กระทรวงการท่องเที่ยวฯเพิ่งตื่น สั่ง สทท.เรียกสมาชิกระดมความคิดหาแนวทางการแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ หลังรัฐบาลจีนเริ่มประกาศใช้กฎหมายควบคุมการทำธุรกิจนำเที่ยว พร้อมจัดฉากผักชีโรยหน้า ส่งถึงนายกฯอภิสิทธิ์ ใช้เป็นข้อมูลไปเจรจากับผู้นำจีนสิ้นเดือนนี้ ด้านเอกชนชี้ที่ผ่านมาหน่วยงานรัฐไม่จริงใจสะสาง ปัญหาจึงสะสมและลุกลาม
นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือไปยังสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) เพื่อขอความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยต้องการให้ สทท.ไปหารือสมาชิก ที่เป็นบริษัทนำเที่ยว สมาคมผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวไทย-จีน และกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว หาแนวทางจัดการกับปัญหาทัวร์ไม่ได้คุณภาพหรือทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นกับตลาดจีน ซึ่งขึ้นชื่อว่ามีทัวร์ศูนย์เหรียญมากที่สุด อีกทั้งยังเพื่อให้สอดรับกับกฎข้อบังคับใหม่เกี่ยวกับการทำธุรกิจนำเที่ยว ที่รัฐบาลจีนได้เริ่มประกาศใช้เมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
“การประกาศใช้กฎหมายใหม่เรื่องประกอบธุรกิจนำเที่ยว ด้วยการปกป้องนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ทำให้กระทบต่อยอดการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีน เพราะทำให้บริษัทนำเที่ยวต้องนำเสนอขายทัวร์ในราคาที่สูงขึ้น 20-30% โดยจะต้องระบุโปรแกรมทัวร์ และโรงแรมที่พัก พร้อมกิจกรรมต่างๆอย่างครบถ้วน ถือเป็นสัญญาทีบริษัทนำเที่ยวต้องให้บริการแก่ลูกค่าซึ่งเชื่อว่าจะขจัดทัวร์ศูนย์เหรียญให้หมดจากระบบได้”
อย่างไรก็ตาม ผลสรุปแนวทางแก้ปัญหาของ สทท.ที่นำเสนอมา กระทรวงฯจะนำเสนอต่อไปยัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อจะได้นำไปเป็นข้อมูล ไปเจรจากับผู้นำจีน ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการณ์เยือนจีนในปลายเดือนนี้
ทางด้านนายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ในฐานะโฆษกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟตต้า) กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลไทยมีบทลงโทษแบบเด็ดขาดกับบริษัททัวร์ที่ทำทัวร์ศูนย์เหรียญ หากจับได้ว่าบริษัทใดทำธุรกิจแบบนี้ ต้องประกาศให้สาธารณชนได้รับทราบ พร้อมโทษที่จะได้รับด้วย ซึ่งหากรัฐบาลมีการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญอย่างจริงจัง ทางเฟสต้าซึ่งมีสมาชิกเป็นผู้ประกอบการนำเที่ยวจาก 8 สมาคมหลัก ยินดีที่จะให้ความร่วมมือเต็มที่ และพร้อมจัดขาดขัดเด็ดขาดหากทราบว่าสมาชิกของเฟสต้ารายใดที่ทำธุรกิจทัวร์ศูนย์เหรียญ
นายวิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพ ในฐานะคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กล่าวว่า ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญในตลาดจีนเกิดขึ้นมานานแล้ว โดยรัฐบาลไทยไม่ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เมื่อเกิดเหตุเป็นข่าวใหญ่ก็จัดการเสียทีหนึ่งแล้วก็เงียบหายไป
“ถือเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลจีนออกกฎคุมเข้มการจัดทัวร์คุณภาพแบบนี้ ทำให้ผู้ประกอบการจีนไม่กล้าที่จะร่วมมือกระทำความผิด เพราะบทลงโทษของจีนจะรุนแรงมาก ขณะที่ของประเทศไทยที่ผ่านมา มักจับกุมได้แต่ไกด์ที่ร่วมมือทำทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้มีการขยายผลไปให้ถึงบริษัททัวร์ที่เป็นต้นเหตุของปัญหา ดังนั้นอกจากทัวร์ศูนย์เหรียญจะไม่ลดลงแล้วยังกลับเพิ่มจำนวนมากขึ้น” นายวิโรจน์กล่าว
นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือไปยังสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) เพื่อขอความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยต้องการให้ สทท.ไปหารือสมาชิก ที่เป็นบริษัทนำเที่ยว สมาคมผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวไทย-จีน และกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว หาแนวทางจัดการกับปัญหาทัวร์ไม่ได้คุณภาพหรือทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นกับตลาดจีน ซึ่งขึ้นชื่อว่ามีทัวร์ศูนย์เหรียญมากที่สุด อีกทั้งยังเพื่อให้สอดรับกับกฎข้อบังคับใหม่เกี่ยวกับการทำธุรกิจนำเที่ยว ที่รัฐบาลจีนได้เริ่มประกาศใช้เมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
“การประกาศใช้กฎหมายใหม่เรื่องประกอบธุรกิจนำเที่ยว ด้วยการปกป้องนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ทำให้กระทบต่อยอดการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีน เพราะทำให้บริษัทนำเที่ยวต้องนำเสนอขายทัวร์ในราคาที่สูงขึ้น 20-30% โดยจะต้องระบุโปรแกรมทัวร์ และโรงแรมที่พัก พร้อมกิจกรรมต่างๆอย่างครบถ้วน ถือเป็นสัญญาทีบริษัทนำเที่ยวต้องให้บริการแก่ลูกค่าซึ่งเชื่อว่าจะขจัดทัวร์ศูนย์เหรียญให้หมดจากระบบได้”
อย่างไรก็ตาม ผลสรุปแนวทางแก้ปัญหาของ สทท.ที่นำเสนอมา กระทรวงฯจะนำเสนอต่อไปยัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อจะได้นำไปเป็นข้อมูล ไปเจรจากับผู้นำจีน ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการณ์เยือนจีนในปลายเดือนนี้
ทางด้านนายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ในฐานะโฆษกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟตต้า) กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลไทยมีบทลงโทษแบบเด็ดขาดกับบริษัททัวร์ที่ทำทัวร์ศูนย์เหรียญ หากจับได้ว่าบริษัทใดทำธุรกิจแบบนี้ ต้องประกาศให้สาธารณชนได้รับทราบ พร้อมโทษที่จะได้รับด้วย ซึ่งหากรัฐบาลมีการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญอย่างจริงจัง ทางเฟสต้าซึ่งมีสมาชิกเป็นผู้ประกอบการนำเที่ยวจาก 8 สมาคมหลัก ยินดีที่จะให้ความร่วมมือเต็มที่ และพร้อมจัดขาดขัดเด็ดขาดหากทราบว่าสมาชิกของเฟสต้ารายใดที่ทำธุรกิจทัวร์ศูนย์เหรียญ
นายวิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพ ในฐานะคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กล่าวว่า ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญในตลาดจีนเกิดขึ้นมานานแล้ว โดยรัฐบาลไทยไม่ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เมื่อเกิดเหตุเป็นข่าวใหญ่ก็จัดการเสียทีหนึ่งแล้วก็เงียบหายไป
“ถือเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลจีนออกกฎคุมเข้มการจัดทัวร์คุณภาพแบบนี้ ทำให้ผู้ประกอบการจีนไม่กล้าที่จะร่วมมือกระทำความผิด เพราะบทลงโทษของจีนจะรุนแรงมาก ขณะที่ของประเทศไทยที่ผ่านมา มักจับกุมได้แต่ไกด์ที่ร่วมมือทำทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้มีการขยายผลไปให้ถึงบริษัททัวร์ที่เป็นต้นเหตุของปัญหา ดังนั้นอกจากทัวร์ศูนย์เหรียญจะไม่ลดลงแล้วยังกลับเพิ่มจำนวนมากขึ้น” นายวิโรจน์กล่าว
