ต้องยอมรับว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่พัทยาในช่วงที่มีการประชุมสุดยอดอาเซียนเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวอย่างเห็นได้ชัด และได้สร้างความหวาดหวั่นว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาฯของพัทยาตามมาด้วย อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 สัปดาห์หลังจากนั้น บรรยากาศการซื้อขายของธุรกิจอสังหาฯ เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง พบว่าคอนโดฯของไรมอน แลนด์ ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง
สาเหตุเนื่องมาจากความเจริญของพัทยาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ทำให้พัทยาไม่ใช่แค่สถานที่พักผ่อนหรือเมืองตากอากาศสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ แต่พัทยายังมีความพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจ ทั้งมาท่องเที่ยวและลงทุนในพัทยาจำนวนมากขึ้น
เมื่อต้นปี ไรมอน แลนด์ ได้ร่วมกับเมืองพัทยา จัดงานเสวนา “แนวทางการกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจอสังหาฯ ในเมืองพัทยา” โดยจากการศึกษาเกี่ยวกับตลาดผู้สูงอายุของรศ. ไตรรัตน์ จารุทัศน์ ภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ หนึ่งในผู้เข้าร่วมเสวนา ชี้ว่า พัทยาเป็นจุดหมายปลายทางอันดับสองของผู้เกษียณอายุต่างชาติรองจากกรุงเทพฯ เห็นได้จากสถิติกองตรวจคนเข้าเมืองของไทยในปี 2551 ซึ่งได้ออกวีซ่ามากถึง 25,000 ฉบับ สำหรับผู้สูงอายุชาวต่างชาติ ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวประมาณ 6,600 คน ที่ต่ออายุวีซ่าที่พัทยา เป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ ซึ่งมีประมาณ 7,000 คน
สอดคล้องกับงานวิจัยตลาดของบมจ.ไรมอน แลนด์ ซึ่งพบว่า ตลาดผู้เกษียณอายุมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจำนวนมากกว่า 50% ของลูกค้าในพัทยามีอายุมากกว่า 50 ปี (รวม 25% ของกลุ่มลูกค้าอายุสูงกว่า 60 ปี) ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับโครงการแต่ละแห่ง ลูกค้าจำนวน 25-35% ซื้อโครงการเพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยหลังเกษียณอายุ หรือเป็นส่วนหนึ่งของแผนรองรับการเกษียณอายุ
ซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับพัทยาดังกล่าว เกิดจากความร่วมมือของเมืองพัทยาและรัฐบาลที่ต้องการพลิกโฉมพัทยาให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของโลก โดยการลงทุนระบบคมนาคมขนส่งให้สามารถเดินทางไปพัทยาได้สะดวกขึ้น ซึ่งได้มีการขยายเส้นทางด่วนบางนาและเปิดให้บริการสนามบิน(สุวรรณภูมิ)ที่มีอาคารผู้โดยสารเดียวใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกในปี 2549 ทำให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาเดินทางไปพัทยาภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงครึ่ง
นอกจากนี้ สำหรับภาวะตลาดอสังหาฯโดยรวมของพัทยา หากย้อนไปดูความสำเร็จของการเปิดตัวโครงการนอร์ทชอร์ของไรมอน แลนด์ เมื่อกลางปี 2547 ทำให้มีการเปิดตัวโครงการคอนโดฯริมชายหาดพัทยาอย่างน้อย 15 แห่ง คิดเป็นจำนวนห้องชุดอย่างน้อย 5,000 ยูนิต แต่จากการสำรวจของฝ่ายวิจัยไรมอน แลนด์ เมื่อเดือนที่ผ่านมา พบว่ามีเพียง 3 โครงการ จำนวน 620 ยูนิตเท่านั้นที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และมีอีก 2 แห่ง จำนวน 460 ยูนิต ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส่วนที่เหลือได้ชะลอและเลื่อนการพัฒนาโครงการออกไป
และจากการสำรวจ พบว่าปัจจุบันมีคอนโดฯระดับหรูในพัทยารวม 2,151 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวม 23,000 ล้านบาท แต่ไรมอนด์ แลนด์ คาดว่าจะไม่มีโครงการใดที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถส่งมอบได้ในปีนี้ และคาดว่าจะมีคอนโดฯจำนวนไม่เกิน 500 ยูนิต พร้อมจะส่งมอบแก่ลูกค้าได้ในปี 2553 ซึ่งมีรายงานว่าจำนวน 65% ถูกขายหมดแล้ว
