สสปน.เข็น 5 โครงการ บูรณาการอุตสาหกรรมไมซ์ หลังรัฐบาลไฟเขียวงบกระตุ้นพิเศษก้อนแรกกว่า 325 ล้านบาท พร้อมเร่งผลักดันพันธกิจกระตุ้นโดเมสติกไมซ์ช่วยชาติ เปิดตัวโครงการ “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” หวังดึงภาครัฐ-เอกชนจัดสัมมนาภายในประเทศกว่า 1 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้กว่า 2 พันล้านบาท เผยมีผู้สมัครตำแหน่งหัวเรือ สสปน. กว่า 80 คน
พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากงบกระตุ้นเศรษฐกิจพิเศษวงเงิน 4 แสนล้านบาท สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน)หรือสสปน. ได้รับจัดสรรงบมาทั้งสิ้นราว 510 ล้านบาท แบ่งเป็นก้อนแรกที่ได้รับการอนุมัติแล้วและจะเริ่มใช้ตั้งปลายปีงบประมาณ 2552 เป็นต้นไป รวมวงเงิน 325 ล้านบาท ส่วนก้อนที่สองซึ่งจะมีการพิจารณาในระหว่างวันที่ 24-25 มิ.ย.52 เป็นงบอุดหนุนอีกราว 185 ล้านบาท
ทั้งนี้การที่สสปน.ได้รับงบประมาณเพื่อมาใช้กระตุ้นตลาดจัดประชุมและนิทรรศการ หรือไมซ์ ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมไมซ์เป็นอย่างมาก โดยเชื่อมั่นว่า อุตสาหกรรมนี้จะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการส่งเสริมให้หน่วยงานรัฐและเอกชน หันมาจัดประชุมสัมมนาภายในประเทศ หรือโดเมสติกไมซ์ให้มากขึ้น เพราะจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภาพรวมได้
โดยปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมที่สามารถสร้างรายได้มากกว่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวระดับคุณภาพที่มีการใช้จ่ายต่อทริปสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป
จึงสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวที่ต้องการผลักดันให้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพมากกว่าการมุ่งที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว เพียงอย่างเดียว
***ชูห้าโครงการบูรณาการไมซ์*****
ทางด้านนางศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายงานแสดงสินค้านานาชาติ ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการ สสปน. กล่าวว่า จากวงเงิน 325 ล้านบาท สสปน.ได้เตรียมจัดทำโครงการ ครีเอทีฟ อีโคโนมี ซึ่งบรรจุไปด้วย 5 โครงการหลัก ได้แก่ 1. โครงการไทยแลนด์แม็กซิไมซ์ เน้นด้านการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในด้านการเป็นสถานที่จัดงานประชุมผ่านสือในต่างประเทศ ระยะเวลา 2 ปี
ตั้งแต่ 2553-2554 วงเงิน 60 ล้านบาท
2.โครงการอินดัสเตรียล ฟอรัม โชว์เคส เปิดประเทศไทยให้เป็นเวทีเจรจาผู้ซื้อพบผู้ขายในธุรกิจไมซ์ เป็นแผนงานต่อเนื่องระยะ 3 ปี 2553-2555 ใช้งบปีละ 30 ล้านบาท 3.โครงการกรีนมิตติ้ง ระยะโครงการ 1 ปี( 2553) งบประมาณ 15 ล้านบาท โดยสสปน.จะร่วมกับมูลนิธิใบไม้สีเขียว ,สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และผู้ประกอบการในธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยว จัดเป็นกิจกรรมรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ผู้ประกอบการและคนในวงการอุตสาหกรรมไมซ์หยุดการก่อมลพิษ
4.โครงการเทรน เดอะ เทรนเนอร์ จัดกิจกรรมลงพื้นที่พัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของบุคลากรตามสถาบันศึกษาและผู้ประกอบการ ระยะโครงการ 2 ปี งบประมาณปีละ 25 ล้านบาท และ 5. โครงการมิวสิค แอนด์ เคาน์เจอร์อีเว้นต์ โดยจะดึงงานมิวสิค เอ็กซ์โป ระดับนานาชาติเข้ามาจัดที่ประเทศไทย แต่จะเพิ่มเติมในส่วนของการเปิดเวทีซื้อขาย เจาะกลุ่มการจัดงานประเทศเอ็นเตอร์เทนเม้นต์
