รอยเตอร์/เอเอฟพี - เครื่องบินแอร์บัส เอ 310 - 300 ของสายการบินเยเมน ตกลงกลางทะเลที่มีคลื่นลมกรรโชกแรง พร้อมด้วยผู้โดยสารและลูกเรือรวม 153 ชีวิต ขณะเตรียมลงจอดที่เมืองหลวงของหมู่เกาะคอโมโรสเมื่อเช้าวานนี้ (1) เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบผู้รอดชีวิตซึ่งเป็นเด็กแล้วเพียง 1 ราย และนำตัวเหยื่อขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว
เจ้าหน้าที่การบินหลายคนยืนยันว่า พบเห็นศพผู้โดยสารและซากชิ้นส่วนของเที่ยวบินมรณะลำนี้ในมหาสมุทรอินเดีย บริเวณใกล้กับกรุงโมโรนี เมืองหลวงของคอโมโรส ซึ่งเป็นประเทศหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกา
แต่อย่างน้อยก็มีเด็กคนหนึ่งจากจำนวนผู้โดยสารและลูกเรือทั้งสิ้น 153 รายของเที่ยวบินมรณะนี้ รอดชีวิตและได้รับการช่วยเหลือแล้ว อิสซา เบน อีมานี ศัลยแพทย์คนหนึ่งจากโรงพยาบาลในโมโรนีกล่าว
อีมานีบอกอีกว่า ผู้รอดชีวิตรายนี้ถูกนำตัวขึ้นฝั่ง ซึ่งมีรถพยาบาลจอดรออยู่ เพื่อนำตัวมารักษาตัวที่โรงพยาบาล
อาร์ฟาชาด ซาลิม ผู้ประสานงานหน่วยกาชาดของคอโมโรสยืนยันว่า เด็กคนดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่ นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า ชาวประมงท้องถิ่นพบซากชิ้นส่วนของเครื่องบิน, กระเป๋าผู้โดยสาร, ตลอดจนทรัพย์สินต่าง ๆ
ที่กรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน โมฮัมมัด อัลซูมัยรี รองกรรมการอำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของสายการบินเยเมน ซึ่งมีชื่อทางการว่า “เยเมเนีย” กล่าวว่า พบศพผู้โดยสารแล้ว 3 ราย
เจ้าหน้าที่สายการบินเยเมนเผยว่า มีผู้โดยสาร 142 ชีวิต และลูกเรืออีก 11 คน อยู่บนเที่ยวบินมรณะลำนี้ ซึ่งออกเดินทางจากนครปารีสเมื่อเช้าวันจันทร์ (29) โดยแวะพักหลายจุดทั้งที่เมืองมาร์เซย์ของฝรั่งเศส, กรุงซานาของเยเมน, และกรุงจิบูตี ประเทศจิบูตีในแอฟริกา ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังกรุงโมโรนี ของคอโมโรส
โดมินิก บุสเซอโรรัฐมนตรีกระทางคมนาคมของฝรั่งเศสเผยว่า เจ้าหน้าที่เคยตรวจพบความบกพร่องหลายอย่างของเครื่องบินแอร์บัส เอ 310 - 300 ของสายการบินเยเมนลำนี้ ระหว่างการตรวจสอบเมื่อปี 2007 ในฝรั่งเศส และจากนั้นเครื่องบินดังกล่าวไม่เคยบินผ่านน่านฟ้าฝรั่งเศสอีกเลย
"องค์การคมนาคมขนส่งของฝรั่งเศส (ดีจีเอซี) ตรวจสอบเครื่องบินแอร์ 310 ลำนี้ในปี 2007 และชี้ให้เห็นความบกพร่องหลายอย่าง" บุสเซอโรบอกกับสถานีโทรทัศน์ไอ - เทเล
"สายการบินเยเมนไม่ได้ถูกบรรจุชื่อในบัญชีดำ แต่อยู่ในข่ายที่ต้องตรวจเช็คอย่างเข้มงวดในส่วนของเรา รวมทั้งมีกำหนดต้องให้ปากคำกับคณะกรรมาธิการความปลอดภัยของประชาคมยุโรป (อียู)ในเร็วๆ นี้ด้วย"
ทางด้านแอร์บัส ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องบิน รีบส่งทีมสอบสวนไปยังคอโมโรสทันที และกล่าวเสริมว่า เครื่องบินลำที่ประสบเหตุคราวนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1990 โดยสายการบินเยเมนนำมาใช้ตั้งแต่ปี 1999
ฮัจญี อาลี ผู้อำนวยการท่าอากาศนานาชาติกรุงโมโรนีแถลงว่า หอควบคุมขาดการติดต่อกับเที่ยวบินไอวาย 626 ลำดังกล่าว เพียงไม่นานก่อนถึงกำหนดเวลาที่เครื่องบินจะแล่นลงจอด พร้อมยืนยันด้วยว่า ขณะนั้นสภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนัก
เจ้าหน้าที่บอกว่า เที่ยวบินมรณะลำดังกล่าว มีผู้โดยสาร 66 คน ที่เป็นชาวฝรั่งเศส และมีเด็กทารกอีก 3 คน เดินทางมาด้วย
ภายหลังเกิดเหตุแล้ว เรือกู้ภัยหลายลำได้มุ่งหน้าไปยังบริเวณที่คาดกันว่าเครื่องบินตก โดยฝรั่งเศสส่งเรือของกองทัพ 2 ลำ และเครื่องบินอีก 1 ลำ จากฐานทัพในอาณาเขตละแวกใกล้เคียงตามไปสมทบ
แต่เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนักตรงบริเวณดังกล่าว ตั้งแต่ที่เครื่องบินเยเมนลำนี้บินฝ่า ก่อนจะขาดการติดต่อและหายไปจากจอเรดาร์ ส่งผลทำให้การกู้ภัยครั้งนี้ยากลำบากยิ่งขึ้น
"เครื่องบินลำเล็กหลายลำบินผ่านบริเวณดังกล่าว มีนักบินพบเห็นซากชิ้นส่วนของเครื่องบิน" นูร์ดีน บูร์ฮาน รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีคอโมโรสกล่าว
"มีผู้เห็นศพลอยอยู่กลางทะเล และพบคราบน้ำมันบริเวณห่างจากกรุงโมโรนีราว 16 หรือ 17 ไมล์ทะเล" โมฮัมมัด อับเดล กาเดอร์ เจ้าหน้าที่การบินฝ่ายพลเรือนระดับอาวุโสของเยเมนกล่าวกับผู้สื่อข่าว
"สภาพอากาศเลวร้ายมาก" เขากล่าว "ทะเลมีคลื่นสูง"
กาเดอร์บอกว่า เที่ยวบินของสายการบินเยเมนลำนี้ออกเดินทางจากกรุงซานาของเยเมนเมื่อเวลา 18.45 น.ตามเวลามาตรฐานสากลเมื่อวันจันทร์ (29) (หรือตรงกับ 01.45 น.วันอังคารเวลาเมืองไทย) และขาดการติดต่อกับหอควบคุมเมื่อเวลา 22.51น.ตามเวลามาตรฐานในวันอังคาร(30) (ตรงกับ 05.51 น.เวลาเมืองไทย)
ครั้งเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่เครื่องบินแอร์บัสตกลงสู่ทะเลในรอบ 1 เดือน หลังจากเครื่องบินแอร์บัสเอ 330 - 200 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ร่วงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก พร้อมกับผู้โดยสาร 228 ชีวิต เมื่อต้นเดือน (1)
เจ้าหน้าที่การบินหลายคนยืนยันว่า พบเห็นศพผู้โดยสารและซากชิ้นส่วนของเที่ยวบินมรณะลำนี้ในมหาสมุทรอินเดีย บริเวณใกล้กับกรุงโมโรนี เมืองหลวงของคอโมโรส ซึ่งเป็นประเทศหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกา
แต่อย่างน้อยก็มีเด็กคนหนึ่งจากจำนวนผู้โดยสารและลูกเรือทั้งสิ้น 153 รายของเที่ยวบินมรณะนี้ รอดชีวิตและได้รับการช่วยเหลือแล้ว อิสซา เบน อีมานี ศัลยแพทย์คนหนึ่งจากโรงพยาบาลในโมโรนีกล่าว
อีมานีบอกอีกว่า ผู้รอดชีวิตรายนี้ถูกนำตัวขึ้นฝั่ง ซึ่งมีรถพยาบาลจอดรออยู่ เพื่อนำตัวมารักษาตัวที่โรงพยาบาล
อาร์ฟาชาด ซาลิม ผู้ประสานงานหน่วยกาชาดของคอโมโรสยืนยันว่า เด็กคนดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่ นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า ชาวประมงท้องถิ่นพบซากชิ้นส่วนของเครื่องบิน, กระเป๋าผู้โดยสาร, ตลอดจนทรัพย์สินต่าง ๆ
ที่กรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน โมฮัมมัด อัลซูมัยรี รองกรรมการอำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของสายการบินเยเมน ซึ่งมีชื่อทางการว่า “เยเมเนีย” กล่าวว่า พบศพผู้โดยสารแล้ว 3 ราย
เจ้าหน้าที่สายการบินเยเมนเผยว่า มีผู้โดยสาร 142 ชีวิต และลูกเรืออีก 11 คน อยู่บนเที่ยวบินมรณะลำนี้ ซึ่งออกเดินทางจากนครปารีสเมื่อเช้าวันจันทร์ (29) โดยแวะพักหลายจุดทั้งที่เมืองมาร์เซย์ของฝรั่งเศส, กรุงซานาของเยเมน, และกรุงจิบูตี ประเทศจิบูตีในแอฟริกา ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังกรุงโมโรนี ของคอโมโรส
