xs
xsm
sm
md
lg

เด็ก7ขวบหวัดขึ้นสมองพบรายแรกในไทยตายเพิ่มอีก2รวม9คน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน–หวัดสายพันธุ์ใหม่ยังลามไม่หยุด พบผู้เสียชีวิตอีก 2 คน รายแรกเป็นชายวัย 58 ปีที่มีภาวะแทรกซ้อนจากอาการไตวายเรื้อรัง รายที่สองเป็นเด็กหญิงอายุ 8 ขวบจากจ.เพชรบุรี ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตของไทยเพิ่มเป็น 9 ราย ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มต่อเนื่องอีก156 คน ขณะที่อธิบดีกรมการแพทย์เผยพบเชื้อไวรัสขึ้นสมองเด็กอายุ 7 ขวบ รายแรกของไทย นักวิชาการระบุเกิดไม่ถึง 1% ประสานขอข้อมูลการรักษาจากสหรัฐฯแล้ว ด้านองค์การอนามัยโลก เผยยอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกขณะนี้สูงถึง 94,512 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 429 ราย

นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่าวานนี้(7 ก.ค.)ได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มเติมอีก2ราย โดยรายแรกเป็นชายวัย 58 ปี อยู่ในกทม. เริ่มป่วยเมื่อวันที่30มิ.ย. โดยมีอาการไข้ ไอ อ่อนเพลีย มีน้ำมูก รายนี้มีประวัติไตวาย โรคความดันโลหิตสูง และโรคเก้าท์ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี เมื่อวันที่1 ก.ค. แพทย์รับตัวไว้สังเกตอาการที่ห้องฉุกเฉิน วินิจฉัยเบื้องต้นว่าปอดอักเสบ ต่อมาวันที่ 2 ก.ค. ผู้ป่วยหายใจดีขึ้น แพทย์จึงอนุญาตให้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน ต่อมาผู้ป่วยกลับมาพบแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินในวันที่ 5 ก.ค. ด้วยอาการหายใจหอบ กระสับกระส่ายมาก แพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจ ต่อมาเสียชีวิตที่ห้องฉุกเฉินในวันเดียวกัน และได้เก็บตัวอย่างเสมหะในลำคอส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลการตรวจในวันที่ 6 ก.ค. ยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งทีมสอบสวนเคลื่อนที่เร็วร่วมกับกทม.ควบคุมโรคที่บ้านของผู้เสียชีวิต
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเสียชีวิตหรือมีโรคแทรกซ้อนจากไข้หวัด 2009 อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นโรคไต และต้องล้างไตด้วยเครื่องฟอกอาทิตย์ละ 2 ครั้งเป็นประจำอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม สธ.ไม่สามารถเปิดเผยชื่อและภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิตรายนี้ได้ เนื่องจากเป็นความประสงค์ของญาติ
ส่วนรายที่ 2 เป็นเด็กหญิง อายุ 8 ขวบ เป็นนักเรียนชั้นป.1 ในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี แต่ไม่ได้ไปโรงเรียน 3 ปี มีประวัติเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และได้รับการรักษาเคมีบำบัดในโรงพยาบาลในกทม.เป็นประจำ ต่อมาเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.52 เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า เพชรบุรี ด้วยอาการไข้ ไอ หายใจหอบเหนื่อย มีน้ำมูก หลังรักษา 2 วันแรกอาการดีขึ้น ต่อมาอาการทรุดลง แพทย์ได้ทำการรักษาตามอาการอย่างเต็มที่ และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 ก.ค.52 จากการตรวจทางห้องปฏิบัติการในวันที่ 5 ก.ค.52 ยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ผู้เสียชีวิตรายนี้จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี ได้ส่งทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็วไปควบคุมโรคที่บ้าน ทำการเฝ้าระวังผู้สัมผัสโรคร่วมบ้านจำนวน 4 คน ติดตามอาการเป็นเวลา 7 วัน จนถึงวันนี้ทุกคนยังไม่มีใครป่วย
สำหรับตัวเลขผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ล่าสุด วานนี้ (7 ก.ค.) พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 156 ราย ส่งผลให้ยอดรวมเป็น 2,428 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 40 ราย เสียชีวิต 9 ราย และเฝ้าระวังอีก 2 ราย

