถเมล์ มันไม่ใช่เรื่องของการสร้างสนามบินใหม่ แล้วกินเปอร์เซ็นต์ค่าก่อสร้าง มันไม่ใช่เรื่องของงบค่าก่อสร้างของงบประมาณไทยเพื่อไทยให้ไทยเข้มแข็ง 1.5 ล้านล้านบาท มันมีมากกว่านั้น วันนี้มันพูดถึงดินแดนอีก 1.5 ล้านไร่ของประเทศไทย ซึ่งจะต้องถูกฮุบไปด้วยการกระทำที่โฉดเขลาและโง่เขลาเบาปัญญา

พี่น้องครับเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก พี่น้องพันธมิตรฯ ที่ดูผมมาตลอด ผมไม่เคยออกมาพูดอย่างนี้เป็นเวลานานแล้ว 6 เดือนของรัฐบาลชุดอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผมให้โอกาสเขามาตลอด พูดก็พูดเถอะ ผมเป็นคนหนึ่งใน 5 แกนนำ ที่พยายามพูดอธิบายให้กับแกนนำทุกคนฟังว่า ให้โอกาสเขาทำงานเถอะ แต่วันนี้ผมทนไม่ได้แล้ว ผมต้องออกมาเตือน คุณจะรักใครหลงใครผมไม่ว่า แต่เรื่องชาติบ้านเมืองจะมารักมาหลงกันไม่ได้แล้ว ไม่ได้เด็ดขาด

พี่น้องครับพักสักครู่หนึ่ง แล้วประเดี๋ยวเราจะอธิบายให้ฟังว่า เรื่องนี้มันสำคัญต่อชาติบ้านเมืองอย่างไร มันสำคัญต่ออนาคตลูกหลานเราอย่างไร มันสำคัญต่อสถาบันกษัตริย์อย่างไร แล้วมันสำคัญต่อความถูกต้องทางกฎหมายอย่างไร และมันสำคัญอย่างไรถ้าเรายึดหลักนิติรัฐอย่างที่ ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ พูดมาตลอดเวลาตั้งแต่ท่านขึ้นมาเป็นนายกฯ สำคัญมากพี่น้อง มันสะท้อนให้เห็นว่า คนไทยวันนี้ยังมีจุดยืนที่ถูกต้องอยู่รึเปล่า ประเทศไทยยังสามารถยืนอย่างสง่าผ่าเผยในสังคมโลกอยู่ได้หรือเปล่า หรือประเทศไทยนั้นจะต้องพินาศฉิบหายไปเพราะนักการเมืองที่ฉ้อฉล หรือนักการเมืองที่บริหารงานไม่เป็น พักสักครู่ครับเดี๋ยวเราค่อยกลับมา

(ช่วงที่ 3)

ท่านผู้ชมครับ กลับมาสู่ช่วงสุดท้ายของรายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผมจะสรุปเรื่องเขาพระวิหารอย่างง่ายๆ ตามภาษาชาวบ้าน เพื่อให้พ่อแม่พี่น้องเข้าใจ

เขาพระวิหารนั้นเป็นการทะเลาะเบาะแว้งกันมานานแล้ว ระหว่างไทยกับกัมพูชา จริงอยู่ สิ่งที่คุณสุเทพพูดนั้นไม่ผิด ที่คุณสุเทพบอกว่าเขาพระวิหารนั้นเป็นของกัมพูชามาตั้งนานแล้ว โดยที่ไทยแพ้คดีศาลโลก แต่คุณสุเทพพูดความจริง 50% อีก 50% คุณสุเทพไม่ได้พูด อีก 50% น่าประหลาดใจคุณอภิสิทธิ์เป็นคนพูดแทนคุณสุเทพ แต่ทำไมคุณสุเทพถึงไม่เข้าใจตรงนี้ คุณอภิสิทธิ์พูดว่าอย่างไร รู้ไหม พูดบอกว่า แต่เรายังสงวนสิทธิ์ ไม่ยอมรับคำพิพากษา แต่เราไม่ยอมรับตรงที่ว่า เรามีสิทธิ์ที่จะอุทธรณ์และสู้อีกเมื่อมีข้อมูลใหม่เข้ามา นะครับ เมื่อมีข้อมูลใหม่เข้ามา เพราะฉะนั้นแล้ว การที่คุณสุเทพพูดเพียงครึ่งเดียว เหมือนคุณสมัคร คุณสุเทพวันนี้พูดเหมือนคุณสมัครพูด เหมือนพวกเสื้อแดงพูดไม่มีผิดเลย ที่พูดออกมาบอกว่า โอ๊ย เขาพระวิหาร มันไม่ใช่ของเราแล้ว มันเป็นของกัมพูชามาตั้งนานแล้ว แต่คุณสุเทพไม่ได้พูดอีกครึ่งหนึ่ง ที่บอกว่า ไม่ใช่ ถึงแม้เราจะแพ้คดีในศาล แต่ว่าเราไม่ยอมรับ เราขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะเอาข้อมูลใหม่เข้าไปเสนอ ตรงนี้คุณสุเทพไม่ยอมพูด

