นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ วานนี้ (12 มิ.ย.ว่าตนไม่ขัดข้องหากฝ่ายค้านต้องการให้ถ่ายทอดสดการพิจารณาร่างพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท และร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท แต่เท่าที่ทราบ ในการประชุมร่วม วิปรัฐบาลกับฝ่ายค้าน ตกลงกันว่าจะปฏิบัติเหมือนที่เคยปฏบัติมาคือ ไม่ถ่ายทอดการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.อื่นนอกเหนือจากร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากให้ฝ่ายค้านบอยคอตการประชุม อยากให้ทุกฝ่าย มีส่วนร่วมและทุกคนต้องทำหน้าที่ของตัวเอง
วันเดียวกันนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ได้ประชุมร่วมกับนายสามารถ แก้วมีชัย และพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาฯ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณา พ.ร.ก. และ พ.ร.บ. เงินกู้รวมถึง ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553 ที่จะพิจารณาในสัปดาห์หน้า
นายสามารถ เปิดเผยว่านายชัย ต้องการให้ พ.ร.ก.และพ.ร.บ. พิจารณา ไปพร้อมๆ กัน เพราะมีหลักการเดียวกันคือการกู้เงิน ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะใช้เวลายืดยาว นายชัย เห็นว่าควรพิจารณาให้แล้วเสร็จขภายในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ แต่ทางวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน ก็ได้มีการหารือในเบื้องต้น หากพิจารณาไม่เสร็จภายในวันเดียวก็จะมีการขอขยายเวลาออกไปอีก 1 วัน คือวันที่ 16 มิ.ย.นี้
ส่วนที่ฝ่ายค้านได้ประกาศว่าจะไม่เข้าร่วมประชุม พ.ร.ก.และพ.ร.บ. กู้เงิน หากไม่มีการถ่ายถอดสดทางโทรทัศน์ นั้น ล่าสุดหลังจากที่นายกรัฐมนตรี เห็นชอบให้ถ่ายทอดสดทางทีวีและวิทยุ ประธานสภาฯ ก็ได้ติดต่อไปยังสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 แล้ว ทั้งนี้เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาเพราะมีการถ่ายทอดสดแล้ว ส.ส.ฝ่ายค้าน ก็คงเข้าประชุมตามปกติ
สำหรับการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี53 เบื้องต้นกำหนดไว้ 2 วัน คือวันที่ 17-18 มิ.ย. ซึ่งไม่ได้มีการปิดกั้น พร้อมให้ทุกฝ่ายได้อภิปรายอย่างกว้างขวาง และหากพูดกันไม่จบภายใน 2 วันก็ต้องมาหารือว่าจะขยายวันออกไปอีกหรือไม่
ติง ถ่ายทอดสดเป็นประโยชน์กับรัฐบาล
นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การออกพ.ร.ก.และพ.ร.บ.กู้เงิน 8 แสนล้านบาทเป็นการตรากฎหมายการเงินที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะส่งผลกระทบกับประชาชนอย่างทั่วหน้าด้วยภาระหนี้สินจำนวนมหาศาล ซึ่งการถ่ายทอดสดจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายโดยเฉพาะรัฐบาลที่เป็นผู้กู้เงิน พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เพราะประชาชนจะเป็นผู้แบกรับภาระหนี้สินจำนวนมหาศาลในรูปของภาษีโดยไม่รู้ตัว
นายคณวัฒน์ กล่าวว่า รัฐบาลจงใจหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายเงินตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เป็นการผิดวินัยการเงินการคลังอย่างร้ายแรงที่สุด ด้วยการออก พ.ร.ก.และพ.ร.บ.กู้เงินซึ่งมีเพียง 9 มาตรามาจัดทำเป็นกองทุนเงินนอกงบประมาณเ พื่อการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ มีเจตนาหลีกเลี่ยงการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณจากรัฐสภาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้เป็นกรอบวินัยการเงินและการคลังอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