ระยะเวลาโครงการ 2 ปี ใช้งบปีละ 25 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 5 โครงการดังกล่าว เพื่อบรรลุจุประสงค์การพัฒนาขีดความสามารถของบุคคลากรในอุตสาหกรรมไมซ์ และการขยายตลาดให้แก่อุตสาหกรรมนี้ ตอกย้ำประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการจัดงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออก
***แห่สมัครตำแหน่งผู้อำนวยการ****
นางศุภวรรณ กล่าวเพิ่มเติม สำหรับปีงบประมาณ 2553 เบื้องต้น สสปน.คาดว่าจะได้รับจัดสรรงบประมาณประจำปี ในวงเงินราว 700 ล้านบาท จากที่ยื่นเสนอขอไปกว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่น้อยกว่าปีงบประมาณ 2552 ที่ได้รับจัดสรรมากว่า 850 ล้านบาท แต่ก็เชื่อมั่นว่าจะสามารถจัดกิจกรรมการจัดประชุมและนิทรรศการในประเทศไทยให้เติบโตจากปีนี้ได้ราว 10-20%
ส่วนความคืบหน้าการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สสปน. ขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียกสัมภาษณ์ คาดภายใน 1 เดือนจะทราบผล โดยครั้งนี้มีผู้สนใจสมัครมากถึง 80 คน คัดเลือกเหลือ 8 คน จากครั้งก่อนที่มีเพียง 5 คน สะท้อนให้เห็นว่า สสปน.เป็นหน่วยงานที่น่าสนใจจึงมีผู้ต้องการเข้ามาร่วมงานด้วยจำนวนมาก
ทางด้านม.ร.ว.ดิสนัดดา ดิศสกุล ประธานกรรมการ สสปน. กล่าวว่า ภารกิจเร่งด่วนของ สสปน.ขณะนี้คือการกระตุ้นโดเมสติกไมซ์ ให้ภาครัฐและเอกชนหันมาจัดงานประชุมสัมมนาภายในประเทศให้มากขึ้น ล่าสุด เปิดตัวโครงการ”ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ “ เปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ได้มาเยี่ยมชมพบปะผู้ประกอบการที่ให้บริการด้านไมซ์ สัมผัสสินค้าและบริการ โครงการนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าหมายตลอดโครงการจะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางประชุมสัมมนาภายในประเทศได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้หมุนเวียนภายในประเทศกว่า 2 พันล้านบาท ตั้งเป้าก.ย.53โดเมสติกซ์ไมซ์จะเกิดการเดินทางไม่าต่ำกว่า 8 ล้านคน สร้างรายได้ 2.4 หมื่นล้านบาท
พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากงบกระตุ้นเศรษฐกิจพิเศษวงเงิน 4 แสนล้านบาท สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน)หรือสสปน. ได้รับจัดสรรงบมาทั้งสิ้นราว 510 ล้านบาท แบ่งเป็นก้อนแรกที่ได้รับการอนุมัติแล้วและจะเริ่มใช้ตั้งปลายปีงบประมาณ 2552 เป็นต้นไป รวมวงเงิน 325 ล้านบาท ส่วนก้อนที่สองซึ่งจะมีการพิจารณาในระหว่างวันที่ 24-25 มิ.ย.52 เป็นงบอุดหนุนอีกราว 185 ล้านบาท
ทั้งนี้การที่สสปน.ได้รับงบประมาณเพื่อมาใช้กระตุ้นตลาดจัดประชุมและนิทรรศการ หรือไมซ์ ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมไมซ์เป็นอย่างมาก โดยเชื่อมั่นว่า อุตสาหกรรมนี้จะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการส่งเสริมให้หน่วยงานรัฐและเอกชน หันมาจัดประชุมสัมมนาภายในประเทศ หรือโดเมสติกไมซ์ให้มากขึ้น เพราะจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภาพรวมได้
โดยปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมที่สามารถสร้างรายได้มากกว่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวระดับคุณภาพที่มีการใช้จ่ายต่อทริปสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป
จึงสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวที่ต้องการผลักดันให้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพมากกว่าการมุ่งที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว เพียงอย่างเดียว
