วิกฤตเศรษฐกิจโลก ฉุดคนเข้าร่วมงานแสดงสินค้าซบ สสปน. ทำใจ ปีนี้ มีลุ้นติดลบ 5-10% จากทุกปีจะเติบโต 15-20% วางหมากเร่งสปีดชูกลยุทธ์ 360 องศา ภายใต้แคมเปญ 100Ahead ดึงผู้จัดผู้ร่วมงานเข้าไทย ล่าสุดร่วมโปรโมทจัดงาน VIV Asia 2009 ดึงผู้ร่วมงานกว่า 2 หมื่นคน เข้าไทย มั่นใจสิ้นปีทำยอดรายได้เข้าประเทศได้ตามเป้า 5.2 หมื่นล้านบาท
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายงานแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เปิดเผยว่า ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกคาดว่าจะกระทบต่อธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้า โดยมีผลทำให้ผู้เข้าร่วมงานลดลง เพราะทุกองค์กรย่อมปรับลดค่าใช้จ่ายเพื่อประคองธุรกิจ เป็นผลให้งบประมาณในส่วนของการเดินทางเข้าร่วมงานจัดแสดงสินค้าทั้งกลุ่มผู้เข้าชมงานและกลุ่มที่ร่วมออกบูทย่อมถูกปรับลดลงด้วย
สำหรับงานแสดงสินค้านานาชาติของประเทศไทยที่ สสปน.ดูแลอยู่ในปีนี้ก็คาดว่าจำนวนผู้เข้าร่วมงานจะลดลงจากปีก่อนประมาณ 5-10% ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาดจากปีก่อนที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มที่เดินทางเข้ามาร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติตลอดทั้งปีประมาณ 1.4 แสนคน เติบโตเฉลี่ยปีละ 15-20% ติดต่อกันมา 2-3 ปีแล้ว
ดังนั้นกลยุทธ์ในส่วนของฝ่ายงานแสดงสินค้านานาชาติ หรือเอ็กซิบิชั่น( E ) ของ สสปน.ปีนี้ คือเน้นให้การสนับสนุนแก่ออกาไนซ์ผู้จัดงาน ที่อยู่ในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก จีน และ อินเดีย ให้เข้ามาจัดงานในประเทศไทย ผ่านแคมเปญ “100Ahead” กล่าวคือ สสปน.จะให้เงินสนับสนุน 100 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อทริป เพื่อดึงบายเออร์ให้เดินทางเข้ามาร่วมงาน โดยมีข้อแม้ต้องเดินทางกรุ๊ปละไม่ต่ำกว่า 15 คน พำนักในประเทศไทย 3 วัน 2 คืนขึ้นไป
ล่าสุดสสปน.สนับสนุนการจัด งาน VIV Asia 2009 โดย สสปน.สามารถดึงงานให้เข้ามาจัดในประเทศไทยเป็นผลสำเร็จติดต่อกันถึง 8 ครั้งและในปีนี้เป็นครั้งที่ 9เล็งเห็นว่างาน VIV Asia 2009 จะสร้างประโยชน์อย่างมหาศาลต่อภาคอุตสาหกรรมปศุสัตว์และเกษตรกรรมของไทยและในประเทศ Asia ด้วยกัน โดยศักยภาพของอุตสาหกรรมปศุสัตว์เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ งานนี้ สสปน.ใช้งบ 2-4 ล้านบาท สำหรับประชาสัมพันธ์ และทำการตลาดของงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อโน้มน้าวให้กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมงานผ่านแคมเปญ “100 Ahead”
มีบริษัทที่เข้าร่วมงานกว่า 550 บริษัท ตั้งเป้ามีผู้ร่วมงานทั้งผู้ชมและผู้ออกบูทรวม 22,000 คน เกิดการซื้อขายจากงานนี้คิดเป็นมูลค่ากว่า 57,000 ล้านบาท
นางศุภวรรณ กล่าวทิ้งท้ายว่า ฝ่ายงานแสดงสินค้านานาชาติ สสปน. ได้รับจัดสรรงบประมาณเพื่อทำตลาดในปี 2552 ราว 107 ล้านบาท ตั้งเป้าให้การสนับสนุนงานแสดงสินค้านานาชาติให้เข้ามาจัดที่ประเทศไทยได้ไม่น้อยกว่า 80 งาน เท่ากับปีก่อน ภายใต้กลยุทธ์การตลาด 360 องศา เพื่อผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางของการจัดงานแสดงสินค้า ต่อยอดโครงการ “กรุงเทพฯ...มหานครแห่งการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติของอาเซียน ตอกย้ำเป้าหมายรวมของสสปน. ที่ต้องการให้อุตสาหกรรมไมซ์(MICE) สร้างรายได้เข้าประเทศได้ในปีนี้ที่ 52,000 ล้านบาท จากจำนวนนักเดินทางในกลุ่มนักธุรกิจไม่น้อยกว่า 636,000 คน
