ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์กรุงไทยฮึด! เร่งเครื่องปล่อยกู้สนองนโยบายรัฐบาล ดันเป้าสินเชื่อรายย่อยทั้งปีเพิ่มเป็น 3 หมื่นล้าน เผย 5 เ ดือนแรกยอดปล่อยกู้ทะลุเป้า 22,000 ล้าน แม้เอ็นพีแอลขยับตาม แต่มั่นใจดูแลจัดการได้ เหตุฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นข้าราชการปลอดภัย ล่าสุดเพิ่มยอดสินเชื่อตำรวจที่กำลังจะได้ขึ้นเงินเดือน
นายอนุชิต อนุชิตานุกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน บริษัทผลิตภัณฑ์และการตลาด ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อรายย่อยในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 30,000 ล้านบาท ซึ่งธนาคารมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถปล่อยกู้ได้ตามเป้าหมายใหม่ที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อรายย่อยของธนาคารในช่วง 5 เดือนที่ผ่านของปี 2552 มานั้น ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อได้เกินกว่าเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ในระดับ 22,000 ล้านบาท จากฐานสินเชื่อรายย่อยในปัจจุบันอยู่ที่ 250,000-260,000 ล้านบาท ซึ่งโดยหลักๆ แล้วจะเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีการเติบโตมากที่สุด
ทั้งนี้ ในการปล่อยสินเชื่อรายย่อยของธนาคาร 5 เดือนที่ผ่านมา จะมีปริมาณสินเชื่อที่อยู่อาศัยอยู่ประมาณ 15,000 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยคงค้างในปัจจุบันมีเกือบ 160,000 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อบุคคลก็ยังมีการเติบโตอยู่ในระดับที่มากกว่า 10% ซึ่งจากการเติบโตดังกล่าวจึงทำให้ธนาคารมียอดสินเชื่อใหม่เกินเป้าหมายที่วางไว้
"ส่วนประกอบของสินเชื่อรายย่อยดังกล่าวจะมีส่วนของสินเชื่อธนวัฎ สินเชื่อบุคคล สินเชื่อเอนกประสงค์ สินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งจากยอดการเติบโตสินเชื่อรายย่อยของธนาคารแสดงให้เห็นว่าลูกค้ายังมีความต้องการอีกมาก ซึ่งฐานลูกค้าของธนาคารจะเป็นข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจประมาณ 90% ส่วนอีก 10% จะเป็นลูกค้าเอกชน จากสาเหตุดังกล่าวทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมในบางผลิตภัณฑ์มีการเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 50%" นายอนุชิตกล่าว
ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสินเชื่อรายย่อยในช่วง 5 เดือนแรกยังอยู่ระดับต่ำกว่า 2% ซึ่งธนาคารยอมรับว่าจากสภาพเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัว ส่งผลให้จำนวนเอ็นพีแอลสินเชื่อรายย่อยมีจำนวนเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ยังอยู่ในระดับที่ธนาคารสามารถควบคุมได้ ซึ่งปัจจัยที่สำคัญมาจากฐานลูกค้าของธนาคารที่ส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการและรัฐวิสาหกิจเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากภาวะดังกล่าวไม่มากนัก
ล่าสุดธนาคารกรุงไทยร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดนิทรรศการโครงการ "พิทักษ์รักอนาคต" ซึ่งเป็นนิทรรศการแสดงผลงานเกี่ยวกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีในการมีบ้านเป็นของตนเอง โดยเป็นการสนับสนุนโครงการสินเชื่อสวัสดิการให้กับข้าราชการและลูกจ้างประจำสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติกว่า 240,000 รายทั่วประเทศ โดยโครงการดังกล่าวธนาคารได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ 4 บริษัทเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยจำนวน 532 หลัง
อย่างไรก็ตาม หลังจากธนาคารได้เปิดตัวโครงการดังกล่าวไปเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 52 ซึ่งธนาคารได้ตั้งวงเงินสินเชื่อไว้ที่ 3,000 ล้านบาทนั้น ทำให้ธนาคารมีการขยายวงเงินเพิ่มเป็น 9,000 ล้านบาท เนื่องจากหลัง 3 เดือนแรกที่เปิดตัวไปปรากฎว่าสามารถปล่อยสินเชื่อได้ถึง 2,700 ล้านบาท ส่งผลให้ธนาคารจำเป็นต้องขยายวงเงินเพิ่ม เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของข้าราชการตำรวจ
อนึ่ง ครม.อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ซึ่งกำหนดให้รัฐอุดหนุนงบประมาณรายจ่ายให้เพียงพอกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับปรับปรุงอัตราเงินเดือน พร้อมกำหนดอัตราเงินเงินและอัตราเงินประจำของข้าราชการตำรวจชั้นยศต่างๆ ขณะเดียวกันที่ประชุมอนุมัติร่าง พ.ร.บ.เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งฉบับที่ พศ. โดยให้ยกเลิกอัตราเงินเดือนและเงินประจำของข้าราชการตำรวจ และยกเลิกบัญชีอัตราเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. 2538.
