xs
xsm
sm
md
lg

AITฟุ้งQ2เจ๋ง-ได้งานเพิ่มกว่า2พันล.จับมือพันธมิตรลุยงานในและตปท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน -แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น ฯ มั่นใจผลงานไตรมาส 2 เจ๋งกว่าดีกว่าไตรมาสแรก หลังเข้าประมูลและได้งานใหม่เพิ่มอีกกว่า 2 พันล้านบาท ทะยอยรับรู้หมดปีนี้ ฟุ้งดันผลงานปีนี้โตตามเป้าที่ระดับ 3,300 ล้านบาทได้ เผยจับมือ จัสมิน และล็อกซเล่ย์ ลุยงาน 3 จี พร้อมวางแผนขายตลาดในต่างประเทศ

นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ว่า บริษัทฯ ได้เข้าประมูลงานในโครงการขนาดใหญ่ทั้งจากภาครัฐและเอกชนหลายโครงการ ส่งผลให้มูลค่างานในมือ (Backlog) ณ ปัจจุบันซึ่งไม่รวมไตรมาสแรกมีจำนวนกว่า 2 พันล้านบาท โดยจะสามารถทยอยรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดได้ภายในปีนี้

"ในไตรมาส 2 บริษัทฯ ได้รับงานใหม่เข้ามากพอที่จะทำให้รายได้ในครึ่งหลังของปี และรายได้รวมทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งงานที่ได้เป็นงานจากภาครัฐเป็นส่วนใหญ่ ขณะเดียวกันก็ทยอยรับรู้รายได้จากโครงการก่อนหน้านี้ ทำให้คาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 2 มีโอกาสออกมาดีกว่าไตรมาสแรกที่ผ่านมา " นายศิริพงษ์กล่าว

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง 2552 มองว่ายังมีแนวโน้มที่ดี โดยคาดว่า AIT จะเข้าประมูลงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสื่อสารและโทรคมนาคมมูลค่ากว่า 2-3 พันล้านบาท ทั้งจากการลงทุนขยายงานของภาครัฐที่ยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับภาคเอกชนก็จำเป็นที่จะต้องเดินหน้าลงทุนในเรื่องเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทั้งเทคโนโลยี 3 จี และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เป็นต้น เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดของตัวเองให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ ดังนั้น จึงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานปี 2552 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ระดับ 3,300 ล้านบาท

โดยครึ่งปีหลัง AIT มองว่ายังมีทิศทางที่ดี งานที่จะเข้าประมูลเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ก็คาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 2-3 พันล้านบาทเป็นอย่างน้อย ซึ่งส่วนหนึ่งก็คงจะสามารถรับรู้เป็นรายได้ทันในปีนี้ จึงคาดว่าทั้งปีก็คงเป็นไปตามเป้าหมายที่ 3,300 ล้านบาทได้แน่

นอกจากนี้ AIT ยังอยู่ระหว่างการเจรจาเบื้องต้นกับบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS และ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY ในการร่วมมือทางธุรกิจเพื่อรองรับโครงการลงทุนด้านเทคโนโลยี 3 จี ขณะเดียวกัน AIT ยังคงเดินหน้าวางฐานขยายตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และ เวียดนาม เป็นต้น ซึ่งถือเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโต รวมไปถึงให้สอดรับการเติบโตและการลงทุนอย่างมหาศาลในอุตสาหกรรมไอทีในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น