xs
xsm
sm
md
lg

IMFคาดล่าสุดศก.โลกเริ่มฟื้นตัวแบบ‘ซึมเซา’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอยเตอร์ – เศรษฐกิจโลกกำลังเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ จากภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา แต่การฟื้นตัวก็จะเป็นไปอย่างซึมเซา และยังจำเป็นต้องใช้นโยบายต่าง ๆที่หนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวเร็วขึ้น ทั้งนี้ตามรายงานล่าสุดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่นำออกเผยแพร่เมื่อวันพุธ(9)
ในรายงานฉบับนี้ ซึ่งเป็นการปรับปรุงรายงานทิศทางแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook)ให้ทันสมัยล่าสุดนั้น ไอเอ็มเอฟกล่าวว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้น่าจะหดตัวราว 1.4% ซึ่งมากกว่า -1.3% ที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนเมษายนเสียอีก
อย่างไรก็ตาม รายงานปลอบว่า การฟื้นตัวในปีหน้าจะอยู่ที่ 2.5% เทียบกับอัตรา 1.9% ของการทำนายเมื่อเดือนเมษายน
โอลิวิเยร์ บลังชาร์ด หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า พลังต่างๆ ที่กำลังบีบคั้นเศรษฐกิจโลกนั้นเริ่มผ่อนคลายลงแล้ว แต่พวกพลังที่ผลักดันให้เศรษฐกิจกลับมาขยายตัวดังเดิมก็ยังอ่อนแออยู่ แม้ว่ารัฐบาลและธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆจะอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างมหาศาลก็ตาม
“สภาพเช่นนี้ทำให้เราต้องทำนายว่า ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ในภาวะถดถอยต่อไป แต่การฟื้นตัวก็กำลังจะมาถึงในไม่ช้า ทว่าน่าจะเป็นการฟื้นตัวที่อ่อนแรง” บลังชาร์ดกล่าวในที่ประชุมแถลงข่าวเปิดตัวรายงานล่าสุดนี้
เขาเน้นว่า ความเชื่อมั่นในภาคการเงินจะไม่สามารถหวนกลับมาได้ จนกว่าหนี้สินเน่าเสียจะถูกสางออกไปจากงบดุลของพวกธนาคาร และบรรดาสถาบันการเงินที่อ่อนแอก็มีการเพิ่มเงินทุนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นแล้วเท่านั้น
ไอเอ็มเอฟกล่าวว่า เงื่อนไขต่าง ๆ มีการปรับปรุงดีขึ้นมากกว่าที่เคยคาดหมายกันไว้ เนื่องจากรัฐบาลทั้งหลายพากันอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและสถาบันการเงินต่าง ๆ ขณะเดียวกันรายงานของไอเอ็มเอฟก็เตือนด้วยว่า ยังไม่ควรยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งทางการเงินและการคลังเร็วเกินไปนัก
กระนั้นก็ตามที “ถึงแม้การถอน (โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ) ออกไปในตอนนี้ จะเป็นเรื่องที่เร็วเกินไป แต่ผมก็คิดว่า โดยพื้นฐานเลยเราก็ควรจัดทำแผนการต่างๆ ที่เชื่อถือได้เอาไว้ ซึ่งจะเป็นแผนที่คอยชี้ว่าเรากำลังจะไปทางไหนในระยะกลาง และเราจะไปถึงที่นั่นได้อย่างไร” โฆเซ บินาลส์ ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดเงินและตลาดทุนของไอเอ็มเอฟกล่าวในที่ประชุมแถลงข่าวแห่งเดียวกัน
