เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้(10มิ.ย.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เดินทางไปยื่นหลักฐานเพิ่มเติม ต่อกกต. กรณีที่พรรคภูมิใจไทย จัดสัมมนาในพื้นที่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ประกอบด้วยภาพถ่าย และซีดี ขณะที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แจกเงินให้กับชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 มาตรา 53 และ57
ทั้งนี้ ทางพรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตกรณีนายชวรัตน์ แจกเงินให้กับประชาชน ถึงแม้จะอยู่นอกเขตการเลือกตั้ง แต่ภาพที่ปรากฏในสื่อมวลชน อาจส่งผลให้พรรคภูมิใจไทยได้เปรียบพรรคอื่น ประกอบกับนายชวรัตน์ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ โดยระบุว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่หวังผลการเลือกตั้ง จ.สกลนคร เพราะพื้นที่ที่จัดสัมมนาเป็นพื้นที่ที่อยู่นอกเขตพื้นที่ที่จะมีการจัดเลือกตั้งซ่อม แต่เชื่อว่าคงจะมีผลบ้าง ซึ่งการสัมภาษณ์ของนายชวรัตน์ ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรค อาจส่งผลให้พรรคภูมิใจไทย ถูกยุบพรรคได้ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับดุลพินิจของกกต.
**ภท.ร้องให้ยุบพรรคเพื่อไทย
ต่อมาเวลา 14.30 น. นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ กกต. ขอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นางอนุรักษ์ บุญศล ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ของพรรคเพื่อไทย เขต 3 จ.สกลนคร และเสนอคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ยุบพรรคเพื่อไทย และมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย โดยนำหลักฐานเป็นซีดีการแถลงข่าว และเนื้อหาที่ถอดเทปคำพูดของนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ใส่ร้ายพรรคภูมิใจไทย เกี่ยวกับเรื่องการซื้อเสียง และให้กำนันผู้ใหญ่ มาสนับสนุนผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย
นายศุภชัย กล่าวว่า เรื่องที่นายพร้อมพงศ์แถลงนั้น เชื่อมโยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย มาตรา 53 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. พ.ศ.2550 ที่ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนเสียงให้แก่ตนเอง หรือผู้สมัครอื่น อีกทั้งยังห้ามใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด ซึ่งกรณีนี้นายพร้อมพงศ์ ถือเป็นกรรมการบริหารพรรค หากทำผิดตามมาตราดังกล่าว ก็มีผลทำให้อาจถูกยุบพรรคได้ นอกจากนี้ ชาวบ้านในอำเภอพรรณานิคม เตรียมแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทกับนายพร้อมพงศ์ กรณีที่กล่าวหาว่าถูกจ้างให้มาดำนา รวมถึงนายชวรัตน์ ก็เตรียมแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทด้วยเช่นกัน
**"ชวรัตน์"อ้างแจกเงินนอก เขต3
ด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงเรื่องที่ถูกร้องเรียนว่า เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะเป็นประเด็น การให้เงินคนแก่ที่ตาบอด มีความลำบาก ไม่ใช่เฉพาะที่ จ.สกลนคร เท่านั้น ถ้าเจอริมทางก็ให้ ไม่ใช่ทำเพื่อการหาเสียงอย่างแน่นอน ประเด็นนี้ตัดทิ้งไปได้ การเป็นนักการเมือง ถ้าไม่มีเมตตา ไม่มีคุณธรรมในใจ ก็แย่กว่าประชาชนทั่วไปเสียอีก เรื่องนี้ตนพร้อมชี้แจงต่อ กกต. และที่สำคัญคนที่ตนให้เงินนั้น ก็อยู่ในพื้นที่ เขต 1 ขณะที่พื้นที่เลือกตั้งคือ เขต 3
ส่วนเรื่องงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิด ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดให้นั้น นายชวรัตน์ กล่าวว่า ประเพณีทางอีสาน ก็มีการบายศรี สู่ขวัญให้กัน ซึ่งตนก็ฟังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เขาพูดอะไรกัน ส่วนที่มีการเลี้ยงโต๊ะจีน ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด จ.สกลนคร นั้น เป็นงานที่คนท้องที่เขาจัด ตนบังเอิญผ่านไปเพื่อดูท่อส่งน้ำ แล้วผู้ว่าฯก็ชวนกินข้าว ไมทราบมาก่อนว่าจะมีการจัดงาน ยืนยันว่างานไม่ได้จัดให้ตน
"ผมต้องใส่หมวกสองใบ คือในฐานะรมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ฉะนั้นในฐานะหัวหน้าพรรค ก็ต้องใส่ไปให้กำลังใจผู้สมัคร ซึ่งผมไม่ได้ทำในฐานะรัฐมนตรี เรื่องนี้อาจเป็นเกมการเมือง แต่จะไม่มีผลต่อผู้สมัครส.ส.พรรคภูมิใจไทย ส่วนที่มีการโจมตีว่ามีการใช้เครื่องมือของมหาดไทย เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยในการเลือกตั้งนั้น ผมไม่ทำเช่นนั้น" นายชวรัตน์ กล่าว
**กกต.ตั้งอนุฯสอบใน10วัน
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. แถลงว่า ที่ประชุมกกต.มีมติให้ตั้งอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่นายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัตน์ และเครือข่าย ยื่นให้ กกต.ตรวจสอบกรณีที่พรรคภูมิใจไทย จัดงานสัมมนาพรรคในจ.สกลนคร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการประกาศ พ.ร.ฎ.การเลือกตั้ง และกรณีที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิไทย แจกเงินให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยให้การตรวจสอบต้องแล้วเสร็จในเวลา 10 วัน
ทั้งนี้ ทางพรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตกรณีนายชวรัตน์ แจกเงินให้กับประชาชน ถึงแม้จะอยู่นอกเขตการเลือกตั้ง แต่ภาพที่ปรากฏในสื่อมวลชน อาจส่งผลให้พรรคภูมิใจไทยได้เปรียบพรรคอื่น ประกอบกับนายชวรัตน์ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ โดยระบุว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่หวังผลการเลือกตั้ง จ.สกลนคร เพราะพื้นที่ที่จัดสัมมนาเป็นพื้นที่ที่อยู่นอกเขตพื้นที่ที่จะมีการจัดเลือกตั้งซ่อม แต่เชื่อว่าคงจะมีผลบ้าง ซึ่งการสัมภาษณ์ของนายชวรัตน์ ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรค อาจส่งผลให้พรรคภูมิใจไทย ถูกยุบพรรคได้ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับดุลพินิจของกกต.
