เฟตต้า-ทีทีเอเอ เบรกตัวโก่ง งดจัดงานส่งเสริมการขายสินค้าบริการท่องเที่ยว และงานเทรดโชว์ ชี้พิษไข้หวัดใหญ่ 2009 ซ้ำเติมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว กระทบตลาดคนไทย-ต่างชาติชะลอเดินทาง ขืนดื้อจัดงานก็สูญเงินเปล่า ด้านวีระศักดิ์ เผย ททท.เตรียมปรับลดเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือ 12 ล้านคน ยอมรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยถดถอยในรอบ 50 ปี สั่งทำแผนตลาดปี 2553 ต้องยืดหยุ่นพร้อมรับทุกสถานการณ์
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ในฐานะโฆษกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย หรือ เฟตต้า เปิดเผยว่า ในการประชุมสมาชิกเฟตต้าต้นเดือน ก.ค.นี้ จะเสนอให้มีการพิจารณาว่าจะเลื่อนหรือยกเลิกการจัดงานส่งเสริมการขายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว (เทรดโชว์) หรือไม่ จากที่เตรียมไว้ว่าจะจัดงานในเดือน ส.ค. 52 เพราะสถานการณ์ขณะนี้และการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ 2009 ทำให้บรรยากาศไม่เอื้อต่อการจัดงานโดยเชื่อว่าคนไทยและต่างชาติจะชะลอที่จะเดินทาง หากยังฝืนจัดงานคงไม่เกิดผลและเสียเงินเปล่า
สำหรับสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ซึ่งเตรียมจัดงานเทรดโชว์ จำหน่ายแพกเกจทัวร์เส้นทางต่างประเทศ 3-4 งาน ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ก็อาจต้องเลื่อนออกไปก่อนเช่นกัน ซึ่งมีเหตุผลเดียวกับที่กล่าวมาข้างต้น เห็นได้จาก งานอาเซียน +3 ทราเวล แฟร์ ที่จัดเสร็จสิ้นไป ก็ไม่ประสบความสำเร็จในการขายสินค้า ซึ่งช่วงนั้นเริ่มมีข่าวการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ทำให้คนไทยชะลอท่องเที่ยว
ปัจจุบันตัวเลขของไทยเดินทางเที่ยวต่างประเทศ เหลือเพียง 10% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมดในแพกเกจทัวร์ต่างประเทศ จากทุกปีช่วงโลว์ซีซั่น ตัวเลขจะอยู่ที่ 40% ส่วนตลาดองค์กรเที่ยวต่างประเทศก็หายไปเกือบหมด จากที่ทุกปีช่วงนี้องค์กรจะไปต่างประเทศจำนวนมาก
****ปรับลดเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติ*********
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานบอร์ด ททท. กล่าวว่า ททท.เตรียมปรับลดเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลง 20-25% จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี โดยเป้าหมายใหม่ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2552 จะอยู่ที่ 12.12.5 ล้านคน ลดลง 3.78 ล้านคน จากของเดินที่ตั้งไว้ราว 14 ล้านคย ด้านรายได้จะลดลงมาอยู่ที่ 3.78 แสนล้านบาท ลดลงกว่า 1 แสนล้านบาท จากเป้าเดิมที่ตั้งไว้ 5.04 แสนล้านบาท สำหรับตลาดคนไทย ยังขอดูสถานการณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 อีกสักระยะ เพราะเชื่อว่าคงมีผลกับการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยแน่นอน
การปรับลดเป้าหมายครั้งนี้ก็เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง ซึ่งต้องยอมรับว่าปีนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยอยู่ในภาวะถดถอยมากที่สุดในรอบเกือบ 50 ปี ที่ก่อตั้ง ททท.มาโดยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากหลายปัจจัยลบ ทั้งโรคระบาด สถานการณ์ทางการเมือง และวิกฤตเศรษฐกิจโลก รวมถึงนโยบายของภาครัฐที่ยังไม่สามารถตอบโจทย์การแก้ปัญหาของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้อย่างตรงจุด และเห็นเป็นรูปธรรมจริง เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศที่ยังไม่สามารถใช้ได้จริง เป็นต้น อีกทั้งรัฐบาลก็ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศที่ออกหนังสือเตือนปลดล็อกได้ โดยเฉพาะในตลาด จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งเป็นตลาดหลักของไทย ทำให้ไทยเสียโอกาสที่จะสร้างรายได้ เห็นได้จากนักท่องเที่ยวครึ่งปีแรก ที่น่าจะติดลบจากปีก่อนกว่า 26%
