ASTVผู้จัดการรายวัน - กรุงไทยจับมือเพลย์พาร์คออกบัตรเติมเงินอิเล็กทรอนิกส์ "KTB Teen Card" เจาะกลุ่มวัยรุ่น-เริ่มทำงาน หวังกระตุ้นยอดบัตรเดบิต-เอทีเอ็ปีนี้ทะลุเป้าที่ 10 ล้านใบ ขณะที่ 6 เดือนแรกยอดพุ่งแตะ 9.8 ล้านใบ ด้านเงินฝากยอมรับห่วงลูกค้าดยกเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาล
นายอนุชิต อนุชิตานุกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน สายงานบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาด ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) เปิดเผยว่า วานนี้ธนาคารร่วมกับบริษัทเพลย์พาร์คได้เปิดตัวบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ เป็นครั้งแรกภายใต้ชื่อ "KTB Teen Card ใช้ชีวิตสนุกกว่าที่เคย" ซึ่งเป็นบัตรเติมเงินล่วงหน้า (Prepaid Card) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กลุ่มลูกค้าของเพลย์พาร์คทั่วประเทศกว่า 12 ล้านราย
นายอนุชิตกล่าวอีกว่า บัตรดังกล่าวจะเป็นเหมือนกับบัตรเดบิต ซึ่งมีการออกแบบให้สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนรุ่นใหม่ ทั้งกลุ่มวัยรุ่นและเริ่มทำงาน ซึ่งลูกค้าสามารถใช้บัตรแทนเงินสดในการซื้อสินค้าจากร้านค้าที่มีเครื่องหมาย VISA รวมทั้งถอนเงิน ชำระค่าสินค้าและบริการผ่านเครื่องเอทีเอ็ม อีกทั้งบัตรดังกล่าวยังสามารถนำไปชำระค่าสินค้าและบริการ โดยผ่านช่องทางบริการ KTB On Line ได้อีกด้วย โดยบัตรดังกล่าวจะมีจำหน่ายที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ในราคาตั้งแต่ 500 บาทและสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท
"ธนาคารมองว่าความร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากจะตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนยุคออนไลน์อย่างชัดเจนแล้ว คาดว่าจะสามารถปลุกกระแสความตื่นตัวทางตลาด สวนทางกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันได้อย่างแน่นอน โดยธนาคารคาดว่าจะมียอดการเติบโตจำนวนบัตรในสิ้นปี 2552 นี้ 400,000 บัตร"
สำหรับยอดการเติบโตบัตรเดบิตและบัตรเอทีเอ็มของธนาคารในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานั้น มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ธนาคารมีฐานบัตรดังกล่าวในปัจจุบันอยู่ที่ 9.8 ล้านบัตร จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าสิ้นปีนี้ฐานบัตรจะอยู่ที่ 10 ล้านบัตร ดังนั้น ธนาคารมั่นใจว่ายอดบัตรจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน วึ่งจากที่ธนาคารได้เปิดตัวแคมเปญใหม่บัตรเดบิต KTB Teen Card ดังกล่าวก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ได้
"ยอดบัตรในสิ้นปีนี้เกินกว่าเป้าก็ดี แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ปรับเป้า เชื่อว่าบัตรใหม่จะเข้ามาเติมจากฐานบัตรเดิม ซึ่งมองว่าในต่างประเทศความนิยมในบัตรเดบิตการ์ดมากขึ้น ภายหลังจากที่วิกฤติเศรษฐกิจโลกมีการชะลอตัวลงทำให้ประชาชนใช้จ่ายระมัดระวังมากขึ้นโดยหันไปใช้บัตรเดบิตแทนการใช้บัตรเครดิต ซึ่งจะดูได้จากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นปีละ 100% และถ่าเฉลี่ยยอดการใช้จ่ายจะอยู่ที่ 3,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน"
ด้านเงินฝากในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ยังมีอัตราการขยายตัวในระดับที่ดี แต่ในช่วงต่อไปนั้น คงจะต้องดูถึงปัจจัยที่เพิ่มเติมเข้ามา โดยเฉพาะการออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งของรัฐบาล ซึ่งธนาคารยังความกังวลเล็กน้อย เนื่องจากอาจจะทำให้กลุ่มลูกค้ามีการโยกย้ายเงินไปบางส่วน