นายอนุชิต อนุชิตานุกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน บริษัทผลิตภัณฑ์และการตลาด ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อรายย่อยในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 30,000 ล้านบาท ซึ่งธนาคารมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถปล่อยกู้ได้ตามเป้าหมายใหม่ที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อรายย่อยของธนาคารในช่วง 5 เดือนที่ผ่านของปี 2552 มานั้น ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อได้เกินกว่าเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ในระดับ 22,000 ล้านบาท จากฐานสินเชื่อรายย่อยในปัจจุบันอยู่ที่ 250,000-260,000 ล้านบาท ซึ่งโดยหลักๆ แล้วจะเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีการเติบโตมากที่สุด
ทั้งนี้ ในการปล่อยสินเชื่อรายย่อยของธนาคาร 5 เดือนที่ผ่านมา จะมีปริมาณสินเชื่อที่อยู่อาศัยอยู่ประมาณ 15,000 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยคงค้างในปัจจุบันมีเกือบ 160,000 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อบุคคลก็ยังมีการเติบโตอยู่ในระดับที่มากกว่า 10% ซึ่งจากการเติบโตดังกล่าวจึงทำให้ธนาคารมียอดสินเชื่อใหม่เกินเป้าหมายที่วางไว้
"ส่วนประกอบของสินเชื่อรายย่อยดังกล่าวจะมีส่วนของสินเชื่อธนวัฎ สินเชื่อบุคคล สินเชื่อเอนกประสงค์ สินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งจากยอดการเติบโตสินเชื่อรายย่อยของธนาคารแสดงให้เห็นว่าลูกค้ายังมีความต้องการอีกมาก ซึ่งฐานลูกค้าของธนาคารจะเป็นข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจประมาณ 90% ส่วนอีก 10% จะเป็นลูกค้าเอกชน จากสาเหตุดังกล่าวทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมในบางผลิตภัณฑ์มีการเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 50%" นายอนุชิตกล่าว
ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสินเชื่อรายย่อยในช่วง 5 เดือนแรกยังอยู่ระดับต่ำกว่า 2% ซึ่งธนาคารยอมรับว่าจากสภาพเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัว ส่งผลให้จำนวนเอ็นพีแอลสินเชื่อรายย่อยมีจำนวนเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ยังอยู่ในระดับที่ธนาคารสามารถควบคุมได้ ซึ่งปัจจัยที่สำคัญมาจากฐานลูกค้าของธนาคารที่ส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการและรัฐวิสาหกิจเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากภาวะดังกล่าวไม่มากนัก
ล่าสุดธนาคารกรุงไทยร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดนิทรรศการโครงการ "พิทักษ์รักอนาคต" ซึ่งเป็นนิทรรศการแสดงผลงานเกี่ยวกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีในการมีบ้านเป็นของตนเอง โดยเป็นการสนับสนุนโครงการสินเชื่อสวัสดิการให้กับข้าราชการและลูกจ้างประจำสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติกว่า 240,000 รายทั่วประเทศ โดยโครงการดังกล่าวธนาคารได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ 4 บริษัทเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยจำนวน 532 หลัง
อย่างไรก็ตาม หลังจากธนาคารได้เปิดตัวโครงการดังกล่าวไปเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 52 ซึ่งธนาคารได้ตั้งวงเงินสินเชื่อไว้ที่ 3,000 ล้านบาทนั้น ทำให้ธนาคารมีการขยายวงเงินเพิ่มเป็น 9,000 ล้านบาท เนื่องจากหลัง 3 เดือนแรกที่เปิดตัวไปปรากฎว่าสามารถปล่อยสินเชื่อได้ถึง 2,700 ล้านบาท ส่งผลให้ธนาคารจำเป็นต้องขยายวงเงินเพิ่ม เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของข้าราชการตำรวจ
อนึ่ง ครม.อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ซึ่งกำหนดให้รัฐอุดหนุนงบประมาณรายจ่ายให้เพียงพอกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับปรับปรุงอัตราเงินเดือน พร้อมกำหนดอัตราเงินเงินและอัตราเงินประจำของข้าราชการตำรวจชั้นยศต่างๆ ขณะเดียวกันที่ประชุมอนุมัติร่าง พ.ร.บ.เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งฉบับที่ พศ. โดยให้ยกเลิกอัตราเงินเดือนและเงินประจำของข้าราชการตำรวจ และยกเลิกบัญชีอัตราเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. 2538.