ทั้งนี้ ผู้บริหารของ ททท.จะนำตัวเลขที่ปรับลดนี้ ไปหารือกับผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.ต่างประเทศ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการประชุมจัดทำแผนยุทธศาสตร์ด้านการตลาดประจำปีงบประมาณ 2553 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-26 มิ.ย. 52 ที่ โรงแรมรามา การ์เด้นท์ โดยแผนปีหน้าจะต้องกำหนดให้มีความยืดหยุ่นสูงพร้อมรับมือได้ทุกสถานการณ์และมีกลยุทธ์ใหม่ๆนำเสนอเพื่อจูงใจนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ในฐานะโฆษกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย หรือ เฟตต้า เปิดเผยว่า ในการประชุมสมาชิกเฟตต้าต้นเดือน ก.ค.นี้ จะเสนอให้มีการพิจารณาว่าจะเลื่อนหรือยกเลิกการจัดงานส่งเสริมการขายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว (เทรดโชว์) หรือไม่ จากที่เตรียมไว้ว่าจะจัดงานในเดือน ส.ค. 52 เพราะสถานการณ์ขณะนี้และการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ 2009 ทำให้บรรยากาศไม่เอื้อต่อการจัดงานโดยเชื่อว่าคนไทยและต่างชาติจะชะลอที่จะเดินทาง หากยังฝืนจัดงานคงไม่เกิดผลและเสียเงินเปล่า
สำหรับสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ซึ่งเตรียมจัดงานเทรดโชว์ จำหน่ายแพกเกจทัวร์เส้นทางต่างประเทศ 3-4 งาน ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ก็อาจต้องเลื่อนออกไปก่อนเช่นกัน ซึ่งมีเหตุผลเดียวกับที่กล่าวมาข้างต้น เห็นได้จาก งานอาเซียน +3 ทราเวล แฟร์ ที่จัดเสร็จสิ้นไป ก็ไม่ประสบความสำเร็จในการขายสินค้า ซึ่งช่วงนั้นเริ่มมีข่าวการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ทำให้คนไทยชะลอท่องเที่ยว
ปัจจุบันตัวเลขของไทยเดินทางเที่ยวต่างประเทศ เหลือเพียง 10% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมดในแพกเกจทัวร์ต่างประเทศ จากทุกปีช่วงโลว์ซีซั่น ตัวเลขจะอยู่ที่ 40% ส่วนตลาดองค์กรเที่ยวต่างประเทศก็หายไปเกือบหมด จากที่ทุกปีช่วงนี้องค์กรจะไปต่างประเทศจำนวนมาก
****ปรับลดเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติ*********
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานบอร์ด ททท. กล่าวว่า ททท.เตรียมปรับลดเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลง 20-25% จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี โดยเป้าหมายใหม่ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2552 จะอยู่ที่ 12.12.5 ล้านคน ลดลง 3.78 ล้านคน จากของเดินที่ตั้งไว้ราว 14 ล้านคย ด้านรายได้จะลดลงมาอยู่ที่ 3.78 แสนล้านบาท ลดลงกว่า 1 แสนล้านบาท จากเป้าเดิมที่ตั้งไว้ 5.04 แสนล้านบาท สำหรับตลาดคนไทย ยังขอดูสถานการณ์การระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 อีกสักระยะ เพราะเชื่อว่าคงมีผลกับการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยแน่นอน
การปรับลดเป้าหมายครั้งนี้ก็เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง ซึ่งต้องยอมรับว่าปีนี้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยอยู่ในภาวะถดถอยมากที่สุดในรอบเกือบ 50 ปี ที่ก่อตั้ง ททท.มาโดยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากหลายปัจจัยลบ ทั้งโรคระบาด สถานการณ์ทางการเมือง และวิกฤตเศรษฐกิจโลก รวมถึงนโยบายของภาครัฐที่ยังไม่สามารถตอบโจทย์การแก้ปัญหาของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้อย่างตรงจุด และเห็นเป็นรูปธรรมจริง เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าเข้าประเทศที่ยังไม่สามารถใช้ได้จริง เป็นต้น อีกทั้งรัฐบาลก็ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศที่ออกหนังสือเตือนปลดล็อกได้ โดยเฉพาะในตลาด จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งเป็นตลาดหลักของไทย ทำให้ไทยเสียโอกาสที่จะสร้างรายได้ เห็นได้จากนักท่องเที่ยวครึ่งปีแรก ที่น่าจะติดลบจากปีก่อนกว่า 26%
ทั้งนี้ ผู้บริหารของ ททท.จะนำตัวเลขที่ปรับลดนี้ ไปหารือกับผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.ต่างประเทศ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการประชุมจัดทำแผนยุทธศาสตร์ด้านการตลาดประจำปีงบประมาณ 2553 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-26 มิ.ย. 52 ที่ โรงแรมรามา การ์เด้นท์ โดยแผนปีหน้าจะต้องกำหนดให้มีความยืดหยุ่นสูงพร้อมรับมือได้ทุกสถานการณ์และมีกลยุทธ์ใหม่ๆนำเสนอเพื่อจูงใจนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น