ASTVผู้จัดการรายวัน – “ยูโอบี” ปรับกลยุทธ์ขายใหม่เอ็นพีเอใหม่ ลดสูงสุด 65% เป็นครั้งแรก หวังระบายทรัพย์ได้ทั้งปี 2,500 ล้านบาท พร้อมเปิดช่องทางขายเพิ่มเล็งดึงโบรกเกอร์ช่วยขายในบางทำเล ส่วนที่ดินเปล่าเดินเข้าเจรจาผู้ประกอบการซื้อ พร้อมเปิดสินเชื่อวงเงินพิเศษ
นางสาววจี ประมวลรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มงานบริหารสินทรัพย์พิเศษ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงนโยบายการบริหารสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) ของธนาคารว่า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจนับจากต้นปีเป็นต้นมามีการชะลอตัวลง ทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั้งซื้อเพื่อการลงทุนและซื้อเพื่ออยู่อาศัย ดังนั้นการทำการตลาดของธนาคารจะเข้มข้นมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเปิดกว้างในด้านช่องทางการจัดจำหน่าย โดยปีนี้ธนาคารตั้งเป้ายอดขายเอ็นพีเอไว้ที่ 2,500 ล้านบาท จากทรัพย์ของธนาคารจำนวน 1,000 รายการ หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 9,874 ล้านบาท โดยใน 5 เดือนแรกที่ผ่านมาธนาคารจำหน่ายเอ็นพีเอไปแล้ว 1,200-1,300 ล้านบาท ซึ่งทั้งปีนี้คาดว่าจะขายเอ็นพีเอได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นอกจากนี้ จากการรวบรวมสถิติการขายผ่านทุกช่องทางพบว่า การขายผ่านสาขาและพนักงานขายของธนาคารได้ผลมากที่สุด และที่สำคัญการขายลดราคายังเป็นตัวตัดสินใจของลูกค้าได้มากอีกด้วย ดังนั้นธนาคารจึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย “ทรัพย์หลุดจำนองล็อตใหม่ - ลดแรงทั้งกระดาน” โดยธนาคารจะนำทรัพย์เด่นกว่า 500 รายการมูลค่า 8,000 ล้านบาทออกมาขายและลดราคาทรัพย์บางรายการกว่า 65% และเสนอสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ คาดว่าแคมเปญนี้จะทำให้สามารถจำหน่ายเอ็นพีเอได้ประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท ซึ่งแคมเปญนี้จะจัดต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 เดือนเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมิ.ย.นี้เป็นต้นไป
“ธนาคารได้ปรับกลยุทธ์การตลาด การขายเอ็นพีเอใหม่และเริ่มทำเป็นครั้งแรก เดิมที่ขายผ่านพนักงาน และสาขา แต่ตอนนี้ได้เปิดช่องทางขายให้กว้างขึ้น ทั้งการจัดแคมเปญลดราคา รวมทั้งพ่วงสินเชื่อดอกเบี้ยอัตราพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ในงานนี้ และจะได้เจรจากับตัวแทนจำหน่ายทรัพย์(โบรกเกอร์)ในพื้นที่นั้นๆ เพื่อให้เป็นนายหน้าขายทรัพย์ให้แก่แบงก์ ส่วนการแข่งขันขายเอ็นพีเอของแบงก์ปีนี้คงจะมีตามปกติ เพราะแต่ละธนาคารก็ต้องการขายทรัพย์ออก เพื่อนำเงินเข้ามาทำธุรกิจปกติของธนาคาร”
นอกจากนี้ธนาคารได้เสนอสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ โดยเดือนที่ 1-3 ดอกเบี้ย 0.79% เดือนที่ 4-12 ดอกเบี้ย 1.79% ปีที่ 2 คิดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (เอ็มแอลอาร์) ลบ 1.25% หลังจากนั้นเอ็มแอลอาร์ ลบ 1% ระยะเวลาให้กู้ 20 ปี ซึ่งถือว่าดอกเบี้ยดังกล่าวจะทำให้ลูกค้ามีภาระจ่ายดอกเบี้ยถูกกว่าธนาคารอื่นๆ
นางสาววจี ประมวลรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มงานบริหารสินทรัพย์พิเศษ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงนโยบายการบริหารสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) ของธนาคารว่า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจนับจากต้นปีเป็นต้นมามีการชะลอตัวลง ทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั้งซื้อเพื่อการลงทุนและซื้อเพื่ออยู่อาศัย ดังนั้นการทำการตลาดของธนาคารจะเข้มข้นมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเปิดกว้างในด้านช่องทางการจัดจำหน่าย โดยปีนี้ธนาคารตั้งเป้ายอดขายเอ็นพีเอไว้ที่ 2,500 ล้านบาท จากทรัพย์ของธนาคารจำนวน 1,000 รายการ หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 9,874 ล้านบาท โดยใน 5 เดือนแรกที่ผ่านมาธนาคารจำหน่ายเอ็นพีเอไปแล้ว 1,200-1,300 ล้านบาท ซึ่งทั้งปีนี้คาดว่าจะขายเอ็นพีเอได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นอกจากนี้ จากการรวบรวมสถิติการขายผ่านทุกช่องทางพบว่า การขายผ่านสาขาและพนักงานขายของธนาคารได้ผลมากที่สุด และที่สำคัญการขายลดราคายังเป็นตัวตัดสินใจของลูกค้าได้มากอีกด้วย ดังนั้นธนาคารจึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย “ทรัพย์หลุดจำนองล็อตใหม่ - ลดแรงทั้งกระดาน” โดยธนาคารจะนำทรัพย์เด่นกว่า 500 รายการมูลค่า 8,000 ล้านบาทออกมาขายและลดราคาทรัพย์บางรายการกว่า 65% และเสนอสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ คาดว่าแคมเปญนี้จะทำให้สามารถจำหน่ายเอ็นพีเอได้ประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท ซึ่งแคมเปญนี้จะจัดต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 เดือนเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมิ.ย.นี้เป็นต้นไป
“ธนาคารได้ปรับกลยุทธ์การตลาด การขายเอ็นพีเอใหม่และเริ่มทำเป็นครั้งแรก เดิมที่ขายผ่านพนักงาน และสาขา แต่ตอนนี้ได้เปิดช่องทางขายให้กว้างขึ้น ทั้งการจัดแคมเปญลดราคา รวมทั้งพ่วงสินเชื่อดอกเบี้ยอัตราพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อทรัพย์ในงานนี้ และจะได้เจรจากับตัวแทนจำหน่ายทรัพย์(โบรกเกอร์)ในพื้นที่นั้นๆ เพื่อให้เป็นนายหน้าขายทรัพย์ให้แก่แบงก์ ส่วนการแข่งขันขายเอ็นพีเอของแบงก์ปีนี้คงจะมีตามปกติ เพราะแต่ละธนาคารก็ต้องการขายทรัพย์ออก เพื่อนำเงินเข้ามาทำธุรกิจปกติของธนาคาร”
นอกจากนี้ธนาคารได้เสนอสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ โดยเดือนที่ 1-3 ดอกเบี้ย 0.79% เดือนที่ 4-12 ดอกเบี้ย 1.79% ปีที่ 2 คิดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (เอ็มแอลอาร์) ลบ 1.25% หลังจากนั้นเอ็มแอลอาร์ ลบ 1% ระยะเวลาให้กู้ 20 ปี ซึ่งถือว่าดอกเบี้ยดังกล่าวจะทำให้ลูกค้ามีภาระจ่ายดอกเบี้ยถูกกว่าธนาคารอื่นๆ