บินาลส์ยังบอกด้วยว่า การแก้ไขสภาพที่ประเทศต่างๆ กำลังมีหนี้สินสาธารณะในระดับที่สูงมาก สืบเนื่องจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น ก็ควรจะบรรจุเอาไว้ในแผนการต่างๆ เพื่อถอนตัวออกจากภาวะกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เขาก็เตือนว่าตลาดตราสารหนี้ภาครัฐอาจจะเกิดปัญหาไร้เสถียรภาพ หากเริ่มถูกตลาดมองว่าภาครัฐขาดดุลการคลังมากเกินไปจนสั่นคลอนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว
การประเมินเช่นนี้ของไอเอ็มเอฟ ดูจะสอดคล้องกับผลการประชุมสุดยอดของผู้นำกลุ่ม 8 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี8) ที่เริ่มขึ้นในวันพุธ(8) โดยมีการออกคำแถลงให้คำมั่นว่า รัฐบาลเหล่านี้จะยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ต่อเมื่อการฟื้นตัวมั่นคงแล้วเท่านั้น
“แม้ทุกคนจะเห็นพ้องต้องกันว่าวิกฤตเศรษฐกิจยังคงไม่สิ้นสุดลงง่าย ๆ แต่เราก็ได้ลงถึงจุดต่ำสุด” นายกรัฐมนตรีแองเกลา แมร์เคิล กล่าวในการประชุมซัมมิตจี 8 ที่เมืองอากวิลา ประเทศอิตาลี
ในรายงานล่าสุดของไอเอ็มเอฟ ระบุว่าขณะที่พวกประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าน่าว่าจะฟื้นตัวได้เล็กน้อยในปีหน้า แต่อัตราการเติบโตคงจะอยู่ในสภาพต่ำกว่าศักยภาพต่อไปจนกระทั่งถึงช่วงปลายปี 2010 ทั้งนี้คำพูดเช่นนี้ดูจะบ่งชี้ว่าจำนวนคนตกงานจะยังพุ่งขึ้นต่อไปนั่นเอง
เมื่อพิจารณากันเป็นรายกลุ่มประเทศและรายประเทศ รายงานล่าสุดของไอเอ็มเอฟบอกว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวถึง 2.6% ในปีนี้ น้อยลงนิดหน่อยจากที่คาดไว้ในเดือนเมษายน และจะกลับมาเติบโตอีกครั้งราว 0.8% ในปี 2010
ในขณะที่เศรษฐกิจยูโรโซนน่าจะหดตัวถึง 4.8% ในปีนี้ หรือหดตัวมากขึ้นกว่าที่ได้ทำนายไว้ในเดือนเมษายน 0.6% สำหรับในปีหน้า เศรษฐกิจของเขตที่ใช้เงินตราสกุลยูโร ยังคงหดตัวต่อไปแต่ในอัตราที่น้อยลง โดยอยู่ที่ -0.3%
ญี่ปุ่นนั้น ไอเอ็มเอฟคาดว่าจะหดตัว 6% ในปีนี้ และจะกลับมาขยายตัว 1.7% ในปี 2010
ในขณะที่ประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ และประเทศกำลังพัฒนา ไอเอ็มเอฟบอกว่าน่าจะฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2009
ก่อนหน้านี้อัตราเติบโตที่แข็งแกร่งในเอเชีย โดยเฉพาะจากจีนและอินเดีย เคยทำให้เกิดความหวังกันว่า ภูมิภาคนี้อาจจะสามารถเดินหน้าเติบโตไปเอง โดยไม่ต้องไปสนใจพวกเศรษฐกิจที่ก้าวหน้าที่เติบโตช้ากว่า
แต่บลังชาร์ดบอกว่า เอเชียยังไม่สามารถเดินหน้าไปตามลำพังโดยตัดขาดจากเศรษฐกิจโลกได้ ถึงแม้มีสัญญาณหลายอย่างแสดงว่าภูมิภาคนี้กำลังจะก้าวพ้นการตกต่ำได้รวดเร็วยิ่งที่พวกนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากคาดหมายกันก็ตามที
“ภายหลังไตรมาสแรกที่หนักหนาสาหัส โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เอเชียด้วยแล้ว เวลานี้กำลังทำท่าจะมีผลประกอบการที่เข้มแข็งกว่าที่เราเคยคาดหมายไว้ก่อนหน้านี้” บลังชาร์ดบอก ทั้งนี้รายงานล่าสุดของไอเอ็มเอฟได้ทบทวนปรับการคาดการณ์เศรษฐกิจของเอเชียให้เพิ่มสูงขึ้นเกือบๆ 1% ทั้งในปีนี้และปีหน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น