นายคณวัฒน์ กล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยได้เตรียมทีมอภิปรายแล้ว โดยมีทั้งชาร์ต ภาพ และตัวเลขประกอบเพื่อชี้ให้เห็นว่า การกู้เงินจำนวนมหาศาลนั้นมีสาเหตุที่แท้จริงมาจากการกำหนดยุทธศาสตร์การบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาด มิเช่นนั้นก็คงไม่จำเป็นที่จะต้องกู้เงินจำนวนมากขนาดนี้
วันเดียวกันนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ได้ประชุมร่วมกับนายสามารถ แก้วมีชัย และพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาฯ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณา พ.ร.ก. และ พ.ร.บ. เงินกู้รวมถึง ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2553 ที่จะพิจารณาในสัปดาห์หน้า
นายสามารถ เปิดเผยว่านายชัย ต้องการให้ พ.ร.ก.และพ.ร.บ. พิจารณา ไปพร้อมๆ กัน เพราะมีหลักการเดียวกันคือการกู้เงิน ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะใช้เวลายืดยาว นายชัย เห็นว่าควรพิจารณาให้แล้วเสร็จขภายในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ แต่ทางวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน ก็ได้มีการหารือในเบื้องต้น หากพิจารณาไม่เสร็จภายในวันเดียวก็จะมีการขอขยายเวลาออกไปอีก 1 วัน คือวันที่ 16 มิ.ย.นี้
ส่วนที่ฝ่ายค้านได้ประกาศว่าจะไม่เข้าร่วมประชุม พ.ร.ก.และพ.ร.บ. กู้เงิน หากไม่มีการถ่ายถอดสดทางโทรทัศน์ นั้น ล่าสุดหลังจากที่นายกรัฐมนตรี เห็นชอบให้ถ่ายทอดสดทางทีวีและวิทยุ ประธานสภาฯ ก็ได้ติดต่อไปยังสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 แล้ว ทั้งนี้เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาเพราะมีการถ่ายทอดสดแล้ว ส.ส.ฝ่ายค้าน ก็คงเข้าประชุมตามปกติ
สำหรับการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี53 เบื้องต้นกำหนดไว้ 2 วัน คือวันที่ 17-18 มิ.ย. ซึ่งไม่ได้มีการปิดกั้น พร้อมให้ทุกฝ่ายได้อภิปรายอย่างกว้างขวาง และหากพูดกันไม่จบภายใน 2 วันก็ต้องมาหารือว่าจะขยายวันออกไปอีกหรือไม่
ติง ถ่ายทอดสดเป็นประโยชน์กับรัฐบาล
นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การออกพ.ร.ก.และพ.ร.บ.กู้เงิน 8 แสนล้านบาทเป็นการตรากฎหมายการเงินที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะส่งผลกระทบกับประชาชนอย่างทั่วหน้าด้วยภาระหนี้สินจำนวนมหาศาล ซึ่งการถ่ายทอดสดจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายโดยเฉพาะรัฐบาลที่เป็นผู้กู้เงิน พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เพราะประชาชนจะเป็นผู้แบกรับภาระหนี้สินจำนวนมหาศาลในรูปของภาษีโดยไม่รู้ตัว
นายคณวัฒน์ กล่าวว่า รัฐบาลจงใจหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายเงินตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เป็นการผิดวินัยการเงินการคลังอย่างร้ายแรงที่สุด ด้วยการออก พ.ร.ก.และพ.ร.บ.กู้เงินซึ่งมีเพียง 9 มาตรามาจัดทำเป็นกองทุนเงินนอกงบประมาณเ พื่อการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ มีเจตนาหลีกเลี่ยงการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณจากรัฐสภาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้เป็นกรอบวินัยการเงินและการคลังอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
นายคณวัฒน์ กล่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยได้เตรียมทีมอภิปรายแล้ว โดยมีทั้งชาร์ต ภาพ และตัวเลขประกอบเพื่อชี้ให้เห็นว่า การกู้เงินจำนวนมหาศาลนั้นมีสาเหตุที่แท้จริงมาจากการกำหนดยุทธศาสตร์การบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาด มิเช่นนั้นก็คงไม่จำเป็นที่จะต้องกู้เงินจำนวนมากขนาดนี้
