00 นาทีนี้ถ้าฟังจากน้ำเสียงของเจ้าของคลื่นวิทยุ “เสื้อแดง” ที่เรียกว่า “ชมรมคนรักแท็กซี่” ส่วนคนพูดจะชื่อเรียงเสียงไรอย่าไปพูดถึงให้เป็นเสนียดปาก เอาเป็นว่ายังยืนยันจะงาน“แซยิด” ให้กับ “ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษหนีคดีคอร์รัปชันกลางท้องสนามหลวง ในวันที่ 26 ก.ค. ตามกำหนดเดิมอย่างแน่นอน
00 อ้างว่าเป็นการใช้วิธี “อารยะขัดขืน” ไม่สนใจต่อคำสั่งของ ผู้ว่าฯ กทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ที่ห้ามใช้สถานที่ เพราะพื้นที่ “สนามหลวง” สงวนเอาไว้สำหรับการจัดงานพระราชพิธีของสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือเป็นสถานที่พสกนิกรใช้เป็นสถานที่ชุมนุมเพื่อถวายความจงรักภักดี เช่นงาน “ 5 ธันวามหาราช” ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาทุกปี
00 ดังนั้นวิธีการดังกล่าวของคนเสื้อแดงจะมาอ้างว่าเป็นอารยะขัดขืนไม่ได้ นอกจากเป็นการ “เหิมเกริม” ท้าทาย ขณะดียวกันถ้าย้อนกลับไปดูพฤติกรรม และคำพูดของวิทยุคลื่นนี้ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะมักปล่อยให้มีการจาบจ้วงดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูงอยู่บ่อยครั้ง และในเหตุการณ์จลาจลวันสงกรานต์ ก็มีสมาชิกนำรถแท็กซี่มาปิดถนนแล้วก่อความวุ่นวายทั่วกรุงเทพฯ เมื่อดูเจตนาก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คนพวกนี้มีเป้าหมายแบบไหน
00 แต่ที่น่าสงสงสัยก็คือ ท่าทีของรัฐบาลไม่เคยมีความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร เริ่มมาตั้งแต่เรื่องการล่า 1 ล้านรายชื่อ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ “ทักษิณ” ทั้งที่ในทางกฎหมายเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นถ้าใครก็ตามที่พอมีสติปัญญาอยู่บ้าง ก็ต้องมองออกว่ามีเจตนาซ่อนเร้นต้องการแสดงพลังเพื่อท้าทายข่มขู่ วัดบารมี และชนสถาบันฯโดยตรง
00 ที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยออกมาชี้แจงหรือให้ข้อมูลอย่างเป็นจริงเป็นจัง ปล่อยให้ชาวบ้านเข้าใจผิดและเดินหน้ากันต่อไป แม้กระทั่งนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ไม่เคยมีท่าทีชัดเจน การที่บอกว่าจะให้ชาวบ้านใช้วิจารณญาณ บางครั้งมันใช้ไม่ได้ ในทางตรงข้ามรังแต่จะทำให้เกิดความสับสนมากยิ่งขึ้น เพราะชาวบ้านเขาไม่มีข้อมูล และยิ่งมาเจอกับกับพฤติกรรม “อำพราง” ทำกันอย่างเป็นขบวนการ มันก็ยิ่งไปกันใหญ่
00 ไหนๆก็พูดถึงรัฐบาลแล้วก็อยากจะติงเรื่องการรวบรวมผลงานในรอบ 6 เดือนที่กำลังจัดทำเป็นเล่มออกมาในวันนี้ (9 ก.ค.) เพื่อโปรโมทให้ชาวบ้านได้รู้ได้ทราบ และมอบหมายให้ “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” เป็นคนรับผิดชอบ ก็อยากจะบอกว่า ผลงานของรัฐบาลจะมีหรือไม่ สำคัญที่สุดขึ้นอยู่กับความรู้สึกและจับต้องได้ของชาวบ้านเอง มีผลงานหรือไม่เขาจะสัมผัสได้เอง ไม่ต้องมาโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้เปลืองงบหรอก
00 อ้างว่าเป็นการใช้วิธี “อารยะขัดขืน” ไม่สนใจต่อคำสั่งของ ผู้ว่าฯ กทม. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ที่ห้ามใช้สถานที่ เพราะพื้นที่ “สนามหลวง” สงวนเอาไว้สำหรับการจัดงานพระราชพิธีของสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือเป็นสถานที่พสกนิกรใช้เป็นสถานที่ชุมนุมเพื่อถวายความจงรักภักดี เช่นงาน “ 5 ธันวามหาราช” ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาทุกปี
00 ดังนั้นวิธีการดังกล่าวของคนเสื้อแดงจะมาอ้างว่าเป็นอารยะขัดขืนไม่ได้ นอกจากเป็นการ “เหิมเกริม” ท้าทาย ขณะดียวกันถ้าย้อนกลับไปดูพฤติกรรม และคำพูดของวิทยุคลื่นนี้ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะมักปล่อยให้มีการจาบจ้วงดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูงอยู่บ่อยครั้ง และในเหตุการณ์จลาจลวันสงกรานต์ ก็มีสมาชิกนำรถแท็กซี่มาปิดถนนแล้วก่อความวุ่นวายทั่วกรุงเทพฯ เมื่อดูเจตนาก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คนพวกนี้มีเป้าหมายแบบไหน
00 แต่ที่น่าสงสงสัยก็คือ ท่าทีของรัฐบาลไม่เคยมีความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร เริ่มมาตั้งแต่เรื่องการล่า 1 ล้านรายชื่อ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ “ทักษิณ” ทั้งที่ในทางกฎหมายเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นถ้าใครก็ตามที่พอมีสติปัญญาอยู่บ้าง ก็ต้องมองออกว่ามีเจตนาซ่อนเร้นต้องการแสดงพลังเพื่อท้าทายข่มขู่ วัดบารมี และชนสถาบันฯโดยตรง
00 ที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยออกมาชี้แจงหรือให้ข้อมูลอย่างเป็นจริงเป็นจัง ปล่อยให้ชาวบ้านเข้าใจผิดและเดินหน้ากันต่อไป แม้กระทั่งนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ไม่เคยมีท่าทีชัดเจน การที่บอกว่าจะให้ชาวบ้านใช้วิจารณญาณ บางครั้งมันใช้ไม่ได้ ในทางตรงข้ามรังแต่จะทำให้เกิดความสับสนมากยิ่งขึ้น เพราะชาวบ้านเขาไม่มีข้อมูล และยิ่งมาเจอกับกับพฤติกรรม “อำพราง” ทำกันอย่างเป็นขบวนการ มันก็ยิ่งไปกันใหญ่
00 ไหนๆก็พูดถึงรัฐบาลแล้วก็อยากจะติงเรื่องการรวบรวมผลงานในรอบ 6 เดือนที่กำลังจัดทำเป็นเล่มออกมาในวันนี้ (9 ก.ค.) เพื่อโปรโมทให้ชาวบ้านได้รู้ได้ทราบ และมอบหมายให้ “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” เป็นคนรับผิดชอบ ก็อยากจะบอกว่า ผลงานของรัฐบาลจะมีหรือไม่ สำคัญที่สุดขึ้นอยู่กับความรู้สึกและจับต้องได้ของชาวบ้านเอง มีผลงานหรือไม่เขาจะสัมผัสได้เอง ไม่ต้องมาโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้เปลืองงบหรอก
