ดีลเลอร์รถโตโยต้าขยายไลน์ธุรกิจ พุ่งเป้ารีเทลกีฬา-แฟชั่น ประเดิมคว้าสิทธิ์ แบรนด์กัลป์ลาเวย์-อาดิดาส ลุ้นอีกแบรนด์ปีนี้ ตั้งงบกว่า 20 ล้านบาท ลุยเปิดร้านแฟรนไชส์อาดิดาส 6 แห่ง ประเดิมที่สยามดิสคัฟเวอร์รี่เซ็นเตอร์ คาดทั้งปีรายได้บริษัทฯ 50 ล้านบาท
นายธนายุส โฆสิตสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัททีเอเอฟเอฟ เปิดเผยว่า การเปิดตัวของบริษัทก็เพื่อรุกเข้าสู่ธุรกิจรีเทลทางด้านกีฬารวมทั้งแฟชั่น ซึ่งเป็นการขยายไลน์จากเดิมที่เป็นดีลเลอร์โตโยต้า ซึ่งปัจจุบันก็ยังดำเนินงายนอยู่ด้วย เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพและแนวโน้มของตลาดรีเทลทางด้านกีฬาและแฟชั่นที่ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคตแม้ว่าจะได้รับผลกระทบบ้างจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและปัญหาการเมือง แต่ในระยะยาวยังเป็นธุรกิจที่เติบโตดี
ทั้งนี้แผนงานของบริษัทฯตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์และลงทุนเป็นตัวแทนจำหน่ายของผลิตภัณฑ์แบรนด์ต่างประเทศที่น่าสนใจ อย่างน้อย 3 แบรนด์ในช่วงปีแรกนี้ ล่าสุดได้เซ็นสัญญาและเริ่มดำเนินการไปแล้ว 2 แบรนด์ คือ แบรนด์กัลลาเวย์ และแบรนด์อาดิดาส ส่วนอีกหนึ่งแบรนด์อยู่ระหว่างการเจรจา เป็นสินค้า เกี่ยวกับสปอร์ตและแฟชั่น คาดว่าจะสรุปการเจรจาและเริ่มดำเนินการได้ปลายปีนี้หรือ ต้นปีหน้า
สำหรับแบรนด์กัลลาเวย์ เป็นสินค้าอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับกอล์ฟชั้นนำของโลก โดยได้รับสิทธิ์เป็นออโธไรซ์ดีลเลอร์ในไทย ซึ่งที่ผ่านมาได้เปิดช่องทางจำหน่ายไปแล้วเช่น ห้างสรรพสินค้าในกลุ่มเดอะมอลล์ ห้างอิเซตัน ตึกธนิยะพลาซ่า นอกจากนั้นก็มีที่สนามกอลฟ์เช่น ที่ออลสตาร์ไดร์ฟเรนจ์ เป็นต้น และมีแผนที่จะขยายจุดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอีกในกลุ่มสนามกอล์ฟ เพื่อให้สามารถเข้าถึงตลาดกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
ส่วนอีกแบรนด์คือ การซื้อแฟรนไชส์เปิดร้านอาดิดาสในไทย ซึ่งตามแผนงานแล้วบริษัทฯวางแผนที่จะเปิดร้านอาดิดาสรวม 6 สาขาภายในปีนี้ คาดว่าต้องใช้งบลงทุนรวมมากกว่า 20 ล้านบาท โดยเปิดสาขาแรกไปแล้วที่ สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ ชื่อว่า อาดิดาส สปอร์ต เพอร์ฟอร์มานซ์ ลงทุน 10 ล้านบาท โดยจะเป็นร้านแฟลกชิบสโตร์ด้วย
“ร้านอาดิดาส สาขานี้เราออกแบบให้เหมือนกับตู้โชว์ เช่นที่แขวนเสื้อผ้าเป็นลักษณะที่เหมือนกับแขวนเสื้อผ้าในห้องนักกีฬา มีสินค้าทุกอย่างทั้ง ฟุตบอล เทนนิส วิ่ง บาสเก็ตบอล กอล์ฟ เป็นต้น เน้นสีขาว-ดำ โดยมีเป้าหมายยอดขายของสาขานี้ประมาณ 2 ล้านบาทต่อเดือน คาดว่าจะคืนทุนประมาณ 3 เดือน”
ส่วนสาขาต่อไปมีแผนเปิดที่เมเจอร์เอกมัยประมาณต้นเดือนสิงหาคม สาขาเอสพละนาดรัตนาธิเบศร์ สาขาเควิลเลจสุขุมวิท26 สาขาเสรีเซ็นเตอร์ รวมทั้งทำเลในแหล่งท่องเที่ยวต่างจังหวัดด้วยเช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น ก็มีแผนที่จะเปิดด้วยเช่นกัน ขนาดพื้นที่แต่ละสาขาขึ้นอยู่กับทำเลและตลาดในย่านนั้น สินค้าก็จะมีให้สอดคล้องกับพื้นที่และกลุ่มเป้าหมาย