**ภท.ร้องให้ยุบพรรคเพื่อไทย
ต่อมาเวลา 14.30 น. นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ กกต. ขอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นางอนุรักษ์ บุญศล ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ของพรรคเพื่อไทย เขต 3 จ.สกลนคร และเสนอคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ยุบพรรคเพื่อไทย และมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย โดยนำหลักฐานเป็นซีดีการแถลงข่าว และเนื้อหาที่ถอดเทปคำพูดของนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ใส่ร้ายพรรคภูมิใจไทย เกี่ยวกับเรื่องการซื้อเสียง และให้กำนันผู้ใหญ่ มาสนับสนุนผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย
นายศุภชัย กล่าวว่า เรื่องที่นายพร้อมพงศ์แถลงนั้น เชื่อมโยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย มาตรา 53 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. พ.ศ.2550 ที่ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนเสียงให้แก่ตนเอง หรือผู้สมัครอื่น อีกทั้งยังห้ามใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด ซึ่งกรณีนี้นายพร้อมพงศ์ ถือเป็นกรรมการบริหารพรรค หากทำผิดตามมาตราดังกล่าว ก็มีผลทำให้อาจถูกยุบพรรคได้ นอกจากนี้ ชาวบ้านในอำเภอพรรณานิคม เตรียมแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทกับนายพร้อมพงศ์ กรณีที่กล่าวหาว่าถูกจ้างให้มาดำนา รวมถึงนายชวรัตน์ ก็เตรียมแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทด้วยเช่นกัน
**"ชวรัตน์"อ้างแจกเงินนอก เขต3
ด้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงเรื่องที่ถูกร้องเรียนว่า เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะเป็นประเด็น การให้เงินคนแก่ที่ตาบอด มีความลำบาก ไม่ใช่เฉพาะที่ จ.สกลนคร เท่านั้น ถ้าเจอริมทางก็ให้ ไม่ใช่ทำเพื่อการหาเสียงอย่างแน่นอน ประเด็นนี้ตัดทิ้งไปได้ การเป็นนักการเมือง ถ้าไม่มีเมตตา ไม่มีคุณธรรมในใจ ก็แย่กว่าประชาชนทั่วไปเสียอีก เรื่องนี้ตนพร้อมชี้แจงต่อ กกต. และที่สำคัญคนที่ตนให้เงินนั้น ก็อยู่ในพื้นที่ เขต 1 ขณะที่พื้นที่เลือกตั้งคือ เขต 3
ส่วนเรื่องงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิด ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดให้นั้น นายชวรัตน์ กล่าวว่า ประเพณีทางอีสาน ก็มีการบายศรี สู่ขวัญให้กัน ซึ่งตนก็ฟังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เขาพูดอะไรกัน ส่วนที่มีการเลี้ยงโต๊ะจีน ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด จ.สกลนคร นั้น เป็นงานที่คนท้องที่เขาจัด ตนบังเอิญผ่านไปเพื่อดูท่อส่งน้ำ แล้วผู้ว่าฯก็ชวนกินข้าว ไมทราบมาก่อนว่าจะมีการจัดงาน ยืนยันว่างานไม่ได้จัดให้ตน
"ผมต้องใส่หมวกสองใบ คือในฐานะรมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ฉะนั้นในฐานะหัวหน้าพรรค ก็ต้องใส่ไปให้กำลังใจผู้สมัคร ซึ่งผมไม่ได้ทำในฐานะรัฐมนตรี เรื่องนี้อาจเป็นเกมการเมือง แต่จะไม่มีผลต่อผู้สมัครส.ส.พรรคภูมิใจไทย ส่วนที่มีการโจมตีว่ามีการใช้เครื่องมือของมหาดไทย เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยในการเลือกตั้งนั้น ผมไม่ทำเช่นนั้น" นายชวรัตน์ กล่าว
**กกต.ตั้งอนุฯสอบใน10วัน
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. แถลงว่า ที่ประชุมกกต.มีมติให้ตั้งอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่นายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัตน์ และเครือข่าย ยื่นให้ กกต.ตรวจสอบกรณีที่พรรคภูมิใจไทย จัดงานสัมมนาพรรคในจ.สกลนคร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการประกาศ พ.ร.ฎ.การเลือกตั้ง และกรณีที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิไทย แจกเงินให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยให้การตรวจสอบต้องแล้วเสร็จในเวลา 10 วัน