ขณะที่แนวโน้มสินเชื่อรายย่อยในช่วงครึ่งปีหลังนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะขยายตัวดีขึ้นจากในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของผู้ขอสินเชื่อ รวมทั้งภาวะการจ้างงานด้วย
นายอนุชิต อนุชิตานุกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน สายงานบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาด ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) เปิดเผยว่า วานนี้ธนาคารร่วมกับบริษัทเพลย์พาร์คได้เปิดตัวบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์ เป็นครั้งแรกภายใต้ชื่อ "KTB Teen Card ใช้ชีวิตสนุกกว่าที่เคย" ซึ่งเป็นบัตรเติมเงินล่วงหน้า (Prepaid Card) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กลุ่มลูกค้าของเพลย์พาร์คทั่วประเทศกว่า 12 ล้านราย
นายอนุชิตกล่าวอีกว่า บัตรดังกล่าวจะเป็นเหมือนกับบัตรเดบิต ซึ่งมีการออกแบบให้สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนรุ่นใหม่ ทั้งกลุ่มวัยรุ่นและเริ่มทำงาน ซึ่งลูกค้าสามารถใช้บัตรแทนเงินสดในการซื้อสินค้าจากร้านค้าที่มีเครื่องหมาย VISA รวมทั้งถอนเงิน ชำระค่าสินค้าและบริการผ่านเครื่องเอทีเอ็ม อีกทั้งบัตรดังกล่าวยังสามารถนำไปชำระค่าสินค้าและบริการ โดยผ่านช่องทางบริการ KTB On Line ได้อีกด้วย โดยบัตรดังกล่าวจะมีจำหน่ายที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ในราคาตั้งแต่ 500 บาทและสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท
"ธนาคารมองว่าความร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากจะตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนยุคออนไลน์อย่างชัดเจนแล้ว คาดว่าจะสามารถปลุกกระแสความตื่นตัวทางตลาด สวนทางกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันได้อย่างแน่นอน โดยธนาคารคาดว่าจะมียอดการเติบโตจำนวนบัตรในสิ้นปี 2552 นี้ 400,000 บัตร"
สำหรับยอดการเติบโตบัตรเดบิตและบัตรเอทีเอ็มของธนาคารในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานั้น มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ธนาคารมีฐานบัตรดังกล่าวในปัจจุบันอยู่ที่ 9.8 ล้านบัตร จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าสิ้นปีนี้ฐานบัตรจะอยู่ที่ 10 ล้านบัตร ดังนั้น ธนาคารมั่นใจว่ายอดบัตรจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน วึ่งจากที่ธนาคารได้เปิดตัวแคมเปญใหม่บัตรเดบิต KTB Teen Card ดังกล่าวก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ได้
"ยอดบัตรในสิ้นปีนี้เกินกว่าเป้าก็ดี แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ปรับเป้า เชื่อว่าบัตรใหม่จะเข้ามาเติมจากฐานบัตรเดิม ซึ่งมองว่าในต่างประเทศความนิยมในบัตรเดบิตการ์ดมากขึ้น ภายหลังจากที่วิกฤติเศรษฐกิจโลกมีการชะลอตัวลงทำให้ประชาชนใช้จ่ายระมัดระวังมากขึ้นโดยหันไปใช้บัตรเดบิตแทนการใช้บัตรเครดิต ซึ่งจะดูได้จากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นปีละ 100% และถ่าเฉลี่ยยอดการใช้จ่ายจะอยู่ที่ 3,000 บาทต่อบัตรต่อเดือน"
ด้านเงินฝากในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ยังมีอัตราการขยายตัวในระดับที่ดี แต่ในช่วงต่อไปนั้น คงจะต้องดูถึงปัจจัยที่เพิ่มเติมเข้ามา โดยเฉพาะการออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งของรัฐบาล ซึ่งธนาคารยังความกังวลเล็กน้อย เนื่องจากอาจจะทำให้กลุ่มลูกค้ามีการโยกย้ายเงินไปบางส่วน
ขณะที่แนวโน้มสินเชื่อรายย่อยในช่วงครึ่งปีหลังนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะขยายตัวดีขึ้นจากในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของผู้ขอสินเชื่อ รวมทั้งภาวะการจ้างงานด้วย