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายงานแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เปิดเผยว่า ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกคาดว่าจะกระทบต่อธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้า โดยมีผลทำให้ผู้เข้าร่วมงานลดลง เพราะทุกองค์กรย่อมปรับลดค่าใช้จ่ายเพื่อประคองธุรกิจ เป็นผลให้งบประมาณในส่วนของการเดินทางเข้าร่วมงานจัดแสดงสินค้าทั้งกลุ่มผู้เข้าชมงานและกลุ่มที่ร่วมออกบูทย่อมถูกปรับลดลงด้วย
สำหรับงานแสดงสินค้านานาชาติของประเทศไทยที่ สสปน.ดูแลอยู่ในปีนี้ก็คาดว่าจำนวนผู้เข้าร่วมงานจะลดลงจากปีก่อนประมาณ 5-10% ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาดจากปีก่อนที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มที่เดินทางเข้ามาร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติตลอดทั้งปีประมาณ 1.4 แสนคน เติบโตเฉลี่ยปีละ 15-20% ติดต่อกันมา 2-3 ปีแล้ว
ดังนั้นกลยุทธ์ในส่วนของฝ่ายงานแสดงสินค้านานาชาติ หรือเอ็กซิบิชั่น( E ) ของ สสปน.ปีนี้ คือเน้นให้การสนับสนุนแก่ออกาไนซ์ผู้จัดงาน ที่อยู่ในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก จีน และ อินเดีย ให้เข้ามาจัดงานในประเทศไทย ผ่านแคมเปญ “100Ahead” กล่าวคือ สสปน.จะให้เงินสนับสนุน 100 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อทริป เพื่อดึงบายเออร์ให้เดินทางเข้ามาร่วมงาน โดยมีข้อแม้ต้องเดินทางกรุ๊ปละไม่ต่ำกว่า 15 คน พำนักในประเทศไทย 3 วัน 2 คืนขึ้นไป
ล่าสุดสสปน.สนับสนุนการจัด งาน VIV Asia 2009 โดย สสปน.สามารถดึงงานให้เข้ามาจัดในประเทศไทยเป็นผลสำเร็จติดต่อกันถึง 8 ครั้งและในปีนี้เป็นครั้งที่ 9เล็งเห็นว่างาน VIV Asia 2009 จะสร้างประโยชน์อย่างมหาศาลต่อภาคอุตสาหกรรมปศุสัตว์และเกษตรกรรมของไทยและในประเทศ Asia ด้วยกัน โดยศักยภาพของอุตสาหกรรมปศุสัตว์เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ งานนี้ สสปน.ใช้งบ 2-4 ล้านบาท สำหรับประชาสัมพันธ์ และทำการตลาดของงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อโน้มน้าวให้กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมงานผ่านแคมเปญ “100 Ahead”
มีบริษัทที่เข้าร่วมงานกว่า 550 บริษัท ตั้งเป้ามีผู้ร่วมงานทั้งผู้ชมและผู้ออกบูทรวม 22,000 คน เกิดการซื้อขายจากงานนี้คิดเป็นมูลค่ากว่า 57,000 ล้านบาท
นางศุภวรรณ กล่าวทิ้งท้ายว่า ฝ่ายงานแสดงสินค้านานาชาติ สสปน. ได้รับจัดสรรงบประมาณเพื่อทำตลาดในปี 2552 ราว 107 ล้านบาท ตั้งเป้าให้การสนับสนุนงานแสดงสินค้านานาชาติให้เข้ามาจัดที่ประเทศไทยได้ไม่น้อยกว่า 80 งาน เท่ากับปีก่อน ภายใต้กลยุทธ์การตลาด 360 องศา เพื่อผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางของการจัดงานแสดงสินค้า ต่อยอดโครงการ “กรุงเทพฯ...มหานครแห่งการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติของอาเซียน ตอกย้ำเป้าหมายรวมของสสปน. ที่ต้องการให้อุตสาหกรรมไมซ์(MICE) สร้างรายได้เข้าประเทศได้ในปีนี้ที่ 52,000 ล้านบาท จากจำนวนนักเดินทางในกลุ่มนักธุรกิจไม่น้อยกว่า 636,000 คน