เมื่อมันเป็นเช่นนี้แล้ว เขาพระวิหารก็เลยประจันหน้ากันระหว่างไทย-กัมพูชา มาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว สมัยลอนนอน สมัยสีหนุ มาจนกระทั่งสมัยฮุน เซน สมัยเฮง สัมริน สมัยพอล พต มีมาตลอด ไม่ใช่เรื่องใหม่ในประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะว่ายึดถือแผนที่กันคนละฉบับ ถ้าพูดถึงแผนที่แล้ว พี่น้อง เราก็มีข้อมูลข้อเท็จจริงนะครับ เรามีข้อมูลข้อเท็จจริงที่ชัดเจนเช่นกันนะครับว่า เรานั้นได้มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าฝรั่งเศสได้มอบพื้นที่คืนมาให้ประเทศไทย แล้วพื้นที่คืนมาให้ประเทศไทยนั้น ชี้ชัดเจนเลยนะครับว่าแผนที่ของเรานั้นไม่ผิดนะครับ ตรงนี้เราก็มี แต่ว่ารัฐบาลไม่ได้จริงจัง ทุกยุคทุกสมัยไม่ได้จริงจังในการที่จะเอาเรื่องนี้เข้าไปต่อสู้ จนกระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี มีการแอบไปเจรจากับฮุน เซน เพราะตอนนั้นผลประโยชน์ของน้ำมันในอ่าวไทยมีมากขึ้น ถึงกับมีการยอมรับว่าแผนที่ของฝรั่งเศสนั้น ที่กัมพูชาใช้นั้น ไทยเริ่มยอมรับอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อยอมรับอย่างไม่เป็นทางการแล้ว เขาก็ลากแผนที่อันนี้ลงไปในทะเลด้วย ก็เลยทำให้หลายๆ พื้นที่ซึ่งเป็นของไทย แล้วเป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์ของแก๊สและน้ำมัน กลายเป็นของกัมพูชาไป แต่ว่าไทยยังไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ ตอนนั้นเป็นการยอมรับอย่างไม่เป็นทางการ

พี่น้องจะเห็นชัดว่าแผนที่ที่พี่น้องดูในโทรทัศน์อันนี้ เป็นแผนที่ที่ผมเคยเอาไปพูดบนเวทีมาเป็นเวลาปีๆ แล้ว ไม่ใช่เพิ่งพูด แผนที่ที่แบ่งเกาะกูด ทั้งๆ ที่ในหนังสือสำคัญที่เขายกพื้นที่คืนให้เรา ซึ่งฝรั่งเศสยกคืนมาให้นั้นมีลงหลักฐานชัด ว่าเขายกเกาะกูดคืนให้เรา เพราะฉะนั้นถ้ากัมพูชาใช้แผนที่ฝรั่งเศส ก็หมายความว่าเกาะกูดก็ยังคงเป็นของเราอยู่ แต่เนื่องจากว่าเขามาลากเส้นใหม่ในแผนที่ที่เขาพระวิหารที่ทะเลาะกัน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็เลยมีกระบวนการสมรู้ร่วมคิดของคนขายชาติ ที่ร่วมมือกับเขมร ฮุน เซน เพื่อที่จะเอากัมพูชานั้น คือปราสาทเขาพระวิหาร เข้าไปจดทะเบียนมรดกโลก

อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่าการจดทะเบียนมรดกโลกนั้นเคยพยายามมาหลายครั้ง ก่อน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่สำเร็จ ที่ไม่สำเร็จเพราะว่าไทยค้าน ไทยยื่นบอกว่าแผนที่ที่คุณใช้จดทะเบียนนั้นไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่ คณะกรรมการมรดกโลกซึ่งเป็นพวกของกัมพูชาก็ไม่รู้จะตัดสินอย่างไร เพราะกติกามรดกโลกเขามีบอกว่า ถ้าพื้นที่ตรงไหนเป็นพื้นที่ทับซ้อนและมีความขัดแย้งและยังมีสงครามกันอยู่ ขอให้ยุติในการยื่นมรดกโลก

