ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – เครือข่ายนิด้าพัฒนาการเมือง จับมือ สมช.และสมาคมพัฒนาสังคม เชิญ 2 นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ชื่อก้องและเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ “ศ.ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ” กับ “ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช” ทัวร์ขึ้นเวทีถกหาทิศทางสร้าง “การเมืองใหม่” ศุกร์ที่ 12 มิ.ย.ตั้งวงเสวนาชิมลางก่อนในเวทีวิทยาลัยวันศุกร์ จากนั้นเสาร์ 13 มิ.ย.เป็นวิทยาการในเวทีสัมมนาที่ศูนย์นิด้าหาดใหญ่ ด้านผู้จัดระบุชัดพันธมิตรฯ สงขลาและทั่วภาคใต้ รวมถึงผู้มีหัวใจสีเหลืองไม่ควรพลาด
นายอนันต์ กาญจนสุวรรณ เลขาธิการเครือข่ายนิด้าพัฒนาการเมือง เปิดเผยว่า เครือข่ายนิด้าพัฒนาการเมือง โดยการสนับสนุนจาก สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ สมาคมพัฒนาสังคม มีแผนจะจัดสัมมนาเรื่อง “การเมืองปัจจุบัน และทิศทางการเมืองใหม่ที่ควรจะเป็น” โดยได้เชิญ 2 นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศร่วมเป็นวิทยากร ได้แก่ ศ.ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ กับ ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช กำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน นี้ ระหว่างเวลา 09.00-16.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานสาขารัฐศาสตร์ สถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ศูนย์หาดใหญ่ ซึ่งอยู่ในบริเวณวัดคลองเรียน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
สำหรับกำหนดการสัมมนาที่น่าสนใจ ประกอบด้วย เริ่มลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 08.00 น. ต่อจากนั้นเวลาประมาณ 09.40-12.20 น. เป็นการอภิปรายเรื่อง “การเมืองปัจจุบัน และทิศทางการเมืองใหม่ที่ควรจะเป็น” โดยมี ศ.ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ กับ ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช เป็นวิทยากรหลัก ดำเนินรายการโดย นายอนันต์ กาญจนสุวรรณ ซึ่งในช่วงท้ายของรายการจะเปิดให้ตัวแทนจาก สมช. อาจารย์นิด้าและเครือข่ายนิด้าพัฒนาการเมือง รวมถึงประชาชนที่เข้าร่วมได้ร่วมกันอภิปรายหรือซักถาม
นอกจากนี้แล้ว ในช่วงตลอดบ่ายจะมีการเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายที่เข้าร่วมสัมมนาได้เสนอแนวทางที่จะร่วมมือกันพัฒนาการเมืองในด้านต่างๆ เช่น เวลาประมาณ 13.00-14.30 น. เป็นการเสนอแนวทางการเมืองร่วมของประชาชน และบทบาทของเครือข่ายชาวนิด้าต่อการพัฒนาการเมือง ประกอบด้วย ผู้แทนศิษย์เก่าและนักศึกษาสาขาวิชาต่างๆ ของนิด้า รวมถึงผู้แทนประชาชนที่เข้าร่วมสัมมนา จากนั้นเวลา 14.30-15.20 น. จะเป็นการเปิดโอกาสให้ตัวแทน 2 ศาสนาได้เสนอแนวทางช่วยสังคมคือ ตัวแทนพุทธศาสนา พระครูวิบูลย์ปริยัติสุนทร รองเจ้าคณะอำเภอหาดใหญ่ กับตัวแทนศาสนาอิสลาม นายมูฮัมหมัด เจ๊ะเอ๊ะ ทนายความคดีตากใบ
