ASTVผู้จัดการรายวัน – เจ มาร์ทฯ เทรดวันแรก บล.คันทรี ลุ้นเหนือจอง ด้านบล. พัฒนสิน เชื่อเล่นเก็งกำไรระยะสั้น เหตุตลาดหุ้นไม่เอื้อ ด้าน "เกียรติธนา ขนส่ง " ยื่นไฟลิ่งเพื่อเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 40 ล้านหุ้น เข้าจดทะเบียนในตลาด mai โดยมีบล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) คันทรี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS กล่าวว่า ราคาจำหน่ายสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายแก่ประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) ของ บมจ.เจ มาร์ทหรือ JMART. ที่ 2.20 บาท เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานแล้ว ซึ่งคาดว่าราคาหุ้นที่จะเปิดทำการซื้อขายในวันนี้( 25มิ.ย.) อาจจะสามารถยืนเหนือราคาไอพีโอได้ เนื่องจากทิศทางตลาดหุ้นไทยปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์ดี
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS กล่าวว่า ราคาไอพีโอของหุ้น JMART ที่ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างดีก็เชื่อว่าน่าจะเห็นการเก็งกำไรในช่วงสั้น เนื่องจากภาพรวมบรรยากาศการซื้อขายหุ้นไทยช่วงนี้ยังไม่ค่อยดีนัก
โดย JMART เปิดจองซื้อหุ้น IPO ระหว่าง 17-18 มิถุนายน 52 ราคาหุ้นละ 1.80 บาท ให้ส่วนลดกับนักลงทุนเฉลี่ย 16% จากมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท เสนอขายทั้งหมด 75 ล้านหุ้น คิดเป็นเงินระดมทุนประมาณ 135 ล้านบาท
ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทมีแผนจะนำไปขยายงาน ซึ่งบริษัทดำเนินธุรกิจเป็นผู้จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องทุกรุ่นทุกระบบ พร้อมบริการเสริมแบบครบวงจร และยังประกอบธุรกิจพัฒนาและบริหารพื้นที่ค้าปลีก โดยเน้นสินค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่และสินค้าเทคโนโลยี ซึ่งมีรูปลักษณ์ทันสมัย ภายใต้ชื่อ IT Junction และ เจ-เวนิว และธุรกิจบริหารติดตามเร่งรัดหนี้ ที่ครอบคลุมหนี้ทุกประเภท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสารเคมีและวัตถุดิบอุตสาหกรรมและจัดเก็บสินค้า ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 40 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยมีบล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai)
ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นเพื่อรองรับการขยายการให้บริการขนส่งของบริษัทและบริษัทย่อย โดยมีโครงการขยายการให้บริการขนส่งในปีนี้ คือ ขยายการขนส่งภายในประเทศในด้านขนส่งสินค้าเชื้อเพลิงและพลังงานให้กับธุรกิจพลังงานในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งในปีนี้และปีหน้าบริษัทมีแผนเข้าประมูลงานโครงการขนส่งก๊าชเอ็นจี อีกประมาณ 2 แห่ง การขยายให้บริการขนส่งต่างประเทศ คือการขนส่งสารเคมีในอุตสาหกรรมต่างๆในประเทศลาว ประมาณ ไตรมาส 3 ปีนี้
สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้382 ล้าบาท มีกำไรสุทธิ 27.72 ล้านบาท ในปี 2549 และมีรายได้ 426 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 31.11 ล้านบาท ในปี2550 และรายได้ 481.20 ล้านบาท 40 .47 ล้านบาท ในปี 2551 ขณะที่3 เดือนแรกปีนี้มีรายได้ 103.77 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 19.03 ล้านบาท
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) คันทรี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS กล่าวว่า ราคาจำหน่ายสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายแก่ประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) ของ บมจ.เจ มาร์ทหรือ JMART. ที่ 2.20 บาท เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานแล้ว ซึ่งคาดว่าราคาหุ้นที่จะเปิดทำการซื้อขายในวันนี้( 25มิ.ย.) อาจจะสามารถยืนเหนือราคาไอพีโอได้ เนื่องจากทิศทางตลาดหุ้นไทยปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์ดี
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS กล่าวว่า ราคาไอพีโอของหุ้น JMART ที่ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างดีก็เชื่อว่าน่าจะเห็นการเก็งกำไรในช่วงสั้น เนื่องจากภาพรวมบรรยากาศการซื้อขายหุ้นไทยช่วงนี้ยังไม่ค่อยดีนัก
โดย JMART เปิดจองซื้อหุ้น IPO ระหว่าง 17-18 มิถุนายน 52 ราคาหุ้นละ 1.80 บาท ให้ส่วนลดกับนักลงทุนเฉลี่ย 16% จากมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท เสนอขายทั้งหมด 75 ล้านหุ้น คิดเป็นเงินระดมทุนประมาณ 135 ล้านบาท
ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทมีแผนจะนำไปขยายงาน ซึ่งบริษัทดำเนินธุรกิจเป็นผู้จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องทุกรุ่นทุกระบบ พร้อมบริการเสริมแบบครบวงจร และยังประกอบธุรกิจพัฒนาและบริหารพื้นที่ค้าปลีก โดยเน้นสินค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่และสินค้าเทคโนโลยี ซึ่งมีรูปลักษณ์ทันสมัย ภายใต้ชื่อ IT Junction และ เจ-เวนิว และธุรกิจบริหารติดตามเร่งรัดหนี้ ที่ครอบคลุมหนี้ทุกประเภท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสารเคมีและวัตถุดิบอุตสาหกรรมและจัดเก็บสินค้า ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 40 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยมีบล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai)
ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นเพื่อรองรับการขยายการให้บริการขนส่งของบริษัทและบริษัทย่อย โดยมีโครงการขยายการให้บริการขนส่งในปีนี้ คือ ขยายการขนส่งภายในประเทศในด้านขนส่งสินค้าเชื้อเพลิงและพลังงานให้กับธุรกิจพลังงานในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งในปีนี้และปีหน้าบริษัทมีแผนเข้าประมูลงานโครงการขนส่งก๊าชเอ็นจี อีกประมาณ 2 แห่ง การขยายให้บริการขนส่งต่างประเทศ คือการขนส่งสารเคมีในอุตสาหกรรมต่างๆในประเทศลาว ประมาณ ไตรมาส 3 ปีนี้
สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้382 ล้าบาท มีกำไรสุทธิ 27.72 ล้านบาท ในปี 2549 และมีรายได้ 426 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 31.11 ล้านบาท ในปี2550 และรายได้ 481.20 ล้านบาท 40 .47 ล้านบาท ในปี 2551 ขณะที่3 เดือนแรกปีนี้มีรายได้ 103.77 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 19.03 ล้านบาท