จนกระทั่งในที่สุดหลังจากที่รัฐบาลชุด พล.อ.สุรยุทธ์ ไปแล้ว รัฐบาลชุดนายสมัคร สุนทรเวช มาเป็นนายกรัฐมนตรี ตรงนั้นล่ะที่กัมพูชายื่นเพื่อที่จะขอจดทะเบียนมรดกโลกแต่ผู้เดียว และตรงนั้นแหละคือจุดที่พันธมิตรฯ ประท้วง ที่ผมประท้วงบนเวทีเป็นคนแรก ที่ผมบอกกับทุกคน บอกว่า ไทยทำไมถึงไม่ขอยื่นร่วม การยื่นร่วมตอนนั้นเราก็ใช้แผนที่เรา ถ้าเรายื่นร่วมตอนนั้นเขาก็จะบอกว่า เฮ้ย แผนที่ไม่เหมือนกันเพราะฉะนั้นเอากลับมาคุยกันใหม่ เรื่องก็ยังคงคาราคาซังอยู่เหมือนเดิม แต่เนื่องจากว่ามีเจตนาชั่วร้าย ต้องการขายชาติ ขายบ้าน ขายเมือง ยกพื้นที่ทางทะเล ซึ่งมันจะเกี่ยวข้องกับแผนที่ของเขมรถ้าเรายอมรับมัน แผนที่เขมรจะลากเอาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเป็นของเขมรไป ทำให้เขมรได้รับผลประโยชน์จากน้ำมัน แก๊สธรรมชาติ และคนชั่วๆ บางคนก็จะไปลงทุนกับเขมร เพื่อขุดพลังงานด้านนี้เพื่อเอามาเข้ากระเป๋าตัวเอง ในที่สุดรัฐบาลชุดสมัคร สุนทรเวช ก็กระทำการซึ่งเป็นที่น่าสงสัย ออกแถลงการณ์ร่วมกัมพูชา ยอมรับให้กัมพูชายื่นเข้าสู่มรดกโลกแต่ผู้เดียว

พี่น้องครับ คนที่ทรยศต่อชาติบ้านเมือง ทรยศต่อแผ่นดินนั้นไม่มีวันได้ตายดีหรอกครับ แต่พี่น้องจำไว้ คนที่ต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมือง เพื่อแผ่นดินนั้นไม่ตาย ให้จำเอาไว้ คำพูดผมเป็นคำพูดที่ศักดิ์สิทธิ์

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว รัฐบาลชุดพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นฝ่ายค้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลุกขึ้นเล่นงานนายสมัคร สุนทรเวช นายนพดล ปัทมะ อยู่ในประเด็นที่ผมพูดทุกๆ ประเด็น มิหนำซ้ำยังมีมากกว่านั้นซะอีก พอรัฐบาลชุดพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาล สิ่งแรกที่ผมอยากเห็น ก็คือ ยกเลิกแถลงการณ์ร่วม และก็มีตรรกะ มีเหตุผลในการยกเลิกแถลงการณ์ร่วม แต่ก็ไม่มีการยกเลิกแถลงการณ์ร่วม ปล่อยให้แถลงการณ์ร่วมยังคงคาอยู่

พี่น้องจำได้ไหม บนเวทีพันธมิตรฯ ผมเคยพูดว่าอย่างไร ถ้ารัฐบาลที่รักชาติรักแผ่นดินจริงเข้ามา จะต้องประกาศแจ้งไปทางยูเนสโกเลย ว่าเราไม่ยอมรับการตัดสินยูเนสโกว่าเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก เหตุผลเพราะว่าเราขอยกเลิกแถลงการณ์ร่วม เนื่องจากแถลงการณ์ร่วมผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นแล้วมติยูเนสโกเราไม่ยอมรับ เพราะฉะนั้นแล้วคุณจะไปประชุมคณะกรรมการมรดกโลกร่วมอะไรผมไม่สนใจผมไม่ไปกับคุณด้วย ใช่ไหมพี่น้อง รัฐบาลชุดประชาธิปัตย์ทำรึเปล่า ไม่ได้ทำ ปล่อยให้มันเลยตามเลยไปเรื่อยๆ แล้วยังปล่อยให้ นายสุวิทย์ คุณกิตติ มาโกหกพ่อแม่พี่น้องประชาชน พี่น้องประชาชนที่อยู่ขอนแก่น นายสุวิทย์ คุณกิตติ มาตบตา ลวงโลก ลวงยังไง บินไปประชุมมรดกโลกแล้วกลับมาโม้บอกว่า เขาเลื่อนไปประชุมกุมภาพันธ์ ปี 2553