“ในเวทีสัมมนาครั้งนี้ เราไม่ได้จัดขึ้นเพื่อให้มีการระบายแล้วก็เลิกรากันไป แต่เราจะมีการเก็บรวบรวมและสรุปเป็นข้อเสนอแนะนำเสนอต่อรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลพิจารณานำไปใช้หรือประยุกต์ใช้ในการกำหนดเป็นแนวทางของนโยบายในการบริหารประเทศชาติต่อไป” นายอนันต์กล่าวและว่า
อย่างไรก็ตาม ในช่วงค่ำของวันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน ที่จะมีเวทีวิทยาลัยวันศุกร์ ณ ห้อง E 105 การจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ (มอ.หาดใหญ่) ซึ่งถือเป็นช่วงก่อนวันจัดสัมมนาหนึ่งวันนั้น ตนได้ประสานกับคณะทำงานของวิทยาลัยวันศุกร์ไว้แล้วว่า ทั้ง ศ.ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ และ ศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช พร้อมที่จะร่วมเป็นผู้นำเสวนาในเวทีวิทยาลัยวันศุกร์ให้ด้วย โดยกำหนดหัวข้อที่จะร่วมเสวนากันไว้แล้วคือ “การเมืองใหม่ สำหรับประเทศไทย”
“จริงๆ แล้วทั้งเวทีสัมมนาของเครือข่ายนิด้าพัฒนาการเมืองในวันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน และเวทีวิทยาลัยวันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน เราอยากจะเรียนเชิญพี่น้องประชาชนให้เข้าร่วมกันมากๆ เพราะวิทยากรระดับกูรูทั้ง 2 ท่านที่จะมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนี้ไม่ได้จะได้มากันง่ายๆ โดยเพราะผองพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในภาคใต้และจังหวัดสงขลาเราไม่ควรพลาดเลย อย่างน้อยจะได้รู้และเข้าใจเกี่ยวกับการที่เราจะขับเคลื่อนสู่การเมืองใหม่นั้นควรจะเป็นอย่างไร หรือพรรคการเมืองใหม่ที่พันธมิตรฯ กำลังจะตั้งขึ้นควรจะเดินไปในทิศทางไหน” นายอนันต์กล่าวในที่สุด
ด้าน นพ.อนันต์ บุญโสภณ หนึ่งในผู้บริหารและผู้ก่อตั้งวิทยาลัยวันศุกร์ วิทยาลัยแห่งการเรียนรู้ร่วมกันที่นักเรียนก็เป็นครูได้ ในรั้ว มอ.หาดใหญ่ โดยผู้สนใจสามารถเข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ กล่าวเสริมว่า การเสวนาที่วิทยาลัยวันศุกร์จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2552 ถือเป็นหัวข้อสำคัญ และสอดรับกับสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้อย่างมากคือ เรื่อง “การเมืองใหม่ สำหรับประเทศไทย”
“เวทีวิทยาลัยวันศุกร์อาจจะเป็นเวทีเล็กๆ แต่ทุกครั้งจะอัดแน่นไปด้วยเนื้อหาสาระ เป็นเรื่องของการเรียนรู้เศรษฐกิจ สังคม การเมือง รวมถึงเรื่องของสิ่งแวดล้อมและนานาปัญหาที่เกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับบ้านเมืองเรา ครั้งนี้จึงไม่อยากให้พี่น้องประชาชนพลาด ไม่ว่าจะมีหัวใจเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือไม่ หรือจะใส่เสื้อสีอะไรก็ตาม” นพ.อนันต์ กล่าวและว่า
แน่นอนว่า การเสวนาในครั้งนี้จะเชื่อมโยงกับกรณีที่พันธมิตรฯ ประกาศร่วมกันเคลื่อนไหวเพื่อสร้างสรรค์การเมืองใหม่ โดยกำลังเร่งจัดตั้งพรรคการเมืองที่ชื่อ “พรรคการเมืองใหม่” ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเข้าไปต่อสู้ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์ในรัฐสภาของไทย อันเป็นแบบคู่ขนานของการเคลื่อนไหวในรูปแบบที่ดำเนินมาในลักษณะของการเมืองภาคประชาชน หรือการเมืองภาคพลเมืองที่ดำเนินต่อเนื่องมา