เอเอฟพี/รอยเตอร์- สถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่านระบุยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีกับเจ้าหน้าที่ของทางการเพิ่มเป็น19รายแล้ว
สถานีโทรทัศน์เพรสส์ ทีวีของอิหร่านซึ่งออกอากาศเป็นภาษาอังกฤษรายงานวานนี้ (22) ว่ามีผู้ประท้วงคัดค้านผลเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่านเสียชีวิตแล้ว19 คน ขณะเดียวกันมีผู้ถูกจับกุมไปถึง457 คนระหว่างการปะทะกับกองกำลังความมั่นคงบริเวณจัตุรัสอาซาดี กลางกรุงเตหะรานเมื่อคืนวันเสาร์(20)โดยเหตุวุ่นวายครั้งนี้ยังส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บไป40 นาย และอาคารที่ทำการของรัฐบาลอีก 34 แห่ง ได้รับความเสียหาย
รายงานข่าวระบุว่า แม้จะไม่มีการชุมนุมประท้วงเกิดขึ้นในกรุงเตหะรานในวันอาทิตย์ (21) แต่ทางการอิหร่านยังคงวางกำลังเจ้าหน้าที่ความมั่นคงหลายพันนาย ตามถนนสำคัญหลายสายของกรุงเตหะราน และยังจับกุมสื่อมวลชนต่างชาติที่ออกมารายงานสถานการณ์ในพื้นที่ประท้วงอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวฟาร์สของอิหร่านรายงานว่า โจนาธาน เลย์น ผู้สื่อข่าวของบีบีซีถูกรัฐบาลอิหร่านสั่งเนรเทศออกนอกประเทศภายใน24ชั่วโมง โดยทางการระบุว่าเลย์นทำความผิดหลายข้อหา เช่น เผยแพร่ข่าวและรายงานข้อมูลอันเป็นเท็จ ไม่วางตัวเป็นกลางในการรายงานข่าว ให้การสนับสนุนผู้ก่อเหตุจลาจลและข้อหาเหยียบย่ำเกียรติภูมิของอิหร่านขณะที่ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นและผู้จัดทำเว็บบล็อก 23 คนถูกจับกุมตัวไปสอบสวนเช่นกัน
อดีตนายกรัฐมนตรีมีร์ ฮอสเซน มูซาวีผู้นำฝ่ายค้านอิหร่านเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนเดินหน้าชุมนุมประท้วงต่อไป เพราะเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของชาวอิหร่านที่จะปฏิเสธ“ชัยชนะอันฉ้อฉล” ของประธานาธิบดีมะห์มุด อะห์มาดิเนจัด
ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนมูซาวีแถลงผ่านเว็บไซต์วานนี้(22) เรียกร้องให้ผู้ที่เข้าร่วมประท้วงพร้อมใจกันถือเทียนสีดำซึ่งติดริบบิ้นสีเขียวเพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับผู้ชุมนุมที่ถูกสังหาร
ด้านสถานีโทรทัศน์ไออาร์ไอบีของรัฐบาลรายงานว่า ฟาเซห์ ฮาเชมี รัฟซันจานี บุตรสาวคนโตวัย 46 ปีของอดีตประธานาธิบดีอักบาร์ ฮาเชมี รัฟซันจานี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดของอิหร่านที่ถูกทางการจับกุมพร้อมกับญาติอีก 4 คน หลังเข้าร่วมประท้วงต่อต้านรัฐบาลตั้งแต่วันเสาร์ (20)ที่ผ่านมา ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระแล้วเมื่อวานนี้โดยไม่มีการตั้งข้อหาแต่อย่างใด
ฮัสซัน กัชกาวี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านแถลงที่กรุงเตหะรานวานนี้ โดยกล่าวหารัฐบาลและสื่อมวลชนประเทศตะวันตกว่า มีส่วนรู้เห็นในการสนับสนุนให้เกิดเหตุประท้วงคัดค้านผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่านที่ประกาศผลเมื่อ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เดวิด มิลิแบนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาของอิหร่านโดยระบุว่าอังกฤษและประเทศในยุโรปตะวันตก รวมทั้ง รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการประท้วง พร้อมระบุว่า เป็นเพราะความไม่ซื่อตรงต่อประชาชน ของทางการอิหร่านเองที่ทำให้เกิดวิกฤตทางการเมืองครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี
นอกจากนั้น อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงของเยอรมัน แถลงที่เบอร์ลินวันอาทิตย์(21) เรียกร้องให้ทางการอิหร่านยุติการปราบปรามผู้ชุมนุม และขอให้มีการนับคะแนนใหม่โดยเร็วซึ่งถือเป็นผู้นำชาติมหาอำนาจตะวันตกชาติแรกที่ออกมาเรียกร้องเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ
แมร์เคิลระบุว่าทางการอิหร่านจะสามารถกู้ภาพลักษณ์ที่เลวร้ายของตนในสายตาประชาคมโลกกลับคืนมาได้ ก็ต่อเมื่อยินยอมให้มีการนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ผ่านมาใหม่ทั้งหมด และต้องเป็นการนับคะแนนภายใต้การสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดจากเจ้าหน้าที่นานาชาติ