พี่น้องครับฟังผมให้ดีๆ กระบวนการ ขั้นตอนที่จะสำเร็จในเรื่องของมรดกโลกนั้น และพื้นที่รอบๆ ด้านนั้น มีทั้งหมด 16 ขั้นตอน แล้วจะเป็นไปตามขั้นตอนตลอดเวลา จะสิ้นสุดเอาจริงๆ คือประมาณ กุมภาพันธ์ 2010 เพราะฉะนั้นแล้ว ขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้ ในข้อ 16. พี้น้องจำไว้นะครับ ขั้นตอนข้อ 16 ของคณะกรรมการมรดกโลก เขาต้องการให้กัมพูชาส่งแผนบริหารจัดการที่สมบูรณ์เพื่อทรัพย์สินที่ได้รับการขึ้นทะเบียนพร้อมแผนที่แล้วให้เสร็จ ส่งไปยังศูนย์มรดกโลก ภายในกุมภาพันธ์ ค.ศ.2010 เพื่อส่งคณะกรรมการมรดกโลกในการประชุมครั้งที่ 4 ค.ศ.2010 มันเป็นไปตามระเบียบขั้นตอน เขาไม่ได้เลื่อน เพราะฉะนั้น นายสุวิทย์ คุณกิตติ โกหก นอกจากโกหกแล้ว

นายสุวิทย์ คุณกิตติ ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ยังไม่หยุดยั้งโครงการที่เกิดขึ้นสมัยรัฐบาลชุดนายสมัคร กับนายสมชาย ที่เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่รอบปราสาทเขาพระวิหารให้เป็นไปตามเงื่อนไขของมรดกโลก ยังเดินหน้าอยู่ เพราะฉะนั้น นายสุวิทย์ คุณกิตติ ก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่ผมต้องตั้งข้อสงสัยว่า สมรู้ร่วมคิดกับเขารึเปล่า ในการทำให้ไทยต้องเสียพื้นที่อีก 1.5 ล้านไร่ พี่น้องชาวขอนแก่น ให้จำเอาไว้ นี่คือคนของพวกคุณ นายสุวิทย์ คุณกิตติ เพราะฉะนั้นแล้วเป็นการโกหก นายสุวิทย์โกหก แล้วดูถูกคนไทยทั้งประเทศ แล้วยังมีหน้ากลับมาประชาสัมพันธ์ว่าตัวเองนั้นยิ่งใหญ่ สามารถเลื่อนการประชุมคุณกรรมการมรดกโลกในปีหน้าได้สำเร็จ โกหกพี่น้อง แล้วตัวเองไม่ได้ไปประชุม ไปเป็นผู้สังเกตการณ์เฉยๆ นี่คือการส่อเจตนาพิรุธผิดปกติ การปล่อยข่าวว่า คณะกรรมการมรดกโลกเลื่อนทั้งๆ ที่ไม่มีการเลื่อน เขาเป็นไปตามตารางงานที่เขาวางไว้ แสดงว่ากำลังดำเนินแผนขั้นตอนยกปราสาทเขาพระวิหาร และพื้นดินของประเทศไทยให้ฝ่ายกัมพูชาทุกประการ

