ปัญหาภาคใต้เรื่องใหญ่มากนะครับ
และเรามักคิดแก้ไขกันโดยมุ่งใช้นโยบายควบระหว่างการเมืองกับการทหาร โดยยังไม่มีการเข้าถึงแก่นแท้ของปัญหาที่คิดกันว่า ความต้องการจริงๆ ของประชาชนเขานั้นต้องการอะไรกันแน่
เคยมีคนบอกผมว่าเราควรให้เขาได้แก้ปัญหาของเขาเอง
คือทดลองให้เขาปกครองตนเองดูบ้าง
อย่างจีนมีเขตปกครองตนเอง แต่ไม่ได้แยกตัวเป็นอิสระก็อยู่ได้
ผมมาคิดดูว่า ถ้าทางเราจะลองทำดูก็ควรคิดกติกากันใหม่ว่า ขอบเขตควรจะอยู่กันโดยมีข้อจำกัดแค่ไหน และเราจะยอมตามเงื่อนไขข้อตกลงได้ประการใดบ้าง
เรื่องนี้ควรตั้งคณะศึกษาดูนะ เช่น อาจให้สภาฯ เป็นผู้ริเริ่ม ให้สภาฯ ตั้งคณะทำงาน มีส.ส.ร่วมตั้งคนที่รู้เรื่อง เช่น อาจเป็นอาจารย์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตัวแทนทางศาสนาและให้มีคณะผู้สังเกตการณ์
และก็ควรวางรูปแบบที่เป็นของไทยเราออกมา
ว่าควรมีแผนอย่างไร ควรทดลองเป็นขั้นตอนก่อน ไม่ใช่เปิดให้ปกครองแบบสมบูรณ์เบ็ดเสร็จ
ขั้นแรกอาจเป็นแค่ 1 ปี ขั้นต่อไปให้ขยายขึ้นเป็น 2 ปี และขั้นสุดท้ายให้ปกครองและให้มีการเลือกตั้ง โดยมีผู้แทนของเขาเองซึ่งก็จะเป็นผู้แทนเข้ามาในสภาฯ นี้แหละครับ
หากทดลองดูแล้ว 3 ปี ก็ควรประเมินดูว่าได้ผลดีเสียมากน้อยแค่ไหน คดีความต่างๆ ลดลงบ้างหรือไม่
นี่ผมคิดของผมเอง อาจไม่ได้ผล และทางฝ่ายที่เขาก่อหวอดของเขาอยู่อาจไม่ยอมรับ
แต่ผมว่าประชาชนน่าจะยอมรับและน่าจะรู้สึกว่านี่น่าจะเป็นทางออกใหม่ก็ได้
ทุกวันนี้ป่วยการครับที่จะไปจี้ให้ใครมาดับไฟใต้ เพราะว่าที่แล้วมาก็เห็นมีหลายคณะพยายามแล้วพยายามอีกแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผล
และก็มีการตั้งองค์กรขึ้นมามากมายก็เพื่อทุเลาปัญหา แต่ก็มีปัญหาเกิดขึ้นเรื่อยๆ
นี่พรรคมาตุภูมิอะไรนี่ก็ออกมาเคลื่อนไหวว่าถึงคราวที่จะมีแนวทางสมานฉันท์ได้แล้ว
และควรจะร่าง พ.รบ.สำนักงานบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
ให้ตั้งองค์กรถาวรขึ้นมาดูแลแก้ปัญหา
พรรคมาตุภูมิซึ่งก็คือพรรคราษฎรเดิมนั้น ก็มีนายมั่น พัธโนทัย, คุณมุข สุไลมาน, คุณอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์, คุณนัจมุดดีน อูมา เป็นต้น ได้แถลงข่าวเรื่องนี้ว่าแนวทางที่จะแก้ปัญหา ควรมี 6 แนวทาง คือ 1. ให้ตั้งกรรมการอิสระสอบหาข้อเท็จจริงการสังหารหมู่ที่คนกำลังละหมาดในมัสยิดอัลฟรุกอนให้ทัดเทียมกับเรื่องร้ายแรงอื่นๆ 2. รัฐบาลต้องเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเร่งด่วน 3. ให้รัฐบาลเร่งสร้างความสมานฉันท์ระหว่างไทยพุทธกับไทยมุสลิม 4. รัฐบาลต้องสั่งกองกำลังต่างๆ คุมสถานการณ์และคุ้มกันประชาชนให้ปลอดภัย 5. ให้รัฐบาลเร่งรัดเสนอ พ.ร.บ.สำนักบริหารกิจการชายแดนภาคใต้โดยเร่งด่วน 6. ให้สมาชิกสภาผู้แทนฯ พรรคการเมืองต่างๆ และ ส.ว.หารือร่วมกันให้มีมาตรการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
ครับ...ผมเห็นด้วยนะ เห็นด้วยทั้งหมดครับ