โดมินิก บุสเซอโรรัฐมนตรีกระทางคมนาคมของฝรั่งเศสเผยว่า เจ้าหน้าที่เคยตรวจพบความบกพร่องหลายอย่างของเครื่องบินแอร์บัส เอ 310 - 300 ของสายการบินเยเมนลำนี้ ระหว่างการตรวจสอบเมื่อปี 2007 ในฝรั่งเศส และจากนั้นเครื่องบินดังกล่าวไม่เคยบินผ่านน่านฟ้าฝรั่งเศสอีกเลย
"องค์การคมนาคมขนส่งของฝรั่งเศส (ดีจีเอซี) ตรวจสอบเครื่องบินแอร์ 310 ลำนี้ในปี 2007 และชี้ให้เห็นความบกพร่องหลายอย่าง" บุสเซอโรบอกกับสถานีโทรทัศน์ไอ - เทเล
"สายการบินเยเมนไม่ได้ถูกบรรจุชื่อในบัญชีดำ แต่อยู่ในข่ายที่ต้องตรวจเช็คอย่างเข้มงวดในส่วนของเรา รวมทั้งมีกำหนดต้องให้ปากคำกับคณะกรรมาธิการความปลอดภัยของประชาคมยุโรป (อียู)ในเร็วๆ นี้ด้วย"
ทางด้านแอร์บัส ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องบิน รีบส่งทีมสอบสวนไปยังคอโมโรสทันที และกล่าวเสริมว่า เครื่องบินลำที่ประสบเหตุคราวนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1990 โดยสายการบินเยเมนนำมาใช้ตั้งแต่ปี 1999
ฮัจญี อาลี ผู้อำนวยการท่าอากาศนานาชาติกรุงโมโรนีแถลงว่า หอควบคุมขาดการติดต่อกับเที่ยวบินไอวาย 626 ลำดังกล่าว เพียงไม่นานก่อนถึงกำหนดเวลาที่เครื่องบินจะแล่นลงจอด พร้อมยืนยันด้วยว่า ขณะนั้นสภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนัก
เจ้าหน้าที่บอกว่า เที่ยวบินมรณะลำดังกล่าว มีผู้โดยสาร 66 คน ที่เป็นชาวฝรั่งเศส และมีเด็กทารกอีก 3 คน เดินทางมาด้วย
ภายหลังเกิดเหตุแล้ว เรือกู้ภัยหลายลำได้มุ่งหน้าไปยังบริเวณที่คาดกันว่าเครื่องบินตก โดยฝรั่งเศสส่งเรือของกองทัพ 2 ลำ และเครื่องบินอีก 1 ลำ จากฐานทัพในอาณาเขตละแวกใกล้เคียงตามไปสมทบ
แต่เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนักตรงบริเวณดังกล่าว ตั้งแต่ที่เครื่องบินเยเมนลำนี้บินฝ่า ก่อนจะขาดการติดต่อและหายไปจากจอเรดาร์ ส่งผลทำให้การกู้ภัยครั้งนี้ยากลำบากยิ่งขึ้น
"เครื่องบินลำเล็กหลายลำบินผ่านบริเวณดังกล่าว มีนักบินพบเห็นซากชิ้นส่วนของเครื่องบิน" นูร์ดีน บูร์ฮาน รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีคอโมโรสกล่าว
"มีผู้เห็นศพลอยอยู่กลางทะเล และพบคราบน้ำมันบริเวณห่างจากกรุงโมโรนีราว 16 หรือ 17 ไมล์ทะเล" โมฮัมมัด อับเดล กาเดอร์ เจ้าหน้าที่การบินฝ่ายพลเรือนระดับอาวุโสของเยเมนกล่าวกับผู้สื่อข่าว
"สภาพอากาศเลวร้ายมาก" เขากล่าว "ทะเลมีคลื่นสูง"
กาเดอร์บอกว่า เที่ยวบินของสายการบินเยเมนลำนี้ออกเดินทางจากกรุงซานาของเยเมนเมื่อเวลา 18.45 น.ตามเวลามาตรฐานสากลเมื่อวันจันทร์ (29) (หรือตรงกับ 01.45 น.วันอังคารเวลาเมืองไทย) และขาดการติดต่อกับหอควบคุมเมื่อเวลา 22.51น.ตามเวลามาตรฐานในวันอังคาร(30) (ตรงกับ 05.51 น.เวลาเมืองไทย)
ครั้งเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่เครื่องบินแอร์บัสตกลงสู่ทะเลในรอบ 1 เดือน หลังจากเครื่องบินแอร์บัสเอ 330 - 200 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ร่วงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก พร้อมกับผู้โดยสาร 228 ชีวิต เมื่อต้นเดือน (1)