ไซมอน เดอร์วิลเล่
รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนา
บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน)
สาเหตุเนื่องมาจากความเจริญของพัทยาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ทำให้พัทยาไม่ใช่แค่สถานที่พักผ่อนหรือเมืองตากอากาศสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ แต่พัทยายังมีความพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจ ทั้งมาท่องเที่ยวและลงทุนในพัทยาจำนวนมากขึ้น
เมื่อต้นปี ไรมอน แลนด์ ได้ร่วมกับเมืองพัทยา จัดงานเสวนา “แนวทางการกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจอสังหาฯ ในเมืองพัทยา” โดยจากการศึกษาเกี่ยวกับตลาดผู้สูงอายุของรศ. ไตรรัตน์ จารุทัศน์ ภาควิชาเคหการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ หนึ่งในผู้เข้าร่วมเสวนา ชี้ว่า พัทยาเป็นจุดหมายปลายทางอันดับสองของผู้เกษียณอายุต่างชาติรองจากกรุงเทพฯ เห็นได้จากสถิติกองตรวจคนเข้าเมืองของไทยในปี 2551 ซึ่งได้ออกวีซ่ามากถึง 25,000 ฉบับ สำหรับผู้สูงอายุชาวต่างชาติ ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวประมาณ 6,600 คน ที่ต่ออายุวีซ่าที่พัทยา เป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ ซึ่งมีประมาณ 7,000 คน
สอดคล้องกับงานวิจัยตลาดของบมจ.ไรมอน แลนด์ ซึ่งพบว่า ตลาดผู้เกษียณอายุมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจำนวนมากกว่า 50% ของลูกค้าในพัทยามีอายุมากกว่า 50 ปี (รวม 25% ของกลุ่มลูกค้าอายุสูงกว่า 60 ปี) ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับโครงการแต่ละแห่ง ลูกค้าจำนวน 25-35% ซื้อโครงการเพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยหลังเกษียณอายุ หรือเป็นส่วนหนึ่งของแผนรองรับการเกษียณอายุ
ซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับพัทยาดังกล่าว เกิดจากความร่วมมือของเมืองพัทยาและรัฐบาลที่ต้องการพลิกโฉมพัทยาให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของโลก โดยการลงทุนระบบคมนาคมขนส่งให้สามารถเดินทางไปพัทยาได้สะดวกขึ้น ซึ่งได้มีการขยายเส้นทางด่วนบางนาและเปิดให้บริการสนามบิน(สุวรรณภูมิ)ที่มีอาคารผู้โดยสารเดียวใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกในปี 2549 ทำให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาเดินทางไปพัทยาภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงครึ่ง
นอกจากนี้ สำหรับภาวะตลาดอสังหาฯโดยรวมของพัทยา หากย้อนไปดูความสำเร็จของการเปิดตัวโครงการนอร์ทชอร์ของไรมอน แลนด์ เมื่อกลางปี 2547 ทำให้มีการเปิดตัวโครงการคอนโดฯริมชายหาดพัทยาอย่างน้อย 15 แห่ง คิดเป็นจำนวนห้องชุดอย่างน้อย 5,000 ยูนิต แต่จากการสำรวจของฝ่ายวิจัยไรมอน แลนด์ เมื่อเดือนที่ผ่านมา พบว่ามีเพียง 3 โครงการ จำนวน 620 ยูนิตเท่านั้นที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และมีอีก 2 แห่ง จำนวน 460 ยูนิต ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส่วนที่เหลือได้ชะลอและเลื่อนการพัฒนาโครงการออกไป
และจากการสำรวจ พบว่าปัจจุบันมีคอนโดฯระดับหรูในพัทยารวม 2,151 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวม 23,000 ล้านบาท แต่ไรมอนด์ แลนด์ คาดว่าจะไม่มีโครงการใดที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถส่งมอบได้ในปีนี้ และคาดว่าจะมีคอนโดฯจำนวนไม่เกิน 500 ยูนิต พร้อมจะส่งมอบแก่ลูกค้าได้ในปี 2553 ซึ่งมีรายงานว่าจำนวน 65% ถูกขายหมดแล้ว
ไซมอน เดอร์วิลเล่
รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนา
บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน)