การตบตาข้อที่ 2 ปากว่าตาขยิบ รัฐบาลไทย พี่น้องได้ทำหนังสือคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว ต่อคณะกรรมการมรดกโลก โดยปรากฏเป็นข่าวตามคำสัมภาษณ์ของ นายสุวิทย์ คุณกิตติ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน นายสุวิทย์พูดยังไง ผมจะอ้างให้ฟัง เขาพูดว่า "จะเดินทางไปเมืองเซบียา ในวันที่ 19 มิถุนาฯ ก่อนการประชุมมรดกโลก ครั้งที่ 33 เนื่องจากต้องการเจรจานอกรอบกับประเทศสมาชิกของคณะกรรมการมรดกโลก ยูเนสโกก่อน โดยเฉพาะตัวประธานคณะกรรมการมรดกโลกของยูเนสโก และตัวประธานในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งเป็นตัวแทนจากประเทศสเปน เพื่อแสดงให้ทราบว่า การที่คณะกรรมการมรดกโลกยินยอมให้ปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนั้น เป็นการกระทำที่ผิดรัฐธรรมนูญ หรือกฎปฏิบัติที่ทั้งยูเนสโกและคณะกรรมการมรดกโลกได้บัญญัติขึ้นหลายข้อ" พี่น้องครับฟังแล้งเท่ไหม เท่มากพี่น้อง ถ้ารัฐบาลต้องการคัดค้านการขึ้นทะเบียนของกัมพูชา ไม่ว่ากรณีใดๆ ผมสนับสนุนเต็มที่ พวกเราก็ควรสนับสนุน ถ้าเขาจะคัดค้าน แต่ผมไม่เข้าใจว่า มันเรื่องอะไรที่ส่ง นายสุวิทย์ คุณกิตติ ไปเป็นตัวแทนประเทศไทย ไปยื่นหนังสือที่สเปน พี่น้องครับ ส่งผิดฝาผิดตัว เพราะนายสุวิทย์ไม่ใช่ประธานคณะกรรมการมรดกโลกของประเทศไทย คุณสุวิทย์ไปในฐานะอะไร และยังไปในฐานะผู้สังเกตการณ์ ไม่มีปากมีเสียงในที่ประชุมเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วเสือกกลับมาบอกว่า สามารถเลื่อนประชุมมรดกโลก เห็นไหมพี่น้องว่าโกหก และขณะที่ตัวเองให้สัมภาษณ์ว่า คัดค้าน ให้สัมภาษณ์คัดค้าน พี่น้องครับ เงื่อนไขข้อที่ 14 ของคณะกรรมการมรดกโลกมีอะไร เงื่อนไขมีว่า มติของคณะกรรมการมรดกโลกให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียวสมบูรณ์มากขึ้น เขาทำอะไรบ้าง เงื่อนไขข้อ 14 เขาเรียกร้องให้กัมพูชา โดยให้ประสานงานกับยูเนสโก ให้จัดประชุมคณะกรรมการมรดกโลกระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาทรัพย์สินภายในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.2009 โดยเชิญรัฐบาลไทย และหุ้นส่วนระหว่างประเทศไม่เกิน 7 ประเทศ เข้าร่วม เพื่อตรวจสอบนโยบายทั่วไปเกี่ยวกับการรักษาคุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากลของทรัพย์สิน โดยสอดคล้องกับมาตรฐานอนุรักษ์สากล แปลว่าอะไรพี่น้อง เชื่อไหมครับ รัฐบาลเขาบอกว่า ฟังให้ดีๆ นะพี่น้อง

ข้อ 14 เงื่อนไขของคณะกรรมการมรดกโลก ให้กัมพูชาประสานยูเนสโก ให้จัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกระหว่างประเทศ แล้วเชิญรัฐบาลไทย และหุ้นส่วนของประเทศไม่เกิน 7 ประเทศเข้าร่วมเพื่อตรวจสอบ พี่น้องรู้ไหม ถ้าไทยคัดค้านจริง จริงตามที่นายสุวิทย์พูด ไทยต้องไม่เข้าประชุมตามข้อ 14 นี้ ใช่ ไม่ใช่ พี่น้อง แต่ว่ารัฐบาลไทยเสือกเข้าประชุม ส่งตัวแทนเข้าประชุมไปเรียบร้อยแล้ว และการที่ได้เข้าร่วมประชุมทำให้ข้อ 14 เงื่อนไข สมบูรณ์แบบแล้ว เท่ากับไทยเห็นด้วยกับการจดทะเบียนมรดกโลก ตรงกันข้ามกับสิ่งที่นายกฯ อภิสิทธิ์พูด ตรงกันข้ามกับสิ่งที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ พูดทุกประการ

และเชื่อไหมครับ นายสุวิทย์ คุณกิตติ ยังเดินหน้าอีกหลายเรื่องที่คนไทยยังไม่รู้ โครงการจัดทำแผนการบริหารจัดการอาณาบริเวณต่อเนื่องปราสาทเขาพระวิหาร กรณีปราสาทเขาพระวิหารได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ก็คือว่า ถ้าเขาพระวิหารได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ก็จะมีโครงการบริหารจัดการบริเวณเป็นหมื่นๆ ไร่ เป็นแสนๆ ไร่ ตรงนั้น โครงการนั้นต้องจัดทำ นายสุวิทย์ แอบจัดทำ ออกทีโออาร์ แล้วได้ข่าวว่าทำสัญญากันแล้วกับเอกชนให้จัดทำ นี่แปลว่าอะไร นี่คุณสมรู้ร่วมคิดในการร่วมปล้นชาติไทยนี่