อยากให้รัฐบาลทำงานเรื่องนี้โดยเร็วและรอบคอบโดยจัดลำดับความสำคัญ และรีบดำเนินการเรื่อง พ.ร.บ.ให้เป็นกรณีพิเศษเพื่อเข้าสภาฯ
เรื่องเอาการเมืองนำการทหารนั้นก็ดี
แต่ควรนำเอาการปกครองเข้ามาด้วย โดยคำนึงว่าการปกครองต้องดี เป็นธรรมและเคารพถึงปัจจัยเฉพาะของภาคใต้ด้วยให้รอบคอบและระวังไม่ให้มีการกระทบกระเทือนถึงศาสนาด้วย ไม่ว่าพุทธหรืออิสลาม
พรรคประชาธิปัตย์เองก็เห็นด้วยกับการตั้งองค์กรถาวรขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหา
ความจริงแล้วฐานของพรรค ปชป.เองก็อยู่ที่ภาคใต้ ดังนั้น ก็ต้องรู้เรื่องปัญหาชายแดนภาคใต้อยู่แล้ว
สำหรับทางทหารนั้น เข้าใจว่าทหารในพื้นที่ทำรายงานส่งมายาวนาน ควรให้มีการสรุปวิเคราะห์ถึงปัญหาอย่างจริงจัง และผมก็เห็นด้วยกับฝ่ายทหารที่เน้นว่าการพัฒนานั้น ควรทำแบบรอบด้านในทุกมิติทั้งทางเศรษฐกิจ, สังคม, วัฒนธรรม การศึกษา โดยรวบแบบผนึกเข้าไว้ด้วยกัน
คนส่วนใหญ่นั้นผมว่าเขาร่วมมืออยู่แล้ว
การปราบปรามนั้นควรยุติได้แล้ว เว้นแต่โจรธรรมดาที่ควรทำต่อไป เช่น เรื่องยาเสพติด เป็นต้น
ผมว่าถ้าเราคิดจะแก้ไขปัญหากันอย่างจริงจัง มันก็คงไม่ได้แก้อะไรกันยาก
เคยมีที่เราแก้ปัญหาระหว่างชาติ เมื่อมีเรื่องโจรจีนมลายู ซึ่งบัดนี้ฝ่ายนั้นก็สลายไปแล้ว โดยทั้งไทย และมาเลเซียได้ประโยชน์
เรื่องความไม่สงบชายแดนไทยนั้น ถ้าสงบได้จริงก็จะได้ประโยชน์ในการพัฒนาอย่างยิ่ง เนื่องจากภาคใต้มีทรัพยากรมาก และมีแหล่งท่องเที่ยวระดับเกรดเอของโลกอยู่มากมายครับ
และเรามักคิดแก้ไขกันโดยมุ่งใช้นโยบายควบระหว่างการเมืองกับการทหาร โดยยังไม่มีการเข้าถึงแก่นแท้ของปัญหาที่คิดกันว่า ความต้องการจริงๆ ของประชาชนเขานั้นต้องการอะไรกันแน่
เคยมีคนบอกผมว่าเราควรให้เขาได้แก้ปัญหาของเขาเอง
คือทดลองให้เขาปกครองตนเองดูบ้าง
อย่างจีนมีเขตปกครองตนเอง แต่ไม่ได้แยกตัวเป็นอิสระก็อยู่ได้
ผมมาคิดดูว่า ถ้าทางเราจะลองทำดูก็ควรคิดกติกากันใหม่ว่า ขอบเขตควรจะอยู่กันโดยมีข้อจำกัดแค่ไหน และเราจะยอมตามเงื่อนไขข้อตกลงได้ประการใดบ้าง
เรื่องนี้ควรตั้งคณะศึกษาดูนะ เช่น อาจให้สภาฯ เป็นผู้ริเริ่ม ให้สภาฯ ตั้งคณะทำงาน มีส.ส.ร่วมตั้งคนที่รู้เรื่อง เช่น อาจเป็นอาจารย์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตัวแทนทางศาสนาและให้มีคณะผู้สังเกตการณ์
และก็ควรวางรูปแบบที่เป็นของไทยเราออกมา
ว่าควรมีแผนอย่างไร ควรทดลองเป็นขั้นตอนก่อน ไม่ใช่เปิดให้ปกครองแบบสมบูรณ์เบ็ดเสร็จ
ขั้นแรกอาจเป็นแค่ 1 ปี ขั้นต่อไปให้ขยายขึ้นเป็น 2 ปี และขั้นสุดท้ายให้ปกครองและให้มีการเลือกตั้ง โดยมีผู้แทนของเขาเองซึ่งก็จะเป็นผู้แทนเข้ามาในสภาฯ นี้แหละครับ
หากทดลองดูแล้ว 3 ปี ก็ควรประเมินดูว่าได้ผลดีเสียมากน้อยแค่ไหน คดีความต่างๆ ลดลงบ้างหรือไม่
นี่ผมคิดของผมเอง อาจไม่ได้ผล และทางฝ่ายที่เขาก่อหวอดของเขาอยู่อาจไม่ยอมรับ
แต่ผมว่าประชาชนน่าจะยอมรับและน่าจะรู้สึกว่านี่น่าจะเป็นทางออกใหม่ก็ได้