จากแผนการลงทุนที่กล่าวมา ตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 50 ล้านบาท โดยยังไม่นับรวมอีกแบรนด์ที่อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งถ้าหากเจรจาแล้วเสร็จ ก็คงต้องปรับเปลี่ยนรายได้รวมใหม่อีกครั้ง
นายธนายุส โฆสิตสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัททีเอเอฟเอฟ เปิดเผยว่า การเปิดตัวของบริษัทก็เพื่อรุกเข้าสู่ธุรกิจรีเทลทางด้านกีฬารวมทั้งแฟชั่น ซึ่งเป็นการขยายไลน์จากเดิมที่เป็นดีลเลอร์โตโยต้า ซึ่งปัจจุบันก็ยังดำเนินงายนอยู่ด้วย เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพและแนวโน้มของตลาดรีเทลทางด้านกีฬาและแฟชั่นที่ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคตแม้ว่าจะได้รับผลกระทบบ้างจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและปัญหาการเมือง แต่ในระยะยาวยังเป็นธุรกิจที่เติบโตดี
ทั้งนี้แผนงานของบริษัทฯตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์และลงทุนเป็นตัวแทนจำหน่ายของผลิตภัณฑ์แบรนด์ต่างประเทศที่น่าสนใจ อย่างน้อย 3 แบรนด์ในช่วงปีแรกนี้ ล่าสุดได้เซ็นสัญญาและเริ่มดำเนินการไปแล้ว 2 แบรนด์ คือ แบรนด์กัลลาเวย์ และแบรนด์อาดิดาส ส่วนอีกหนึ่งแบรนด์อยู่ระหว่างการเจรจา เป็นสินค้า เกี่ยวกับสปอร์ตและแฟชั่น คาดว่าจะสรุปการเจรจาและเริ่มดำเนินการได้ปลายปีนี้หรือ ต้นปีหน้า
สำหรับแบรนด์กัลลาเวย์ เป็นสินค้าอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับกอล์ฟชั้นนำของโลก โดยได้รับสิทธิ์เป็นออโธไรซ์ดีลเลอร์ในไทย ซึ่งที่ผ่านมาได้เปิดช่องทางจำหน่ายไปแล้วเช่น ห้างสรรพสินค้าในกลุ่มเดอะมอลล์ ห้างอิเซตัน ตึกธนิยะพลาซ่า นอกจากนั้นก็มีที่สนามกอลฟ์เช่น ที่ออลสตาร์ไดร์ฟเรนจ์ เป็นต้น และมีแผนที่จะขยายจุดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอีกในกลุ่มสนามกอล์ฟ เพื่อให้สามารถเข้าถึงตลาดกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
ส่วนอีกแบรนด์คือ การซื้อแฟรนไชส์เปิดร้านอาดิดาสในไทย ซึ่งตามแผนงานแล้วบริษัทฯวางแผนที่จะเปิดร้านอาดิดาสรวม 6 สาขาภายในปีนี้ คาดว่าต้องใช้งบลงทุนรวมมากกว่า 20 ล้านบาท โดยเปิดสาขาแรกไปแล้วที่ สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ ชื่อว่า อาดิดาส สปอร์ต เพอร์ฟอร์มานซ์ ลงทุน 10 ล้านบาท โดยจะเป็นร้านแฟลกชิบสโตร์ด้วย
“ร้านอาดิดาส สาขานี้เราออกแบบให้เหมือนกับตู้โชว์ เช่นที่แขวนเสื้อผ้าเป็นลักษณะที่เหมือนกับแขวนเสื้อผ้าในห้องนักกีฬา มีสินค้าทุกอย่างทั้ง ฟุตบอล เทนนิส วิ่ง บาสเก็ตบอล กอล์ฟ เป็นต้น เน้นสีขาว-ดำ โดยมีเป้าหมายยอดขายของสาขานี้ประมาณ 2 ล้านบาทต่อเดือน คาดว่าจะคืนทุนประมาณ 3 เดือน”
ส่วนสาขาต่อไปมีแผนเปิดที่เมเจอร์เอกมัยประมาณต้นเดือนสิงหาคม สาขาเอสพละนาดรัตนาธิเบศร์ สาขาเควิลเลจสุขุมวิท26 สาขาเสรีเซ็นเตอร์ รวมทั้งทำเลในแหล่งท่องเที่ยวต่างจังหวัดด้วยเช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น ก็มีแผนที่จะเปิดด้วยเช่นกัน ขนาดพื้นที่แต่ละสาขาขึ้นอยู่กับทำเลและตลาดในย่านนั้น สินค้าก็จะมีให้สอดคล้องกับพื้นที่และกลุ่มเป้าหมาย
จากแผนการลงทุนที่กล่าวมา ตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 50 ล้านบาท โดยยังไม่นับรวมอีกแบรนด์ที่อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งถ้าหากเจรจาแล้วเสร็จ ก็คงต้องปรับเปลี่ยนรายได้รวมใหม่อีกครั้ง