xs
xsm
sm
md
lg

บ.เซเลซ ต่อยอดBotxoความงามสู่ผลิตภัณฑ์เพื่อผู้ป่วยสมองพิการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – กลุ่มเภสัชกรไทย จับมือเกาหลี ร่วมธุรกิจแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี หวังเสริมทักษะแพทย์ร่วมกัน ชูต่อยอดสารโบท็อกซ์เสริมความงาม สู่การรักษาผู้ป่วยสมองพิการ หลังพบผู้ป่วย 2.4 ล้านราย ในเด็กอายุ 3-10 ปีใน 1,000 คน พร้อมสร้างองค์ความรู้แก่แพทย์ไทยใช้ยาได้อย่างเหมาะสม

นายสรวุฒิ วูวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เซเลส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทฯ จะเป็นผู้คัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือจากต่างประเทศที่เป็นผลิตภัณฑ์ยา โดยใช้องค์ความรู้จากกลุ่มเภสัชกรของบริษัทฯ เสาะหายาใหม่เสมอเพื่อให้คนไทยได้ใช้ยาที่มีราคาถูกและมีคุณภาพ โดยเน้นการรักษาโรคระบบประสาท กล้ามเนื้อ กระดูกและ มะเร็ง ทั้งนี้บริษัทผู้ผลิตต้องได้รับมาตรฐานการผลิต GMP ระดับสากลเพื่อสร้างให้เกิดความเชื่อถือในด้านคุณภาพ

ล่าสุดทางบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับประเทศเกาหลี ต่อยอดสารโบท็อกที่หลายคนใช้ในวงการความสวยความงาม มาสร้างเป็นยาโบทูลินุ่มท็อกซิน (Botulinum Toxin) ช่วยลดภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง เพื่อช่วยรักษาผู้ป่วยในกลุ่มสมองพิการ ซึ่งสารโบทูลินัมทอกซินบริสุทธิ์ ชนิดเอ ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายในประเทศเกาหลี ตั้งแต่ปี 2549 สำหรับประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ออกใบอนุญาตนำสั่งยาตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2551 ปัจจุบันมีประเทศที่ให้ใบอนุญาตรวม 11 ประเทศ และมากกว่า 40 ประเทศที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาให้ใบอนุญาต

ทั้งนี้ผู้ป่วยกลุ่มสมองพิการที่มีภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งที่อัตราสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องประมษร 2.4 รายต่อเด็กอายุ 3-10 ปีทุก 1,000 คน โดยร้อยละ 86 เป็นภาวะหดเกร็งส่วนล่างและทั้งสองข้าง ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดคือ สาเหตุมาจากการคลอดบุตร

“บริษัทมีเจตนารมย์ที่จะสร้างเสริมองค์ความรู้แก่แพทย์และเภสัชกร และประชาชนทั่วไป เนื่องจาก ยา เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องได้รับการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อใช้งานอย่างถูกต้องเหมาะสม โดยหวังว่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นความสนใจของแพทย์ไทยและหน่วยงานสาธารณสุข ที่จะให้ความสำคัญในปัญหานี้ และกระจายข้อมูลข่าวสารต่อไป” นายสรวุฒิกล่าว

ด้านรศ.พ.ญ กมลทิพย์ หาญผดุงกิจ อุปนายกราชวิทยาลัยเวชศาสตร์ฟื้นฟูแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ยาโบทูลินุ่มท็อกซิน ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่นำเข้ามาในไทยโดยบริษัทเซเลส ซึ่งเป็นการช่วยเหลือผู้ป่วยสมองพิการ มีภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งอย่างได้ผล โดยเป็นสารที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียสังเคราะห์ ดังนั้นจึงไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง ส่วนใหญ่จะใช้กับเด็กที่คลอดก่อนกำหนด ซึ่งมีทั้งยาฉีดและรับประทาน ในขณะที่มีราคาถูกกว่ายาที่รักษาดั้งเดิมกว่า 30% ดังนั้นเชื่อว่าตัวยาดังกล่าวจะช่วยให้คนไทยได้ใช้ยาที่มีราคาถูกลง แต่มีประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น และเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ป่วย
กำลังโหลดความคิดเห็น