ทุกวันนี้ป่วยการครับที่จะไปจี้ให้ใครมาดับไฟใต้ เพราะว่าที่แล้วมาก็เห็นมีหลายคณะพยายามแล้วพยายามอีกแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผล
และก็มีการตั้งองค์กรขึ้นมามากมายก็เพื่อทุเลาปัญหา แต่ก็มีปัญหาเกิดขึ้นเรื่อยๆ
นี่พรรคมาตุภูมิอะไรนี่ก็ออกมาเคลื่อนไหวว่าถึงคราวที่จะมีแนวทางสมานฉันท์ได้แล้ว
และควรจะร่าง พ.รบ.สำนักงานบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
ให้ตั้งองค์กรถาวรขึ้นมาดูแลแก้ปัญหา
พรรคมาตุภูมิซึ่งก็คือพรรคราษฎรเดิมนั้น ก็มีนายมั่น พัธโนทัย, คุณมุข สุไลมาน, คุณอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์, คุณนัจมุดดีน อูมา เป็นต้น ได้แถลงข่าวเรื่องนี้ว่าแนวทางที่จะแก้ปัญหา ควรมี 6 แนวทาง คือ 1. ให้ตั้งกรรมการอิสระสอบหาข้อเท็จจริงการสังหารหมู่ที่คนกำลังละหมาดในมัสยิดอัลฟรุกอนให้ทัดเทียมกับเรื่องร้ายแรงอื่นๆ 2. รัฐบาลต้องเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเร่งด่วน 3. ให้รัฐบาลเร่งสร้างความสมานฉันท์ระหว่างไทยพุทธกับไทยมุสลิม 4. รัฐบาลต้องสั่งกองกำลังต่างๆ คุมสถานการณ์และคุ้มกันประชาชนให้ปลอดภัย 5. ให้รัฐบาลเร่งรัดเสนอ พ.ร.บ.สำนักบริหารกิจการชายแดนภาคใต้โดยเร่งด่วน 6. ให้สมาชิกสภาผู้แทนฯ พรรคการเมืองต่างๆ และ ส.ว.หารือร่วมกันให้มีมาตรการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
ครับ...ผมเห็นด้วยนะ เห็นด้วยทั้งหมดครับ
อยากให้รัฐบาลทำงานเรื่องนี้โดยเร็วและรอบคอบโดยจัดลำดับความสำคัญ และรีบดำเนินการเรื่อง พ.ร.บ.ให้เป็นกรณีพิเศษเพื่อเข้าสภาฯ
เรื่องเอาการเมืองนำการทหารนั้นก็ดี
แต่ควรนำเอาการปกครองเข้ามาด้วย โดยคำนึงว่าการปกครองต้องดี เป็นธรรมและเคารพถึงปัจจัยเฉพาะของภาคใต้ด้วยให้รอบคอบและระวังไม่ให้มีการกระทบกระเทือนถึงศาสนาด้วย ไม่ว่าพุทธหรืออิสลาม
พรรคประชาธิปัตย์เองก็เห็นด้วยกับการตั้งองค์กรถาวรขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหา
ความจริงแล้วฐานของพรรค ปชป.เองก็อยู่ที่ภาคใต้ ดังนั้น ก็ต้องรู้เรื่องปัญหาชายแดนภาคใต้อยู่แล้ว
สำหรับทางทหารนั้น เข้าใจว่าทหารในพื้นที่ทำรายงานส่งมายาวนาน ควรให้มีการสรุปวิเคราะห์ถึงปัญหาอย่างจริงจัง และผมก็เห็นด้วยกับฝ่ายทหารที่เน้นว่าการพัฒนานั้น ควรทำแบบรอบด้านในทุกมิติทั้งทางเศรษฐกิจ, สังคม, วัฒนธรรม การศึกษา โดยรวบแบบผนึกเข้าไว้ด้วยกัน
คนส่วนใหญ่นั้นผมว่าเขาร่วมมืออยู่แล้ว
การปราบปรามนั้นควรยุติได้แล้ว เว้นแต่โจรธรรมดาที่ควรทำต่อไป เช่น เรื่องยาเสพติด เป็นต้น
ผมว่าถ้าเราคิดจะแก้ไขปัญหากันอย่างจริงจัง มันก็คงไม่ได้แก้อะไรกันยาก
เคยมีที่เราแก้ปัญหาระหว่างชาติ เมื่อมีเรื่องโจรจีนมลายู ซึ่งบัดนี้ฝ่ายนั้นก็สลายไปแล้ว โดยทั้งไทย และมาเลเซียได้ประโยชน์
เรื่องความไม่สงบชายแดนไทยนั้น ถ้าสงบได้จริงก็จะได้ประโยชน์ในการพัฒนาอย่างยิ่ง เนื่องจากภาคใต้มีทรัพยากรมาก และมีแหล่งท่องเที่ยวระดับเกรดเอของโลกอยู่มากมายครับ