พี่น้องเข้าใจหรือยังว่าผมนี่ทนไม่ได้ แล้วนายสุวิทย์ก็ยังไม่ยอมยกเลิกสัญญา ไม่ยอมใช้โอกาสที่สามารถอ้างคำสั่ง คือคำสั่งศาลปกครองและคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญนั้น สามารถยกเลิกโครงการดังกล่าวได้ทันทีเลย แต่นายสุวิทย์ไม่ทำ ร่างทีโออาร์ เรียกภาคเอกชนมาเซ็นสัญญา ผมไม่รู้ว่ามีส่วนได้ส่วนเสียกับภาคเอกชนหรือเปล่า ถึงต้องรีบทำกัน เห็นหรือยังพี่น้อง

พี่น้องต้องรู้นะ นี่คือขบวนการปล้นชาติปล้นแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผมถึงต้องเรียกร้องให้นายกฯ อภิสิทธิ์มีความกล้าหาญ อย่าพูดไพเราะพูดเก่งอย่างเดียว ท่านต้องลงมานั่งหัวโต๊ะ แล้วท่านต้องเรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สิ่งแรกที่ท่านต้องเริ่มทันทีเลย ท่านต้องบอกทันทีเลยว่าให้รัฐมนตรีฯ กระทรวงการต่างประเทศยกเลิกแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา แจ้งไปทางรัฐบาลกัมพูชา และคณะกรรมการมรดกโลก ตามที่นายกษิต ภิรมย์ ได้เคยให้คำแนะนำไว้ รัฐมนตรีฯ กษิตเคยให้คำแนะนำไว้ที่ไหน พี่น้องรู้หรือเปล่า ไว้บนสะพานชมัยมรุเชฐ ในการเคลื่อนไหวกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่เชื่อวันหลังผมจะเอาคำพูดรัฐมนตรีฯกษิตมา ท่านเป็นคนแนะนำเอง บอกให้ยกเลิกแถลงการณ์ร่วม เอ๊ะ แล้ววันนี้ทำไมถึงไม่ยกเลิก นี่ก็ 6 เดือนแล้วนะเนี่ย มันเกิดอะไรขึ้นกับชาติบ้านเมืองวันนี้

ทองคำแท้บ้านเรามันหาได้บ้างไหม หรือมีแต่ทองเหลืองชุบทอง

สอง ฝ่ายความมั่นให้รักษาอธิปไตยไทย มิให้ประเทศอื่นเข้ามาบริหารพื้นที่ดังกล่าวได้ ต้องยุติการสร้างถนนเข้ามาในประเทศไทย และหยุดปฏิบัติตามขั้นตอนคณะกรรมการมรดกโลก ไม่ต้องสนใจคณะกรรมการมรดกโลก ก็เพราะว่าเราไม่ยอม เมื่อเราไม่ยอมแล้ว เราไม่ร่วมยูเนสโก คุณจะขึ้นฝั่งปราสาท คุณไปขึ้นฝั่งเขมร คุณไม่ต้องมาขึ้นฝั่งไทย

