ASTVผู้จัดการรายวัน – ททท.ภูมิภาคเอเชียตะวันออก ผนึกเอกชน เร่งทำตลาดจีนเชิงรุก อัด 20 ล้านบาท โหมโฆษณาประชาสัมพัน ตั้งเป้าสิ้นปีทำยอดนักท่องเที่ยวตลาดจีนแตะ 8 แสนคน ลบคำเอกชนที่ตั้งไว้แค่ 6 แสนคน พร้อมรุกจัดสัมมนาเชิญผู้ประกอบการจีนทำความเข้าใจข้อกฎหมายที่รัฐบาลจีนประกาศใช้ ด้านนายก ที.ซี.ที.เอ ยอมรับกฎหมายใหม่เน้นทัวร์คุณภาพ
เป็นผลราคาทัวร์พุ่งขึ้นอีก 50% คนจีนชะลอเดินทาง
นายสรรเสริญ เงารังสี ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน(ที.ซี.ที.เอ) ทำการส่งเสริมการตลาดในเชิงรุก เพื่อกระตุ้นตลาดจีนให้พลิกฟื้นกลับมาได้ภายในครึ่งปีหลังนี้ โดยใช้งบ 20 ล้านบาท จากวงเงิน 50 ล้านบาท ที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออก
ได้รับจัดสรรมาจากงบพิเศษกระตุ้นท่องเที่ยวฉุกเฉินวงเงิน 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ในสว่นตลาดจีนจะใช้จัดกิจกรรมเชิงรุก เน้น โรดโชว์ จัดกิจกรรมโฆษณาประชาสัมพันธ์ ได้แก่ จับมือบริษัทนำเที่ยวในประเทศจีน ทำโปรโมชั่นประเทสไทยออกค่าใช้จ่ายคนละ 50% , สั่งการสำนักงานททท. 3 แห่งในจีน เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และ ฮ่องกง ทำโฆษณาประชาสมัพันธ์ประเทสไทยผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของชาวจีน และสื่อสิ่งพิมพ์
ส่วนสื่อโทรทัศน์ก็ให้มีบ้างแต่ไม่มากนักเพราะค่าใช้จ่ายสูง
***โหมโรดโชว์-โฆษณาดันยอดแตะ 8 แสนคน*******
นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญกับการเดินทางสายโรดโชว์ในเมืองใหญ่และเมืองรอง ที่เป็นเศรษบกิจอุตสาหกรรมเกิดใหม่ เพื่อขยายฐานนักท่องเที่ยวจีนจากหัวเมือง เนื่องจากในเมืองเซี่ยงไฮ้ ถ้าจะเดินทางมาเที่ยวไทยเขาจะเข้มงวดมากกว่าเมืองอื่นเพราะอยู่ระหว่างที่รัฐบาลประกาศเตือนนักท่องเที่ยว ล่าสุดกำหนดโรดโชว์ 4 เมือง ระหว่างวันที่ 5-10 ก.ค.52 ได้แก่ หนิงโปว ซูโจว
อู๋ซี และ เซี่ยวไฮ้ รวมถึงการจัดแฟมทริป เชิญสื่อมวลชน และ บริษัทนำเที่ยวจากประเทศจีน เข้ามาสำรวจแหล่งท่องเที่ยว โดยจะมีการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เน้นพื้นที่ชายทะเล ซึ่งชาวจีนชื่อชอบ ได้แก่ เกาะช้าง หัวหิน ชะอำ กระบี่ และพัทยา ซึ่งที่พัทยาเพื่อตอกย้ำความปลอดภัย ลบภาพการจลาจลที่เกิดขึ้นกับการประชุมผู้นำอาเซียน และนำเสนอเมนูอาหารอร่อยและถูก
โดยเฉพาะอาหารทะเล และผลไม้ไทย ในอนาคตเตรียมนำเสนอวิถีชีวิต ที่ชาวจีนไม่มี เช่น อัมพวา ประเพณีผีตาโขน เป็นต้น