ลั่นทุ่มงบประมาณเต็มที่
นายมานิต กล่าวต่อว่า จากการตรวจเยี่ยมความพร้อมของโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลจังหวัดในช่วง2วันนี้ ไม่น่าห่วง ทุกแห่งสามารถจัดจุดตรวจเบ็ดเสร็จที่จุดเดียวได้ มีอัตรากำลังทั้งแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่เพียงพอ
"เน้นย้ำขอความร่วมมือให้แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกคน ทุ่มเทสรรพกำลังทำงานดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ ไม่ต้องห่วงค่ารักษาหรือเรื่องงบประมาณไม่พอ ผมและรมว.สาธารณสุข จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ความมั่นใจกับประชาชน คาดว่าเมื่อเปิดทำการในวันพฤหัสบดี และวันศุกร์นี้ จำนวนผู้ป่วยไข้หวัดจะทยอยเข้าตรวจรักษาที่โรงพยาบาลมากกว่าวันหยุดประมาณ 2-3 เท่าตัว ที่เป็นห่วงขณะนี้คือ โรงพยาบาลชุมชน เนื่องจากมีแพทย์น้อย บางที่มีแพทย์ 2 คน อาจไม่เพียงพอ ได้มอบหมายให้นพ.สมชัย นิจพานิช รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ศึกษารูปแบบที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นการด่วนแล้ว เพื่อนำมาแก้ไขปรับปรุงบริการให้ราบรื่นที่สุด” นายมานิตกล่าว
ทั้งนี้ สำหรับการป้องกันโรค ขณะนี้พบการแพร่ระบาดในโรงเรียนเป็นส่วนใหญ่ แต่จุดที่ยังไม่เกิดการระบาด และเป็นแหล่งคนมากคือตามโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ แต่ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดเข้าไปดำเนินการเฝ้าระวังและรณรงค์ประชาสัมพันธ์การป้องกัน และประสานขอความร่วมมืออธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม สำรวจจุดลักษณะงานที่อาจเสี่ยงแพร่โรคนี้ เพื่อร่วมมือกันป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่

เด็ก7ขวบเชื้อขึ้นสมองรายแรก
นพ.เรวัติ วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์มีอาการรุนแรง 2 ราย 1 รายเป็นหญิงอายุ 20 ปี ตั้งครรภ์ 3 เดือน มีโรคประจำตัวธาลัสซีเมีย จึงมีภาวะเสี่ยงสูง ขณะนี้ได้แยกตัวไว้ในห้องเฝ้าระวัง พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี
ส่วนอีก 1 รายเป็นเด็กชายอายุ 7 ขวบ มาด้วยอาการชักเกร็ง พักอยู่ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี รักษาตัวมา 1 สัปดาห์แล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น เมื่อตรวจจึงพบว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ และพบว่าเชื้อไวรัสได้ขึ้นสมองทำให้อาการทรุดลง โดยเด็กมีอาการชักเกร็งเป็นระยะ ทำให้ไม่รู้สึกตัว แต่เอ็กซเรย์ที่ปอดกลับไม่พบว่าปอดบวม นับว่าเป็นรายแรกของไทย ที่มีเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 ขึ้นสมอง ทั้งสองรายนี้จึงเป็นผู้ป่วยอาการหนักที่ต้องเฝ้าระวังสูง
“สำหรับสาเหตุที่เชื้อขึ้นสมองนั้น สามารถเกิดขึ้นได้ตามปกติของโรค ไม่เกี่ยวกับการรักษาที่ล่าช้า หรือรักษาที่ผิดพลาดแต่อย่างใด ส่วนรายที่ 2 ผลอาการล่าสุดพบว่าเด็กยังอยู่ในภาวะปลอดภัย ทั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้มีจำนวนผู้ป่วยเป็นไข้จำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโรงพยาบาลของกรมการแพทย์วันละหลายร้อยคน ดังนั้น จึงปรับระบบจัดฟีเวอร์ฟาสต์แทร็ก ซึ่งจะคัดแยกผู้ป่วยทุกคนที่วัดไข้จากหน้าประตูโรงพยาบาลและส่งเข้าเฉพาะผู้ป่วยที่มีไข้เพื่อคัดกรองผู้ป่วยไข้หวัดฯ ให้เป็นจุดวันสตอปเซอร์วิส และได้เตรียมสถานที่เฉพาะแยกรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ เพื่อให้การดูแลแยกจากผู้ป่วยรายอื่น” อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าว