พี่น้องครับ ประเทศไทยกำลังจะสูญเสียพื้นที่อีก 1.5 ล้านไร่ ตอนนี้อาจจะไม่มีการกระโตกกระตาก แต่พอเรายอมรับให้เป็นมรดกโลกปังเมื่อไร ทำตามกติกาของคณะกรรมการมรดกโลก เรียบร้อยหมด เป็นขั้นเป็นตอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว วันดีคืนดีลูกไอ้ฮุน เซน มันก็จะลุกขึ้นมาแล้วมันก็ยื่นข้อเรียกร้องว่า เมื่อประเทศไทยยอมรับแผนที่ที่มันเสนอมรดกโลก อ้าว ถ้าไม่ยอมรับแล้วทำไมมาจัดการลงทะเบียน จัดการพื้นที่ทั้งหลายที่อยู่รอบๆ ปราสาทเขาพระวิหารเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก ถ้าอย่างนั้นยอมรับแผนที่นั้น ผมขอลากแผนที่ต่อ เพราะฉะนั้นอีก 7 แห่งใน 3 จังหวัด 1.5 ล้านไร่ จะต้องเป็นของกัมพูชาด้วย หรือไม่อีกที จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก ซึ่งจดทะเบียนโดยกัมพูชาแต่ผู้เดียว ไทยไม่มีสิทธิ์ ปรากฏว่าอะไรรู้ไหม ตอนนี้ คนไทย ข้าราชการไทย และนักการเมืองไทยหัวใส ฉลาดแกมโกง เจ้าเล่ห์แสนกล ก็บอกว่า งั้นเราขอเข้าไปจดทะเบียนร่วมด้วยได้ไหม การเข้าไปจดทะเบียนร่วมด้วยก็เท่ากับคุณไปยอมรับแผนที่ของกัมพูชา 100 เปอร์เซ็นต์ ทันทีเลย คุณจะไปจดทะเบียนร่วมด้วย โดยที่คุณจะยื่นแผนที่ของคุณตอนนี้มันไม่ทันซะแล้ว แต่คุณสามารถยกเลิกแถลงการณ์ ถ้าคุณจะเข้าไปจดทะเบียนร่วมตั้งแต่แรก คุณต้องทำตั้งแต่แรกที่เขมรยื่นเรื่องเข้าคณะกรรมการมรดกโลก คุณก็ยื่นแข่งเข้าไป แล้วคณะกรรมการดูแผนที่ทั้ง 2 ฝ่าย แล้วบอกว่า แผนที่ไม่เหมือนกันกลับไปตกลงกัน ตรงนั้นละถึงจะต้องยื่นพร้อมกัน แต่ไม่ใช่ให้เขายอมรับกันแล้ว เมื่อเขายอมรับแล้ว คณะกรรมการมรดกโลกยอมรับแล้วเราเสือกมายื่นตอนนี้เขาไม่รับหรอก หรือถ้าเขารับเราก็ต้องตกเป็นเหยื่อ หมายความว่า เขาก็บอกว่า คุณยื่นคุณต้องยอมรับมาตรฐาน ยอมรับแผนที่ทุกอย่างที่กำหนดเอาไว้ว่า พื้นที่ปราสาทเขาพระวิหาร พื้นที่รอบด้านใกล้เคียงกัน ตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก คุณก็ต้องยอมรับตรงนี้ไป เมื่อคุณยอมรับตรงนี้ไป มันจะไปกระทบอีก 7 แห่ง ใน 3 จังหวัด อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ พื้นที่ 1.5 ล้านไร่ และเมื่อลากเส้นลงไปอ่าวไทย ก็จะมีผลกระทบต่อเกาะกูด มีผลกระทบต้องแบ่งเกาะกูดออกไปครึ่งหนึ่ง แล้วต้องแบ่งพื้นที่ทางทะเลที่มีน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ ให้เป็นของเขมรแต่ผู้เดียว พี่น้องเห็นรึยัง

ชาติบ้านเมืองมันไม่มีอะไรเหลือจริงๆ แล้วนะพี่น้อง มันหมดจริงๆ ผมไม่ได้พูดเล่น ตั้งแต่เรื่องตอนแรก ถึงกระบวนการถวายฎีกานั้น วัตถุประสงค์เพื่อล้มพระเจ้าอยู่หัวฯ เรามีนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ซึ่งไม่รู้จะทันเกมนี้หรือไม่ทันเกม ยังนั่งทองไม่รู้ร้อน ยังปล่อยให้สื่อมวลชนต่างๆ ที่รัฐมีอำนาจที่จะเข้าไปดูแลสั่งการ นั่งเงียบอยู่ แล้วพอถึงวันนึง การขอพระราชทานอภัยโทษนายทักษิณทำไม่ได้ วันนั้นมันก็ไปเป่าหูประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ที่บริสุทธิ์ บอกว่าสถาบันกษัตริย์นั้นรังแกทักษิณ วันนั้นคุณอภิสิทธิ์กับคุณสาทิตย์คุณอยู่ตรงไหนผมก็ยังไม่รู้ แต่วันนั้นชาติพังแล้ว แล้วใครจะลุกขึ้นมาปกป้องพระเจ้าอยู่หัวฯ ปกป้องสถาบันกษัตริย์ พระเจ้าอยู่หัวฯ และพระราชินี ไม่สามารถจะพูดอะไรได้ พระองค์ทรงเงียบได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นเอง พระองค์หวังให้พวกคุณทำงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาทให้ถูกต้อง อะไรถูกว่าเป็นถูกอะไรผิดว่าเป็นผิด คุณก็ไม่ทำ คุณนั่งเงียบ คุณตีฝีปาก คุณพูดจา คุณเถียงเก่ง คุณโชว์ออฟของคุณไปเรื่อยๆ แต่คุณไม่มีความกล้าหาญเลยแม้แต่นิดเดียว