“จากแผนงานทั้งหมดที่กล่าวมา บวกกับการที่นายกรัฐมนตรีของไทยจะเดินทางไปพบผู้นำประเทศจีนในกลางเดือนนี้ เชื่อว่าจะทำให้ตลาดจีนพลิกฟื้นได้โดยเร็วถึงสิ้นปีคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามารวม 8 แสนคน ลดลงเพียง 20% จากที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1 ล้านคน จากที่ 5 เดือนแรกจำนวนนักท่องเที่ยวจากตลาดจีนลดลงไปเกือบ 50%
ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าที่เอกชนคาดการณ์ว่าจะได้ที่ 6 แสนคน “นายสรรเสริญกล่าว
***ททท.มองเห็นแสงชาร์เตอร์ไฟล์ทจีนเริ่มเข้า****
นายสรรเสริญ กล่าวว่า มีรายงานล่าสุดระบุว่า ตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป็นต้นไป เริ่มมี ชาร์เตอร์ไฟล์ทจากประเทศจีนบินมาที่ประเทศไทยแล้ว ถือเป็นปรากฎการณ์ที่ดี และเห็นว่าตลาดน่าจะฟื้นตัวได้เร็ว ถ้าได้รับการกระตุ้นเชิงรุก ได้แก่ บริษัทนำเที่ยว GZL จากจีน จัดชาร์เตอร์ไฟล์ทจากกวางโจว มาลงที่ภูเก็ต เดือน ก.ค.-ก.ย. ,สายการบินMU เริ่ม เที่ยวบินชาร์จเตอร์ไฟล์ท ปลาย
มิ.ย.นี้จากเซี่ยงไฮ้-ภูเก็ต เน้นเจาะกลุ่ม FIT ส่วนเที่ยวบินเซี่ยงไฮ้แอร์ เริ่มบิน มิ.ย.นี้ สัปดาห์ละ 2 เที่ยวบินมาที่ภูเก็ต จากข้อมูลดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่าตลาดจีนยังมีดีมานด์ที่ต้องการเดินทางเข้ามา หากรัฐบาลจีนปลดล็อกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวเชื่อว่าชาวจีนจะเดินทางเข้ามามากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ททท.ยังได้ร่วมกับ ที.ซี.ที.เอ เชิญ จัดสัมมนาบริษัทนำเที่ยวไทย-จีน เชิญบริษัททัวร์จากประเทศจีน มาพบปะหารือกับผู้ประกอบการไทย พร้อมทำความเข้าใจในกฎหมายข้อบังคับว่าด้วยการทำธุรกิจนำเที่ยวในประเทศจีน ที่รัฐบาลจีนเริ่มประกาศบังคับใช้แล้ว เพื่อต้องการกำจัดทัวร์ด้อยคุณภาพ(ทัวร์ศูนย์เหรียญ)
***ก.ม.ใหม่กระทบชาวจีนชะลอซื้อทัวร์***
ทางด้านนายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้ เพื่อให้บริษัทนำเที่ยวทั้ง 2 ฝ่ายเข้าใจตรงกันว่า สิ่งใดที่ทำได้และทำไม่ได้ เพื่อไม่ให้ขัดกับข้อกฎหมาย เช่น การเสนอโปรแกรมทัวร์ ต้องระบุสถานที่ และเวลาที่แน่นอน
ถ้ามีการขายออฟชั่นเพิ่มก็ต้องระบุไว้ท้ายรายการด้วยเพื่อให้ลูกค้าทราบตั้งแต่ต้นทาง ห้ามจัดโปรแกรมทัวร์ในรูปแบบที่ส่อไปในทางอนาจารอย่างเด็ดขาด นอกจากนั้น ผู้ประกอบการไทยยังต้องทำความเข้าใจกับมัคคุเทศก์เรื่องข้อห้ามของกฎหมาย การใช้ภาษาพูดจากับนักท่องเที่ยว การอธิบายแหล่งท่องเที่ยว ต้องมีระเบียบมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า
กฏหมายดังกล่าวส่งผลให้ราคาขายทัวร์ปรับเพิ่มขึ้นราว 1-2 พันหยวนหรือราว 50% คิดเป็นเงินไทยประมาณ 10,000 บาท ต่อคนต่อทริป จากที่เคยขายราคาเริ่มต้นที่ราว 3 พันหยวน หรือ 15,000 บาท ตรงนี้จึงเป็นอีก 1 ปัจจัยงบที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนชะลอการตัดสินใจเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศ
เป็นผลราคาทัวร์พุ่งขึ้นอีก 50% คนจีนชะลอเดินทาง
นายสรรเสริญ เงารังสี ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน(ที.ซี.ที.เอ) ทำการส่งเสริมการตลาดในเชิงรุก เพื่อกระตุ้นตลาดจีนให้พลิกฟื้นกลับมาได้ภายในครึ่งปีหลังนี้ โดยใช้งบ 20 ล้านบาท จากวงเงิน 50 ล้านบาท ที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออก
ได้รับจัดสรรมาจากงบพิเศษกระตุ้นท่องเที่ยวฉุกเฉินวงเงิน 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ในสว่นตลาดจีนจะใช้จัดกิจกรรมเชิงรุก เน้น โรดโชว์ จัดกิจกรรมโฆษณาประชาสัมพันธ์ ได้แก่ จับมือบริษัทนำเที่ยวในประเทศจีน ทำโปรโมชั่นประเทสไทยออกค่าใช้จ่ายคนละ 50% , สั่งการสำนักงานททท. 3 แห่งในจีน เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และ ฮ่องกง ทำโฆษณาประชาสมัพันธ์ประเทสไทยผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของชาวจีน และสื่อสิ่งพิมพ์
ส่วนสื่อโทรทัศน์ก็ให้มีบ้างแต่ไม่มากนักเพราะค่าใช้จ่ายสูง
***โหมโรดโชว์-โฆษณาดันยอดแตะ 8 แสนคน*******
นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญกับการเดินทางสายโรดโชว์ในเมืองใหญ่และเมืองรอง ที่เป็นเศรษบกิจอุตสาหกรรมเกิดใหม่ เพื่อขยายฐานนักท่องเที่ยวจีนจากหัวเมือง เนื่องจากในเมืองเซี่ยงไฮ้ ถ้าจะเดินทางมาเที่ยวไทยเขาจะเข้มงวดมากกว่าเมืองอื่นเพราะอยู่ระหว่างที่รัฐบาลประกาศเตือนนักท่องเที่ยว ล่าสุดกำหนดโรดโชว์ 4 เมือง ระหว่างวันที่ 5-10 ก.ค.52 ได้แก่ หนิงโปว ซูโจว
อู๋ซี และ เซี่ยวไฮ้ รวมถึงการจัดแฟมทริป เชิญสื่อมวลชน และ บริษัทนำเที่ยวจากประเทศจีน เข้ามาสำรวจแหล่งท่องเที่ยว โดยจะมีการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เน้นพื้นที่ชายทะเล ซึ่งชาวจีนชื่อชอบ ได้แก่ เกาะช้าง หัวหิน ชะอำ กระบี่ และพัทยา ซึ่งที่พัทยาเพื่อตอกย้ำความปลอดภัย ลบภาพการจลาจลที่เกิดขึ้นกับการประชุมผู้นำอาเซียน และนำเสนอเมนูอาหารอร่อยและถูก
โดยเฉพาะอาหารทะเล และผลไม้ไทย ในอนาคตเตรียมนำเสนอวิถีชีวิต ที่ชาวจีนไม่มี เช่น อัมพวา ประเพณีผีตาโขน เป็นต้น
“จากแผนงานทั้งหมดที่กล่าวมา บวกกับการที่นายกรัฐมนตรีของไทยจะเดินทางไปพบผู้นำประเทศจีนในกลางเดือนนี้ เชื่อว่าจะทำให้ตลาดจีนพลิกฟื้นได้โดยเร็วถึงสิ้นปีคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามารวม 8 แสนคน ลดลงเพียง 20% จากที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1 ล้านคน จากที่ 5 เดือนแรกจำนวนนักท่องเที่ยวจากตลาดจีนลดลงไปเกือบ 50%
ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าที่เอกชนคาดการณ์ว่าจะได้ที่ 6 แสนคน “นายสรรเสริญกล่าว
***ททท.มองเห็นแสงชาร์เตอร์ไฟล์ทจีนเริ่มเข้า****
นายสรรเสริญ กล่าวว่า มีรายงานล่าสุดระบุว่า ตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป็นต้นไป เริ่มมี ชาร์เตอร์ไฟล์ทจากประเทศจีนบินมาที่ประเทศไทยแล้ว ถือเป็นปรากฎการณ์ที่ดี และเห็นว่าตลาดน่าจะฟื้นตัวได้เร็ว ถ้าได้รับการกระตุ้นเชิงรุก ได้แก่ บริษัทนำเที่ยว GZL จากจีน จัดชาร์เตอร์ไฟล์ทจากกวางโจว มาลงที่ภูเก็ต เดือน ก.ค.-ก.ย. ,สายการบินMU เริ่ม เที่ยวบินชาร์จเตอร์ไฟล์ท ปลาย
มิ.ย.นี้จากเซี่ยงไฮ้-ภูเก็ต เน้นเจาะกลุ่ม FIT ส่วนเที่ยวบินเซี่ยงไฮ้แอร์ เริ่มบิน มิ.ย.นี้ สัปดาห์ละ 2 เที่ยวบินมาที่ภูเก็ต จากข้อมูลดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่าตลาดจีนยังมีดีมานด์ที่ต้องการเดินทางเข้ามา หากรัฐบาลจีนปลดล็อกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวเชื่อว่าชาวจีนจะเดินทางเข้ามามากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ททท.ยังได้ร่วมกับ ที.ซี.ที.เอ เชิญ จัดสัมมนาบริษัทนำเที่ยวไทย-จีน เชิญบริษัททัวร์จากประเทศจีน มาพบปะหารือกับผู้ประกอบการไทย พร้อมทำความเข้าใจในกฎหมายข้อบังคับว่าด้วยการทำธุรกิจนำเที่ยวในประเทศจีน ที่รัฐบาลจีนเริ่มประกาศบังคับใช้แล้ว เพื่อต้องการกำจัดทัวร์ด้อยคุณภาพ(ทัวร์ศูนย์เหรียญ)
***ก.ม.ใหม่กระทบชาวจีนชะลอซื้อทัวร์***
ทางด้านนายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้ เพื่อให้บริษัทนำเที่ยวทั้ง 2 ฝ่ายเข้าใจตรงกันว่า สิ่งใดที่ทำได้และทำไม่ได้ เพื่อไม่ให้ขัดกับข้อกฎหมาย เช่น การเสนอโปรแกรมทัวร์ ต้องระบุสถานที่ และเวลาที่แน่นอน
ถ้ามีการขายออฟชั่นเพิ่มก็ต้องระบุไว้ท้ายรายการด้วยเพื่อให้ลูกค้าทราบตั้งแต่ต้นทาง ห้ามจัดโปรแกรมทัวร์ในรูปแบบที่ส่อไปในทางอนาจารอย่างเด็ดขาด นอกจากนั้น ผู้ประกอบการไทยยังต้องทำความเข้าใจกับมัคคุเทศก์เรื่องข้อห้ามของกฎหมาย การใช้ภาษาพูดจากับนักท่องเที่ยว การอธิบายแหล่งท่องเที่ยว ต้องมีระเบียบมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า
กฏหมายดังกล่าวส่งผลให้ราคาขายทัวร์ปรับเพิ่มขึ้นราว 1-2 พันหยวนหรือราว 50% คิดเป็นเงินไทยประมาณ 10,000 บาท ต่อคนต่อทริป จากที่เคยขายราคาเริ่มต้นที่ราว 3 พันหยวน หรือ 15,000 บาท ตรงนี้จึงเป็นอีก 1 ปัจจัยงบที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนชะลอการตัดสินใจเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศ