ASTVผู้จัดการรายวัน-รัฐมนตรีการค้าเอเปกเตรียมถกมาตรการกู้วิกฤตเศรษฐกิจ และหาทางแก้ไขมาตรการกีดกันทางการค้า 21-22 ก.ค.นี้ ที่สิงคโปร์ พร้อมหารือผลักดันการเจรจาการค้ารอบโดฮาให้มีความคืบหน้า และถกความคืบหน้าการทำเอฟทีเอเอเปก
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 21-22 ก.ค.นี้ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ จะเป็นหัวคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปก ((APEC Minister Responsible for Trade : MRT) ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยรัฐมนตรีการค้าเอเปกจะมีการหารือกันในเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจ และการเตรียมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในแง่นโยบายสมาชิกเอเปกได้ทำอะไรไปบ้างจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น และเอเปกจะสามารถเตรียมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้อย่างไร
นอกจากนี้ จะมีการหารือถึงการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี โดยจะมีการหารือใน 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นเรื่องของการต่อการการกีดกันทางการค้า โดยนาย Pascal Lamy ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งจะเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย จะกล่าวสรุปให้ที่ประชุมทราบถึงความพยายามของ WTO ในการต่อต้านการใช้มาตรการกีดกันทางการค้า พร้อมทั้งให้ความเห็นว่าเอเปกจะมีบทบาทในเรื่องนี้ได้อย่างไร โดยรัฐมนตรีการค้าเอเปกจะหารือกันว่าเอเปกจะทำอย่างไรที่จะปฏิบัติตามมติของผู้นำเศรษฐกิจเอเปกเมื่อปี 2551 ที่กรุงลิม่า ที่ย้ำว่าการใช้มาตรการปกป้องทางงการค้าจะยิ่งทำให้สถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันยิ่งแย่ลง รวมทั้งมติของที่ประชุม G-20 ที่ได้ตกลงร่วมกันที่จะไม่ใช้มาตรการใหม่ๆที่เป็นอุปสรรคต่อการค้า การลงทุน และจะพยายามทำให้เรื่องนี้มีความคืบหน้าได้อย่างไร รวมถึงความร่วมมือระหว่างเอเปกกับ WTO ในเรื่องนี้ ส่วนที่สองเป็นเรื่องการสนับสนุนการเจรจารอบโดฮา
นางนันทวัลย์กล่าวว่า รัฐมนตรีการค้าเอเปกจะมีการหารือถึงการเร่งรัดการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดมากขึ้นในภูมิภาค (Regional Economic Integration : REI) ซึ่งจะหารือใน 3 เรื่อง คือ การเร่งรัดการเปิดเสรีการค้าการลงทุน โดยจะมีการทบทวนความคืบหน้าในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีในเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) การปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจภายในประเทศ และการปรับปรุงเครือข่ายโลจิสติกส์และขนส่ง
ปัจจุบัน เอเปกมีมูลค่าการค้าระหว่างกันคิดเป็น 45% ของมูลค่าการค้าโลก มูลค่าการค้าระหว่างสมาชิกเอเปกมีประมาณ 70% และการค้ากับประเทศนอกกลุ่มประมาณ 30% ด้วยสัดส่วนการค้าภายในกลุ่มที่สูง ทำให้เอเปกเป็นตลาดการค้า การลงทุนที่มีศักยภาพของโลก
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 21-22 ก.ค.นี้ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ จะเป็นหัวคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปก ((APEC Minister Responsible for Trade : MRT) ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยรัฐมนตรีการค้าเอเปกจะมีการหารือกันในเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจ และการเตรียมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในแง่นโยบายสมาชิกเอเปกได้ทำอะไรไปบ้างจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น และเอเปกจะสามารถเตรียมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้อย่างไร
นอกจากนี้ จะมีการหารือถึงการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี โดยจะมีการหารือใน 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเป็นเรื่องของการต่อการการกีดกันทางการค้า โดยนาย Pascal Lamy ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งจะเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย จะกล่าวสรุปให้ที่ประชุมทราบถึงความพยายามของ WTO ในการต่อต้านการใช้มาตรการกีดกันทางการค้า พร้อมทั้งให้ความเห็นว่าเอเปกจะมีบทบาทในเรื่องนี้ได้อย่างไร โดยรัฐมนตรีการค้าเอเปกจะหารือกันว่าเอเปกจะทำอย่างไรที่จะปฏิบัติตามมติของผู้นำเศรษฐกิจเอเปกเมื่อปี 2551 ที่กรุงลิม่า ที่ย้ำว่าการใช้มาตรการปกป้องทางงการค้าจะยิ่งทำให้สถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันยิ่งแย่ลง รวมทั้งมติของที่ประชุม G-20 ที่ได้ตกลงร่วมกันที่จะไม่ใช้มาตรการใหม่ๆที่เป็นอุปสรรคต่อการค้า การลงทุน และจะพยายามทำให้เรื่องนี้มีความคืบหน้าได้อย่างไร รวมถึงความร่วมมือระหว่างเอเปกกับ WTO ในเรื่องนี้ ส่วนที่สองเป็นเรื่องการสนับสนุนการเจรจารอบโดฮา
นางนันทวัลย์กล่าวว่า รัฐมนตรีการค้าเอเปกจะมีการหารือถึงการเร่งรัดการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดมากขึ้นในภูมิภาค (Regional Economic Integration : REI) ซึ่งจะหารือใน 3 เรื่อง คือ การเร่งรัดการเปิดเสรีการค้าการลงทุน โดยจะมีการทบทวนความคืบหน้าในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีในเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) การปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจภายในประเทศ และการปรับปรุงเครือข่ายโลจิสติกส์และขนส่ง
ปัจจุบัน เอเปกมีมูลค่าการค้าระหว่างกันคิดเป็น 45% ของมูลค่าการค้าโลก มูลค่าการค้าระหว่างสมาชิกเอเปกมีประมาณ 70% และการค้ากับประเทศนอกกลุ่มประมาณ 30% ด้วยสัดส่วนการค้าภายในกลุ่มที่สูง ทำให้เอเปกเป็นตลาดการค้า การลงทุนที่มีศักยภาพของโลก