วานนี้ ( 22 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 902 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำ อ.425/2552 ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษชายหนีคดีโทษจำคุกของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยนายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความ ผู้รับมอบอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องนายสุเทพ เทือกสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงเป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 กรณีเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา จำเลยได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนทำนองว่า โจทก์ไม่ยอมแพ้ทางการเมือง และต้องการจะกลับมาเป็นประธานาธิบดี
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้วเห็นว่า ข้อความที่โจทก์กล่าวให้สัมภาษณ์เป็นการติชมโดยสุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 ไม่ได้มุ่งใส่ความให้โจทก์ได้รับวามเสียหาย คดีจึงไม่มีมูล พิพากษาให้ยกฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้ทนายความ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สมิต นันท์นฤมิตร พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ดุสิต เพื่อดำเนินคดีต่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในข้อหาหมิ่นประมาท โดยใส่ความ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าต้องการจะกลับมาเป็นประธานาธิบดี พร้อมนำเอกสารและดีวีดบันทึกคำพูดของนายสุเทพ มาส่งมอบเป็นหลักฐาน เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า นายสุเทพได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายในทำเนียบรัฐบาล กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มีการโฟนอินภายในงานประชุมพรรคเพื่อไทย และบอกว่า "วันหนึ่งจะกลับมาเป็นประธานาธิบดี" ซึ่งเป็นความเท็จ ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 13 ก.พ. พ.ต.ท.ทักษิณ มอบอำนาจให้นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา 326, 328 ต่อศาลอาญาอีกครั้งหนึ่ง จากการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่นายสุเทพได้ตอบกระทู้ถามสดของ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยนายสุเทพยืนยันว่า เชื่อโดยสุจริตใจเช่นนั้นจริงๆ จึงให้สัมภาษณ์ดังกล่าวไป
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้วเห็นว่า ข้อความที่โจทก์กล่าวให้สัมภาษณ์เป็นการติชมโดยสุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 ไม่ได้มุ่งใส่ความให้โจทก์ได้รับวามเสียหาย คดีจึงไม่มีมูล พิพากษาให้ยกฟ้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้ทนายความ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สมิต นันท์นฤมิตร พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ดุสิต เพื่อดำเนินคดีต่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในข้อหาหมิ่นประมาท โดยใส่ความ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าต้องการจะกลับมาเป็นประธานาธิบดี พร้อมนำเอกสารและดีวีดบันทึกคำพูดของนายสุเทพ มาส่งมอบเป็นหลักฐาน เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า นายสุเทพได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายในทำเนียบรัฐบาล กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มีการโฟนอินภายในงานประชุมพรรคเพื่อไทย และบอกว่า "วันหนึ่งจะกลับมาเป็นประธานาธิบดี" ซึ่งเป็นความเท็จ ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 13 ก.พ. พ.ต.ท.ทักษิณ มอบอำนาจให้นายอุดม โปร่งฟ้า ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา 326, 328 ต่อศาลอาญาอีกครั้งหนึ่ง จากการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่นายสุเทพได้ตอบกระทู้ถามสดของ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยนายสุเทพยืนยันว่า เชื่อโดยสุจริตใจเช่นนั้นจริงๆ จึงให้สัมภาษณ์ดังกล่าวไป