แพทย์ขอคำแนะนำจากสหรัฐฯ
รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิระดับ 11 กรมการแพทย์ กล่าวว่า อาการเชื้อไวรัสขึ้นสมองนั้น มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และไข้หวัดใหญ่ 2009 ซึ่งถือว่าเป็นธรรมชาติของโรค แต่จะเกิดขึ้นน้อยมาก โดยทั่วโลกพบน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่พบมากในประเทศญี่ปุ่น และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี อย่างไรก็ตาม เมื่อเชื้อขึ้นสมองจะทำให้มีโอกาสที่จะเสียชีวิตสูง ขณะนี้นักวิชาการทั่วโลกยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เชื้อขึ้นสมองได้ แต่สันนิษฐานว่า อุบัติการณ์ดังกล่าวน่าจะพบได้ในภูมิภาคเดียวกัน
“ก่อนหน้านี้ไทยได้พบว่ามีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเชื้อขึ้นสมองเช่นกัน แต่น้อยมากจนไม่สามารถคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ สำหรับเด็กอายุ 7 ปี ที่มีเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 เชื้อขึ้นสมองนั้น ขณะนี้ได้ขอข้อมูลแนวทางการรักษาเชื้อขึ้นสมองไปยังผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐอเมริกาแล้ว เพราะสหรัฐฯได้รักษาผู้ป่วยเด็กที่มีเชื้อขึ้นสมองไปแล้ว 4 ราย แนวทางการรักษาเบื้องต้นคือ การให้ยาโอเซลทามิเวียร์เพิ่มขึ้นจากเดิม 5 วันเพิ่มเป็น 10 วัน”รศ.(พิเศษ)นพ.ทวี กล่าว

กทม.เปิดช่องทางด่วนรับมือวันนี้
พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯกทม.เปิดเผยว่า เพื่อเพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวัง ดูแล และคัดกรองผู้ป่วย เป็นการป้องกันการแพร่ระบาด กทม.จะเปิดช่องทางด่วนสำหรับตรวจรักษาผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ หรือ Fast track เพื่อตรวจรักษาผู้ป่วยแยกเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการของโรคไข้หวัด ณ โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครทั้ง 9 แห่ง และศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 68 แห่ง เริ่มตั้งแต่วันนี้ (8 ก.ค.) ซึ่งช่องทางด่วนเฉพาะโรคนี้ แพทย์จะตรวจอาการของผู้ป่วย โดยเน้นผู้ป่วยที่มีอาการไข้สูง มีอาการไอ จาม หรือมีอาการที่อยู่ในข่ายน่าจะเป็นไข้หวัด แยกจากการตรวจโรคอื่นๆ เป็นการอำนวยความสะดวกผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว โดยหากพบผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อ กทม.จะได้ดำเนินการรักษาอย่างทันท่วงทีต่อไป

ก.ศึกษาฯพร้อมปรับแผนตามสธ.
นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะหัวหน้าทำงานป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในสถานศึกษา กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดและความรุนแรงของโรคที่เพิ่มขึ้นอย่างใกล้ชิด ขณะนี้รอการประสานจาก สธ. ถึงมาตรการที่ต้องการให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาปฏิบัติเพิ่มเติม เพื่อให้เป็นแนวปฏิบัติมาตรฐานจากหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ ได้กำชับให้ดูแลให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดทันที เช่น ที่ผ่านมาทาง สธ.ได้ขอให้โรงเรียนกวดวิชาหยุดเรียนในช่วงวันหยุดยาว เพื่อให้นักเรียนหยุดพัก ไม่เข้าไปอยู่ในชุมนุมชน ซึ่งได้ขอร้องผ่านสมาคมโรงเรียนเอกชนไปแล้ว

ฉะแดงป่าเถื่อนปิดล้อม“วิทยา”
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงกรณีการต่อต้านการลงพื้นที่ของนายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุขที่ จ.เชียงใหม่ว่า การลงพื้นที่ของนายวิทยาได้รับการต่อต้านแบบป่าเถื่อน บุกเข้าล้อม เป็นการทำลายลายภาพลักษณ์ของชาวเชียงใหม่ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว น่าเสียใจที่คนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นคนกลุ่มเล็กๆ มาทำลายภาพลักษณ์ของคนเชียงใหม่ ซึ่งเป็นคนที่มีจิตใจดี และรักษาความเป็นเมืองท่องเที่ยวมาโดยตลอด ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นคนเชียงใหม่จริงหรือไม่ ทั้งนี้ เหตุที่เกิดขึ้น เพราะมีการปลุกระดมโดยเครือข่ายวิทยุชุมชุม เรียกร้องให้ประชาชนกลุ่มหนึ่งออกมา
นายเทพไท กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเรียกร้องให้นายวิทยา แก้วภราดัย และนายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งเพราะแก้ไขปัญหาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า รัฐบาลได้ใช้มาตรฐานในการแก้ไขและป้องกันอย่างเต็มที่ ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าต่างประเทศ เหตุที่มีผู้เสียชีวิตเพราะเป็นเหตุสุดวิสัยและเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่รัฐบาลให้ความสำคัญและพยายามแก้ไข
“อยากจะให้พรรคเพื่อไทยกลับไปดูว่าสมัย พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯมีโรคระบาดไข้หวัดนกและโรคซาร์ที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่านี้ด้วยซ้ำไป แต่ก็ไม่เคยเรียกร้องให้นายกฯหรือรัฐมนตรีสาธารณสุขแสดงความรับผิดชอบ เพราะรู้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย แต่วันนี้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กลับมาท้าเดิมพันตำแหน่ง อยากจะถามว่านายพร้อมพงศ์ มีตำแหน่งที่มีศักดิ์ศรีพอมาเดิมพันตำแหน่ง เพราะนายพร้อมพงศ์ เป็นเพียง ส.ส.สอบตก และเป็น ส.ส.สอบตกในพรรคที่วันนี้ไม่มีใครอยากเป็นหัวหน้าพรรค ไม่อยากเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ หรือภาษาสมัยใหม่ก็คือไม่อยากจะเอาเพชรไปแลกกับก้อนกรวด อย่างนายพร้อมพงศ์ เป็นได้เพียงว่าเป็นเสด็จพี่ในหนังจักรๆ วงศ์ๆ เท่านั้น ถ้าให้ทันสมัยหน่อยก็ต้องเรียก ไอ้จ๋อจ้อรายวัน” นายเทพไท กล่าว

ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกทะลุ 90,000ราย
ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ หรือที่เรียกกันว่า ชนิดเอ (เอช 1 เอ็น 1) ตอนนี้กำลังระบาดใน 136 ประเทศและดินแดนต่างๆ องค์การอนามัยโลกกล่าวโดยนับตั้งแต่การรายงานยอดครั้งก่อนเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (3ก.ค.) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น4,591 คน และเสียชีวิตเพิ่มเป็น47 ราย

อาร์เจนตินาตายเพิ่มเป็น60ราย
ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขอาร์เจนตินา แถลงในวันจันทร์เช่นกันว่า มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อหวัด 2009 เพิ่มเป็น 60 รายในอาร์เจนตินาซึ่งถือเป็นประเทศที่มีการระบาดของเชื้อหวัดดังกล่าวหนักหนาสาหัสที่สุดในแถบละตินอเมริกา
ตามข้อมูลของอาร์เจนตินา และองค์การอนามัยโลก ตั้งแต่รายงานครั้งก่อนเมื่อวันศุกร์จนถึงรายงานคราวนี้ในวันจันทร์ อาร์เจนตินามีผู้เสียชีวิตมากขึ้น 34 ราย ถือเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในทุก ๆประเทศ ส่งผลให้อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากหวัด 2009 มากที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจากสหรัฐฯ ซึ่งพบผู้เสียชีวิตทั้งหมด 170 ราย และเม็กซิโก ที่มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น119 คน
ขณะเดียวกัน รัฐบาลอาร์เจนตินา ก็กำลังโดนเพ่งเล็งอย่างหนักโดยถูกวิจารณ์ว่า ตอบโต้การระบาดของไวรัสชนิดดังกล่าวอย่างเชื่องช้า
จำนวนที่แน่นอนของผู้ติดเชื้อหวัด 2009 ในอาร์เจนตินา ยังคงไม่ชัดเจน โดยห้องปฏิบัติการยืนยันผู้ติดเชื้อเพียง 2,800 ราย ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงถึง 100,000 ราย แต่หายดีแล้วเป็นส่วนใหญ่
ในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีการระบาดหนักที่สุดในแถบเอเชีย-แปซิฟิก พบผู้ติดเชื้อ 5,298 ราย ตามด้วยประเทศไทย ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น2,076 ราย

อังกฤษเสียชีวิตวันเดียว3ราย
มีเด็ก2 คนและชายอีก1คน เสียชีวิตในอังกฤษเมื่อวันจันทร์ (6) หลังตรวจพบว่าติดเชื้อหวัด 2009 โดยผู้เสียชีวิตทั้ง3ราย มีอาการโรคอื่นๆอยู่ก่อนแล้ว เจ้าหน้าที่หลายคนบอกในอังกฤษ ซึ่งยังคงเป็นประเทศที่มีการระบาดหนักที่สุดในยุโรป พบผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น7,447 คน
การเสียชีวิตของชายผู้หนึ่งกับเด็กอีกรายทางภาคเหนือของอังกฤษ และเด็กวัย 9 ขวบอีกรายในนครลอนดอน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากหวัด 2009 ในอังกฤษเพิ่มเป็น7รายแล้ว
ผู้เสียชีวิตทั้ง3ราย "มีอาการทางสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว" เจ้าหน้าที่สาธารณสุขหลายคนกล่าว แต่ปฏิเสธจะเปิดเผยรายละเอียด
ขณะที่หัวหน้าเจ้าหน้าที่แพทย์รายหนึ่งของอังกฤษบอกว่า ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจและคนอ้วน เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง
กำลังโหลดความคิดเห็น