ยังไม่พอยังต่อเนื่องมาจนถึงเรื่องปราสาทเขาพระวิหารอีก พื้นที่อีก 1.5 ล้านไร่ ถึงแม้ว่ายังไม่เสียตอนนี้แต่การกระทำของคุณแบบนี้ก็ทำให้เหมือนกับเสียไปแล้ว คุณปล่อยให้นายฮุน เซน มาถ่มถุยข่มขู่คุณ โชว์ออฟ เอาจรวดยิงต่อสู้เครื่องบินมา แสดงอาการกุ๊ย คุณก็พูดได้อย่างเดียวว่า คุณมิตรจิตไมตรี ทีกับเขมรคุณไม่กล้า ปกป้องอธิปไตยชาติคุณไม่กล้า ที่กับลูกเจ๊กอย่างผมคุณยิงเอายิงเอา

พี่น้องครับ ชาติบ้านเมือง พี่น้องรู้ไหมทุกวันนี้ผมต้องสู้อะไรที่สำคัญที่สุดในชีวิตผม ผมต้องสู้ความท้อ เมื่อใดก็ตามถ้าจิตผมไม่สงบ ผมไม่ใช้ธรรมนำหน้า เมื่อนั้นความท้อมันจะครอบงำผม เมื่อความท้อมันครอบงำผม ผมก็พร้อมจะล้างมือทุกสิ่งทุกอย่าง ผมแบกมันคนเดียวไม่ไหวหรอกพี่น้อง ทำยังไงที่จะให้มีคนรักชาติรักบ้านรักเมืองบ้าง รักจริงๆ ไม่ใช่รักเพียงเพราะว่า 1. มันมีแก๊ส น้ำมันอยู่ในอ่าวไทย ไม่ใช่รัก ปากว่ารักแต่จริงๆ แล้วอยากมีอำนาจต่อ ชาติบ้านเมืองที่น่ากลัวคือ เอาคนที่ไม่ได้รักชาติไม่ได้รักส่วนรวมมาทำงาน นอกจากไม่ได้รักส่วนรวมมาทำงานแล้ว ยังทะลึ่งโง่อีก ทำงานไม่เป็น

พี่น้องครับ ขอบคุณมากนะครับสำหรับคำถามซึ่งมีเยอะ ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร ก็ขอให้ เฮ้อออ (ถอนหายใจ) ขอให้พ่อแม่พี่น้อง ทำใจไปก็แล้วกัน เหมือนกับที่ผมเคยเล่าให้ฟังก่อนที่เล่าปี่จะเจอขงเบ้ง ไปเจอปราชญ์คนหนึ่งชื่อซุยเปี๋ยน ไปเชิญซุยเปี๋ยน มาเป็นที่ปรึกษา ซุยเปี๋ยนปฏิเสธ ซุยเปี๋ยนพูดยังไงรู้ไหมพี่น้อง ซุยเปี๋ยนว่า บ้านมันจะพังอยู่แล้ว ไอ้คานเล็กๆ อันหนึ่งมันค้ำไม่อยู่หรอก ถ้ามันจะต้องพังก็ขอให้มันพังไปตามวัฏจักรของมัน ไปฝืนชะตาฟ้าไม่ได้ ขงเบ้งไปฝืนชะตาฟ้า ไปเป็นที่ปรึกษาเล่าปี่ ในที่สุดราชวงศ์ฮั่นก็ล่มสลาย แล้วจากการซึ่งขงเบ้งไปฝืนชะตาฟ้า ก็เลยทำให้สงครามสามก๊กนั้น คนจีนตายไปเกือบ 30 ล้านคน

ผมไม่อยากคิดว่าผมเป็นเพียงไม้คานที่จะมาค้ำบ้านหลังนี้ ผมไม่ใช่ แต่มันดูเหมือนว่าเรื่องราวที่ชั่วร้ายต่างๆ เหล่านี้ เหมือนกับว่าผมต้องออกมาสู้เพียงคนเดียว มันไม่ยุติธรรมกับผม นอกจากสู้แล้วยังต้องเลือดตกยางออกเพื่อชาติบ้านเมืองอีก มันก็ไม่ยุติธรรมกับผม นี่คือคำพูดของคนที่ท้อ นี่ไง พี่น้อง ความท้อนี่มันเข้ามา ความท้อมันเข้ามา แต่อย่างที่ผมบอกพี่น้องมานานแล้ว ว่าท้อไม่ได้ ยังไงก็ท้อไม่ได้ เคยพูดกับพ่อแม่พี่น้องมานานแล้วว่า จากนี้ไปไม่หวังที่จะทำอะไรอีกแล้วนอกจากทำงานให้ชาติบ้านเมืองเท่านั้นเอง ขอบคุณและสวัสดีครับ





สโรชา พรอุดมศักดิ์

กำลังโหลดความคิดเห็น