xs
xsm
sm
md
lg

พบสัญญาณกล่องดำแอร์บัสเยเมนแล้ว เด็กหญิงหนึ่งเดียวผู้รอดชีวิตอาการดีขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เด็กหญิงบาเฮีย บาคารี ซึ่งอาศัยอยู่ที่เมืองมาร์เซย์ของฝรั่งเศส รอดตายราวปาฏิหาริย์โดยไม่มีบาดแผลรุนแรงจากเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้
เอเจนซี/ เอเอฟพี - หน่วยลาดตระเวนทางอากาศของฝรั่งเศสจับสัญญาณจากเครื่องบันทึกข้อมูลการบิน (กล่องดำ) ของเครื่องบินแอร์บัส เอ 310 - 300 ของสายการบินเยเมเนีย ซึ่งตกลงกลางทะเลที่มีคลื่นลมกรรโชกแรง พร้อมด้วยผู้โดยสารและลูกเรือรวม 153 ชีวิต บริเวณนอกชายฝั่งหมู่เกาะคอโมโรสเมื่อเช้าวันอังคาร (30) โดยเรืออีกลำกำลังตามไปสมทบเพื่อเก็บกู้อุปกรณ์สำคัญดังกล่าว ส่วนเด็กหญิงวัย 13 ปี ซึ่งจนถึงตอนนี้เป็นผู้รอดชีวิตเพียงรายเดียว เริ่มมีอาการดีขึ้นแล้ว และกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

อแลง ชัวยองเดต์ โฆษกกระทรวงความร่วมมือของฝรั่งเศส ซึ่งเดินทางไปยังกรุงเมืองหลวงของหมู่เกาะคอโมโรสหลังเกิดเหตุเครื่องบินตก บอกกับเอเอฟพีทางโทรศัพท์ว่า พบสัญญาณจากกล่องดำของเครื่องบินเยเมนลำดังกล่าวบริเวณไม่ไกลจากชายฝั่งของหมู่เกาะคอโมโรส

"หน่วยลาดตระเวนทางอากาศพบสัญญาณกล่องดำเมื่อเวลา 12.30 น.ตามเวลามาตรฐานสากลในวันอังคาร (30) (หรือตรงกับเวลา 19.30 น.วันอังคารเวลาเมืองไทย)" โฆษกหญิงกล่าว

"รีเยิส" เรือลาดตระเวนของฝรั่งเศส จะเดินทางถึงบริเวณดังกล่าวในวันพุธ (1) เพื่อเริ่มปฏิบัติการเก็บกู้กล่องดำ"

อย่างไรก็ตาม คริสตอฟ ปราซุค เจ้าหน้าที่ทหารผู้หนึ่งกล่าวว่า เครื่องบินลาดตระเวนพบสัญญาณดังกล่าวจริง แต่ไม่ยืนยันว่ามาจากกล่องดำหรือไม่

เครื่องบินแอร์บัส เอ 310 - 300 ของสายการบินเยเมน ตกลงกลางมหาสมุทรอินเดียเมื่อเช้าวันอังคาร (30) พร้อมด้วยผู้โดยสารและลูกเรือรวม 153 ชีวิต ชีวิต ขณะเตรียมลงจอดที่กรุงโมโรนี เมืองหลวงของหมู่เกาะคอโมโรส โดยเป็นการบินในระยะสุดท้ายของเที่ยวบินดังกล่าวที่เริ่มต้นเดินทางจากกรุงปารีสและแวะพักที่เมืองมาร์เซย์ของฝรั่งเศส เพื่อมุ่งหน้าไปยังคอโมโรส โดยผ่านทางประเทศเยเมน

ผู้รอดชีวิตเพียงรายเดียวจากเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้ ซึ่งเป็นเด็กหญิงวัย 13 ปี ถูกพบอยู่กลางทะเล "จนถึงตอนนี้เรายังไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติม แต่เรายังไม่สิ้นหวัง" อัยดี นัดโฮอิมบอกกับรอยเตอร์ทางโทรศัพท์

เด็กหญิงบาเฮีย บาคารี ซึ่งอาศัยอยู่ที่เมืองมาร์เซย์ของฝรั่งเศส รอดตายราวปาฏิหาริย์โดยไม่มีบาดแผลรุนแรงจากเหตุเครื่องบินตกครั้งนี้

ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากจำนวนผู้โดยสารและลูกเรือทั้งสิ้น 153 รายของเที่ยวบินมรณะลำนี้ กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยอาการของเธอ "ไม่น่าวิตกแต่อย่างใด" รามูลาตี เบน อาลี จากหน่วยกาชาดท้องถิ่นกล่าว

หน่วยกู้ภัยคนหนึ่งบอกกับสถานีวิทยุยุโรป 1 ของฝรั่งเศสว่า พบเห็นเด็กหญิงดวงแข็งรายนี้ว่ายน้ำอยู่กลางทะเลที่มีคลื่นลมกรรโชกแรง โดยรายล้อมด้วยศพผู้โดยสารและซากชิ้นส่วนเครื่องบินในความมืด เพียง 2 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ

"เราพยายามโยนห่วงชูชีพให้เธอ แต่เธอคว้าเอาไว้ไม่ได้ ผมจึงต้องกระโดดลงไปช่วยเธอ" เจ้าหน้าที่กู้ภัยคนดังกล่าวบอก

"เธอหนาวสั่น เราห่มผ้าให้เธอ 4 ชั้น เราให้เธอดื่มน้ำผสมน้ำตาลอุ่น ๆ "

พ่อของบาเฮีย บาคารี เปิดเผยกับสถานีวิทยุฝรั่งเศสว่า ลูกสาวมีแผลไฟไหม้บางแห่ง และเธอถูกโยนออกมาจากเครื่องบิน โดยเธอเองแทบไม่เคยรู้จักวิธีการว่ายน้ำ แต่รอดชีวิตมาได้เพราะเกาะซากชิ้นส่วนของเครื่องบินเอาไว้ และได้ยินเสียงของหน่วยกู้ภัย

แม่ของเด็กหญิงผู้รอดชีวิต เป็นหนึ่งในจำนวนผู้โดยสารและลูกเรือ 152 ราย ที่คาดว่าน่าจะเสียชีวิต

เครื่องบินแอร์บัสเอ 310 ลำดังกล่าวแล่นลงจอดครั้งแรกไม่สำเร็จ จึงพยายามใหม่อีกครั้ง และตกลงกลางทะเล เจ้าหน้าที่หลายคนกล่าว ด้านหน่วยงานของฝรั่งเศส เปิดเผยว่า เครื่องบินลำนี้ ซึ่งใช้งานมานาน 19 ปี ถูกสั่งห้ามไม่ให้บินผ่านน่านน้ำฝรั่งเศส เนื่องจากมีข้อกังขาหลายอย่างด้านความปลอดภัยของเครื่องบิน

โดมินิก บุสเซอโรรัฐมนตรีกระทางคมนาคมของฝรั่งเศสเผยว่า ชุดสอบสวนตรวจพบความบกพร่องหลายอย่างของเครื่องบินแอร์บัส เอ 310 - 300 ของสายการบินเยเมนลำนี้ ระหว่างการตรวจสอบเมื่อปี 2007 ในฝรั่งเศส นอกจากนี้สายการบินดังกล่าว ซึ่งก่อตั้งในปี 1961 ยังถูกสังเกตและติดตามอย่างใกล้ชิดจากหน่วยงานของประชาคมยุโรป (อียู)

"เครื่องบินลำนี้ไม่เคยบินผ่านน่านฟ้าของเราอีกเลย" รมต.คมนาคมฝรั่งเศสบอกกับสถานีโทรทัศน์ไอ - เทเล

ทั้งนี้จากเอกสารทางกฎหมายของอียู คณะสอบสวนอื่น ๆ ในเยอรมนีและอิตาลี รายงานตรงกันถึง "ความบกพร่อง" หลายอย่างของสายการบินแห่งนี้ และเมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน คณะกรรมาธิการอียูยังกำชับให้สายการบินเยเมเนียจัดทำ "แผนมาตรการ" เพื่อแก้ปัญหาความกังวลด้านความปลอดภัย

เจ้าหน้าที่บอกว่า เครื่องบินของสายการบินเยเมเนียลำนี้ตกลงกลางทะเลที่มีคลื่นลมกรรโชกแรง ท่ามกลางความมืดมิด ภายหลังขาดการติดต่อและหายไปจากจอเรดาร์เมื่อเมื่อเวลา 22.51น.ตามเวลามาตรฐานในวันอังคาร(30) (ตรงกับ 05.51 น.เวลาประเทศไทย)

ที่สนามบินคอโมโรส เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเมื่อชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ที่นั่นพยายามจะขัดขวางไม่ให้ผู้โดยสารเช็คอินเที่ยวบินอีกไฟลท์ ที่ออกเดินทางจากสนามบินในกรุงปารีสเพื่อมุ่งหน้ามายังเยเมน เจ้าหน้าที่สนามบินรายงาน

มีผู้โดยสาร 60 ราย ซึ่งมีกำหนดจะเดินทางด้วยเที่ยวบินดังกล่าว ไม่ยอมเช็คอิน ขณะที่โฆษกหญิงของสนามบินไม่ได้ยืนยันว่า เกิดจากการประท้วงหรือผู้โดยสารตัดสินใจยกเลิกเที่ยวบินเนื่องจากเหตุผลอื่น
ญาติของผู้โดยสารชาวคอโมโรสแสดงความไม่พอใจกับการค้นหาผู้เสียชีวิตที่ไม่ได้ดั่งใจเขา
เครื่องบินแอร์บัสเอ310 - 300 รุ่นที่ตกใกล้คอโมโรส
กำลังโหลดความคิดเห็น