***ชูห้าโครงการบูรณาการไมซ์*****
ทางด้านนางศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายงานแสดงสินค้านานาชาติ ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการ สสปน. กล่าวว่า จากวงเงิน 325 ล้านบาท สสปน.ได้เตรียมจัดทำโครงการ ครีเอทีฟ อีโคโนมี ซึ่งบรรจุไปด้วย 5 โครงการหลัก ได้แก่ 1. โครงการไทยแลนด์แม็กซิไมซ์ เน้นด้านการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในด้านการเป็นสถานที่จัดงานประชุมผ่านสือในต่างประเทศ ระยะเวลา 2 ปี
ตั้งแต่ 2553-2554 วงเงิน 60 ล้านบาท
2.โครงการอินดัสเตรียล ฟอรัม โชว์เคส เปิดประเทศไทยให้เป็นเวทีเจรจาผู้ซื้อพบผู้ขายในธุรกิจไมซ์ เป็นแผนงานต่อเนื่องระยะ 3 ปี 2553-2555 ใช้งบปีละ 30 ล้านบาท 3.โครงการกรีนมิตติ้ง ระยะโครงการ 1 ปี( 2553) งบประมาณ 15 ล้านบาท โดยสสปน.จะร่วมกับมูลนิธิใบไม้สีเขียว ,สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และผู้ประกอบการในธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยว จัดเป็นกิจกรรมรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ผู้ประกอบการและคนในวงการอุตสาหกรรมไมซ์หยุดการก่อมลพิษ
4.โครงการเทรน เดอะ เทรนเนอร์ จัดกิจกรรมลงพื้นที่พัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของบุคลากรตามสถาบันศึกษาและผู้ประกอบการ ระยะโครงการ 2 ปี งบประมาณปีละ 25 ล้านบาท และ 5. โครงการมิวสิค แอนด์ เคาน์เจอร์อีเว้นต์ โดยจะดึงงานมิวสิค เอ็กซ์โป ระดับนานาชาติเข้ามาจัดที่ประเทศไทย แต่จะเพิ่มเติมในส่วนของการเปิดเวทีซื้อขาย เจาะกลุ่มการจัดงานประเทศเอ็นเตอร์เทนเม้นต์
ระยะเวลาโครงการ 2 ปี ใช้งบปีละ 25 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 5 โครงการดังกล่าว เพื่อบรรลุจุประสงค์การพัฒนาขีดความสามารถของบุคคลากรในอุตสาหกรรมไมซ์ และการขยายตลาดให้แก่อุตสาหกรรมนี้ ตอกย้ำประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการจัดงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออก
***แห่สมัครตำแหน่งผู้อำนวยการ****
นางศุภวรรณ กล่าวเพิ่มเติม สำหรับปีงบประมาณ 2553 เบื้องต้น สสปน.คาดว่าจะได้รับจัดสรรงบประมาณประจำปี ในวงเงินราว 700 ล้านบาท จากที่ยื่นเสนอขอไปกว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่น้อยกว่าปีงบประมาณ 2552 ที่ได้รับจัดสรรมากว่า 850 ล้านบาท แต่ก็เชื่อมั่นว่าจะสามารถจัดกิจกรรมการจัดประชุมและนิทรรศการในประเทศไทยให้เติบโตจากปีนี้ได้ราว 10-20%
ส่วนความคืบหน้าการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สสปน. ขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียกสัมภาษณ์ คาดภายใน 1 เดือนจะทราบผล โดยครั้งนี้มีผู้สนใจสมัครมากถึง 80 คน คัดเลือกเหลือ 8 คน จากครั้งก่อนที่มีเพียง 5 คน สะท้อนให้เห็นว่า สสปน.เป็นหน่วยงานที่น่าสนใจจึงมีผู้ต้องการเข้ามาร่วมงานด้วยจำนวนมาก
ทางด้านม.ร.ว.ดิสนัดดา ดิศสกุล ประธานกรรมการ สสปน. กล่าวว่า ภารกิจเร่งด่วนของ สสปน.ขณะนี้คือการกระตุ้นโดเมสติกไมซ์ ให้ภาครัฐและเอกชนหันมาจัดงานประชุมสัมมนาภายในประเทศให้มากขึ้น ล่าสุด เปิดตัวโครงการ”ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ “ เปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ได้มาเยี่ยมชมพบปะผู้ประกอบการที่ให้บริการด้านไมซ์ สัมผัสสินค้าและบริการ โครงการนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆอีกมากมายทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าหมายตลอดโครงการจะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางประชุมสัมมนาภายในประเทศได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้หมุนเวียนภายในประเทศกว่า 2 พันล้านบาท ตั้งเป้าก.ย.53โดเมสติกซ์ไมซ์จะเกิดการเดินทางไม่าต่ำกว่า 8 ล้านคน สร้างรายได้ 2.4 หมื่นล้านบาท