เอเจนซี - ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริการายงานเมื่อวันพฤหัสบดี(3) ว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้ปลิดชีพเด็กอเมริกาไปแล้ว 36 ราย ในจำนวนนั้นกว่า 2 ใน 3 มีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว
รายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) ระบุว่า 67 เปอร์เซ็นต์ของเด็กที่เสียชีวิตมีเงื่อนไขทางการแพทย์ที่นำเด็กไปสู่ความเสี่ยงอาการรุนแรง อาทิป่วยเป็นโรคหอบหืดหรือทุพพลภาพอย่างเช่นสมองพิการ ขณะที่อีก 22 เปอร์เซ็นต์เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบที่มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์
ซีดีซีระบุว่า เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พวกเขามีรายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสเอช 1 เอ็น 1 ภายในประเทศ 477 คน ในจำนวนนั้นเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี “2 ใน 3 ของผู้เสียชีวิต เด็กเหล่านั้นล้วนแค่มีอาการป่วยแฝงอยู่หรือทุพพลภาพ ... สมองพิการ โรคกล้ามเนื้อเสื่อม ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรังหรือโรคหัวใจ” ดอกเตอร์โธมัส เฟรเดน ผู้อำนวยการซีดีซีบอกกับผู้สื่อข่าว
“แต่ก็มีเด็กบางส่วนที่เสียชีวิตแม้ไม่มีอาการป่วยแฝงอยู่ เนื่องจากพวกเขาสามารถติดเชื้ออื่นๆได้ทั่วไปซึ่งรวมไปถึงแบคทีเรีย“ เฟรเดน ระบุ “เมื่อคุณป่วยเป็นไข้หวัด ระบบภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลงเล็กน้อย ทำให้คุณอาจอ่อนแอต่อเชื้อโรคอื่นๆ มันคือข้อมูสำคัญสำหรับหมอที่ได้รู้ว่าหากบางคนป่วยเป็นหวัด เมื่อพวกเขาอาการดีขึ้น พวกเขาก็ยังสามารถล้มป่วยด้วยอาการไข้สูงได้อีกครั้ง นั่นบอกเป็นนัยๆ ว่าบางทีพวกเขาควรได้รับการรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อ”
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา คาดหมายว่าจะมีอเมริกันชนติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 กว่า 1 ล้านคน และคาดหมายว่าจะมีการแพร่ระบาดกว้างขวางและรุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อหลายโรงเรียนกลับมาเปิดการเรียนการสอนตามปกติหลังจากปิดเทอมฤดูร้อน