สถานีโทรทัศน์เพรสส์ ทีวีของอิหร่านซึ่งออกอากาศเป็นภาษาอังกฤษรายงานวานนี้ (22) ว่ามีผู้ประท้วงคัดค้านผลเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่านเสียชีวิตแล้ว19 คน ขณะเดียวกันมีผู้ถูกจับกุมไปถึง457 คนระหว่างการปะทะกับกองกำลังความมั่นคงบริเวณจัตุรัสอาซาดี กลางกรุงเตหะรานเมื่อคืนวันเสาร์(20)โดยเหตุวุ่นวายครั้งนี้ยังส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บไป40 นาย และอาคารที่ทำการของรัฐบาลอีก 34 แห่ง ได้รับความเสียหาย
รายงานข่าวระบุว่า แม้จะไม่มีการชุมนุมประท้วงเกิดขึ้นในกรุงเตหะรานในวันอาทิตย์ (21) แต่ทางการอิหร่านยังคงวางกำลังเจ้าหน้าที่ความมั่นคงหลายพันนาย ตามถนนสำคัญหลายสายของกรุงเตหะราน และยังจับกุมสื่อมวลชนต่างชาติที่ออกมารายงานสถานการณ์ในพื้นที่ประท้วงอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวฟาร์สของอิหร่านรายงานว่า โจนาธาน เลย์น ผู้สื่อข่าวของบีบีซีถูกรัฐบาลอิหร่านสั่งเนรเทศออกนอกประเทศภายใน24ชั่วโมง โดยทางการระบุว่าเลย์นทำความผิดหลายข้อหา เช่น เผยแพร่ข่าวและรายงานข้อมูลอันเป็นเท็จ ไม่วางตัวเป็นกลางในการรายงานข่าว ให้การสนับสนุนผู้ก่อเหตุจลาจลและข้อหาเหยียบย่ำเกียรติภูมิของอิหร่านขณะที่ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นและผู้จัดทำเว็บบล็อก 23 คนถูกจับกุมตัวไปสอบสวนเช่นกัน
อดีตนายกรัฐมนตรีมีร์ ฮอสเซน มูซาวีผู้นำฝ่ายค้านอิหร่านเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนเดินหน้าชุมนุมประท้วงต่อไป เพราะเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของชาวอิหร่านที่จะปฏิเสธ“ชัยชนะอันฉ้อฉล” ของประธานาธิบดีมะห์มุด อะห์มาดิเนจัด
ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนมูซาวีแถลงผ่านเว็บไซต์วานนี้(22) เรียกร้องให้ผู้ที่เข้าร่วมประท้วงพร้อมใจกันถือเทียนสีดำซึ่งติดริบบิ้นสีเขียวเพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับผู้ชุมนุมที่ถูกสังหาร
ด้านสถานีโทรทัศน์ไออาร์ไอบีของรัฐบาลรายงานว่า ฟาเซห์ ฮาเชมี รัฟซันจานี บุตรสาวคนโตวัย 46 ปีของอดีตประธานาธิบดีอักบาร์ ฮาเชมี รัฟซันจานี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดของอิหร่านที่ถูกทางการจับกุมพร้อมกับญาติอีก 4 คน หลังเข้าร่วมประท้วงต่อต้านรัฐบาลตั้งแต่วันเสาร์ (20)ที่ผ่านมา ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระแล้วเมื่อวานนี้โดยไม่มีการตั้งข้อหาแต่อย่างใด
ฮัสซัน กัชกาวี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านแถลงที่กรุงเตหะรานวานนี้ โดยกล่าวหารัฐบาลและสื่อมวลชนประเทศตะวันตกว่า มีส่วนรู้เห็นในการสนับสนุนให้เกิดเหตุประท้วงคัดค้านผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีอิหร่านที่ประกาศผลเมื่อ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เดวิด มิลิแบนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาของอิหร่านโดยระบุว่าอังกฤษและประเทศในยุโรปตะวันตก รวมทั้ง รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการประท้วง พร้อมระบุว่า เป็นเพราะความไม่ซื่อตรงต่อประชาชน ของทางการอิหร่านเองที่ทำให้เกิดวิกฤตทางการเมืองครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี
นอกจากนั้น อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงของเยอรมัน แถลงที่เบอร์ลินวันอาทิตย์(21) เรียกร้องให้ทางการอิหร่านยุติการปราบปรามผู้ชุมนุม และขอให้มีการนับคะแนนใหม่โดยเร็วซึ่งถือเป็นผู้นำชาติมหาอำนาจตะวันตกชาติแรกที่ออกมาเรียกร้องเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ
แมร์เคิลระบุว่าทางการอิหร่านจะสามารถกู้ภาพลักษณ์ที่เลวร้ายของตนในสายตาประชาคมโลกกลับคืนมาได้ ก็ต่อเมื่อยินยอมให้มีการนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ผ่านมาใหม่ทั้งหมด และต้องเป็นการนับคะแนนภายใต้การสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดจากเจ้าหน้าที่นานาชาติ